Market Strategy
คาด SET Index แกว่งออกข้างตามกรอบ 1350-1360 จุด ปัจจัยภายนอกยังขาดแรงหนุนหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ปิดทำการและตลาดหันให้ความสนใจการรายงานตัวเลข PMI ภาคการผลิตจีนเดือน ส.ค. ที่ยังหดตัวกดดันบรรยากาศการลงทุน แต่ความคืบหน้าทางการเมืองจากการจัดตั้ง ครม. และการพิจารณางบประมาณปี 68 วาระ 2-3 ที่จะชัดเจนในสัปดาห์นี้ ทำให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจราบรื่นแบบไร้รอยต่อเชื่อว่าจะเป็นตัวช่วยจำกัด Downside ของตลาด วันนี้เลือก GPSC TASCO

แม้การรายงาน CAIXIN PMI ภาคการผลิตจีนเดือน ส.ค. อยู่ที่ 50.4 ดีกว่าคาด 50 แต่ตลาดให้น้ำหนักกับ PMI ภาคการผลิตจีน (ตัวหลัก) ส.ค.เดือน 49.1 ต่ำกว่าคาด 49.5 และถือว่าภาคการผลิตหดตัวเป็นเดือน 4 ติดต่อกัน ประเมินเป็นความเสี่ยงต่อการขยายตัวของ GDP จีนที่รัฐบาลตั้งเป้าการเติบโตปีนี้ที่ 5% ถัดไปรอดูท่าทีของรัฐบาลจีนต่อการออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมหรือไม่ การตอบสนองของตลาดหุ้นวานนี้ดัชนี CSI300 ปรับลง -1.7% เรามองเป็นลบต่อหุ้นกลุ่มปิโตรฯ (PTTGC IVL)

ความคืบหน้าจากประเด็นการเมืองในสัปดาห์นี้จะมี 2ส่วน คือ 1) การตั้ง ครม.ที่ล่าสุดนายกฯ เผยเตรียมนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ในสัปดาห์นี้ ด้านการแถลงนโยบายฯ คาดระหว่างวันที่ 10-12 ก.ย. ส่วนการประชุม ครม.นัดแรกน่าจะเกิดในวันที่ 17 ก.ย. และ 2) การพิจารณางบประมาณปี 68 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท ในวาระ 2-3 ระหว่างวันที่ 3-5 ก.ย. ซึ่งเราคาดว่าจะผ่านไปได้ด้วยดี ทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณปี 68 ไม่สะดุด ประเมินความคืบหน้าข้างต้นทำให้การเร่งขับเคลื่อนนโยบายทำได้ต่อเนื่อง บวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก CPALL BJC และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง TASCO กลุ่มรับเหมาฯ CK เป็นต้น

Market Summary
SET Index ปรับลง 5.43 จุด แรงกดดันหลักมาจากกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบ PTTEP -1.06% กลุ่มธนาคารจากแรงขายทำกำไรปรับลง -0.74% OSP ปรับลง -6.7% เนื่องจากคาดว่าจะมีบันทึกขาดทุนจากการขายธุรกิจขวดในเมียนมากดดันงบ 3Q67 กลุ่มที่ Outperform กลุ่มปิโตรฯ IVL +7.6% แรงซื้อกลับหลังปรับน้ำหนัก MSCI กลุ่มไฟแนนซ์ SAK +3.3% JMT +4.4%

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ GPSC TASCO
GPSC
แนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง
เราคาดว่ากำไรในปี 67-68 จะเติบโตแข็งแกร่งที่ 49% และ 51% ตามลำดับ โดยการเติบโตของกำไรในปี 67 จะได้รับแรงหนุนจาก 1) ราคาก๊าซลดลง 18% YoY และ 2) ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้น 91% YoY ซึ่งมาจาก XPCL (โรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี) ส่วนการเติบโตของกำไรในปี 68 จะได้รับแรงหนุนจาก 1) ราคาก๊าซลดลง 4% YoY และ 2) ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้น 63% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการดำเนินงานเต็มปีของโครงการ CFXD ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งที่ไต้หวัน คาดว่าจะเริ่มดำเนินงานเต็มรูปแบบภายในปี 67
3Q67 น่าจะเป็นไตรมาสที่มีกำไรสูงสุดของปีนี้ และเป็นไตรมาสที่สามติดต่อกันที่มีการเติบโต QoQ ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER ที่น่าสนใจสำหรับปีงบ 67/68 ที่ 21.0 เท่า และ 13.9 เท่า ตามลำดับ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 53.00 บาท

TASCO
Demand การใช้ยางมะตอย
ในประเทศหนุนกำไร 2H67
ผลประกอบการ 2H67 คาดดีขึ้นจาก 1H67 อย่างมาก เนื่องจากตลาดในประเทศมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 และ เริ่มใช้งบประมาณใหม่ปี 68 ในเดือน ต.ค. 67 ส่วนตลาดต่างประเทศจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น

เราเห็นสัญญาณบวกจากสภาพัฒน์ปรับเป้าการลงทุนภาครัฐฯปี 67 หดตัว -0.7%YoY น้อยลงจากเดิมคาด -1.8%YoY และ 1H67 หดตัว -16.7%YoY สะท้อนภาพเม็ดเงินที่เร่งเข้าสู่ระบบตั้งแต่ 3Q67 ผสาน หากปัญหาน้ำท่วมทางภาคเหนือตอนล่าง-กลางตอนบนคลี่คลาย เป็นบวกต่อปริมาณการใช้ยางมะตอยเพื่อใช้ซ่อมถนน

การตั้งสำรองขาดทุนด้านเครคิตที่เกิดขึ้นใน 1H67 เท่ากับ 247 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทรับเหมาฯชำระเงินล้าช้า ผู้บริหารคาดจะบวกกลับมาเกือบทั้งหมดในปลาย 3Q-4Q67 หลังจากบริษัทรับเหมาได้รับชำระเงินจากหน่วยงานของรัฐบาล
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 20.00 บาท

KEY FACTOR
Caixin PMI ภาคการผลิตของจีนพลิกเร่งตัวสู่ระดับ 50.4 ดีกว่าคาด ในเดือน ส.ค.
ตัวเลขเศรษฐกิจจีน Caixin PMI ภาคการผลิต เดือน ส.ค. อยู่ที่ระดับ 50.4 พลิกสูงกว่าคาดที่ระดับ 50.0 และสูงขึ้นจาก 49.8 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งถือว่าสวนทางกับตัวเลข PMI ภาคการผลิตที่รายงานในช่วงสุดสัปดาห์ ชะลอลงสู่ระดับเพียง 49.1 จาก 49.4 ในเดือน ก.ค. โดยสาเหตุหลักมาจากยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่ในบริษัทขนาดกลางเล็ก ที่เน้นการส่งออก สะท้อนความต้องการสินค้าในตลาดต่างประเทศที่แข็งแกร่งกว่าในประเทศ

ปัจจัยภายในประเทศยังอยู่ในช่วงการจัดตั้งรัฐบาลซึ่งมีขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติว่าที่ ครม. และอาจจะช้ากว่าที่ตลาดคาดไว้เดิม มาเป็นการเสนอชื่อทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ และคาดว่าจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ภายใน 15 ก.ย. ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นไทยเข้าสู่รอบการพักฐานสั้นๆ และเห็นสัญญาณ Fund flow ต่างชาติชะลอตัวพลิกมาขายสุทธิ 1.478 พันล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับค่าเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่าที่สุดในรอบ 6 วันทำการ แตะระดับ 34.2 บาท/ดอลลาร์

EYES ON
4 ก.ย. Caixin PMI ภาคบริการ
5 ก.ย. CPI ของไทย เดือน ส.ค., การจ้างงานเอกชน ADP
6 ก.ย. GDP 2Q67 ของ Eurozone, การจ้างงานนอกภาคเกษตร และ อัตราการว่างงานสหรัฐฯ

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ