Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

415

 

รอมาตรการขับเคลื่อน
บนความคาดหมายว่ารัฐบาลใหม่ จะเริ่มปฎิบัติหน้าที่ได้ไม่เกิน 15 ก.ย.67เชื่อว่าหลังจากนั้นจะเริ่มเห็นมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจออกมา ซึ่งในมุมของตลาดหุ้นแล้วให้น้ำหนักไปที่ 2 เรื่องคือ การกระจายเม็ดเงินกระตุ้นCONSUMPTION ตามแนวคิดของนโยบาย DIGITAL WALLET ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบโดยจะเห็นเม็ดเงินราว 1.4 – 1.5 แสนล้านบาทไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจภายในเดือน ก.ย.67 คาดหมายว่าจะเป็นผลดีต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีกเช่น CPALL, CPAXT, BJC รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง เช่น ICHI,OSP, CBG เป็นต้น อีกเรื่องหนึ่งได้แก่ การเดินหน้ากองทุนวายุภักษ์ ซึ่งคาดหมายว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาประมาณ 1 –1.5 แสนล้านบาท เป็นผลดีต่อภาพรวมของตลาดโดยทำให้ TURNOVER และPERFORMANCE ราคาหุ้น MARKCT CAP. กลาง-ใหญ่ดีขึ้นในระยะสั้นช่วงรอมาตรการจากรัฐบาลใหม่ SET INDEX อาจเคลื่อนไหวในกรอบแคบช่วง 1348 – 1360 จุด หลังจากนั้นน่าจะขยับตัวสูงขึ้น หุ้นTOP PICK วันนี้เลือก CPALL, GPSC และ SPRC


FED ยังมีกระสุนลดดอกเบี้ย ลดแรงกระแทก HARD LANDING
BOND YIELD สหรัฐฯ อายุ 2 ปี ที่ชะลอตัวลงมาอย่างรวดเร็ว -7.8%YTD สวนทางกับอายุ 10 ปี +0.63%YTD ส่งผลให้ล่าสุดผลต่างของ BOND YIELD ระยะยาวลบออกด้วยระยะสั้นเท่ากับศูนย์ หรือไม่เกิดภาวะ INVERTED YIELD CURVE แล้วขณะที่สถิติในอดีตหลังจากช่วงที่เกิด INVERTED YIELD CURVE มักจะตามมาด้วยเศรษฐกิจซบเซา (RECESSION / HARD LANDING) หรือ เศรษฐกิจเติบโตช้าลง(SOFT LANDING) ในสหรัฐฯ

นับตั้งแต่ช่วงปี 1957 – ปัจจุบัน สหรัฐฯ เคยเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวมาแล้ว 13 ครั้งโดย 10 ครั้ง เป็นแบบ HARD LANDING หรือเกิด RECESSION ส่วนอีก 3 ครั้ง FEDประสบความสำเร็จในการทำ SOFT LANDING หลังใช้นโยบายการเงินเข้มงวดปี 19841994 และ 2018 หนุนให้ผลตอบแทน DOW JONES ในช่วงนั้น ปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย9% โดยมี SECTOR เด่น CONMAT, FIN, FOOD, PKG, PF&REIT, COMM


ขณะที่สถานการณ์ปัจจุบัน ดอกเบี้ยสหรัฐฯ อยู่ในระดับ 5.5% สูงสุดในรอบ 23 ปี ทำให้ FED ยังมีกกระสุนอีกมากในปรับลดดอกเบี้ย เพื่อลดแรงกระแทกต่อการเกิดHARD LANDING ทั้งนี้ นักลงทุนจำเป็นต้องติดตาม 4 สัญญาณชี้วัดเศรษฐกิจRECESSION ในสหรัฐฯ (เกณฑ์ของ NBER) อย่างใกล้ชิด ได้แก่ ภาคการผลิตอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก ตลาดแรงาน และการใช้จ่ายส่วนบุคคล ทั้งนี้หากปัจจัยเหล่านี้เข้าสู่ภาวะหดตัวพร้อมๆ กัน (GROWTH < 0%) อาจมีความเสี่ยงมากขึ้นต่อเกิดเศรษฐกิจซบเซา

ครม.ชุดใหม่เสร็จสิ้น เตรียมทูลเกล้า 4 ก.ย.67 พร้อมสานต่อนโยบายกระตุ้น
วันนี้ ถึง 5 ก.ย.67 รัฐสภาจะมีโหวตงบประมาณประจำปี 68 วาระ 2-3 ซึ่งพรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าโหวตผ่าน โดยคาดการณ์เสียงสนับสนุนไม่น่าจะต่ำกว่า 320 เสียง(ตามคะแนนเสียงพรรคร่วมรัฐบาล) ซึ่งจะทำให้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะถัดไปเดินหน้าต่อไปได้ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของไทย ได้แถลงความคืบหน้าในการจัดตั้ง ครม.ชุดใหม่ ว่าได้มีการจัดตั้งเสร็จสิ้นแล้ว พร้อมเตรียมรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯในวันที่ 4 ก.ย.67(พรุ่งนี้) ตามด้วยพิธีการต่างๆ คือ การรอโปรดเกล้าฯ ลงมา การถวายสัตย์ปฏิญาณ และสุดท้ายจะมีการเรียกประชุมครม.ใหม่นัดแรก เพื่อขอมตินโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา คาดว่าจะอยู่ในช่วงวันที่11-13 ก.ย.67ซึ่งต้องติดตามว่า ครม.ชุดใหม่จะมีใครบ้างเป็นไปตามที่ตลาดคาดหรือไม่ และนโยบายที่จะเสนอต่อรัฐสภามีนโยบายอะไรบ้าง ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ คาดว่าไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายหลักไปจากเดิมมากนัก และน่าจะเห็นช่วงเวลาของการดำเนินการนโยบายต่างๆคล้ายเดิมตามการโหวตงบประมาณประจำปี 68 วาระ 2-3 ที่น่าจะผ่านมติได้ไม่ยากนัก โดยนโยบายที่คาดว่าจะออกมา และเกี่ยวข้องกับตลาดทุนโดยตรง คือ

1) การศึกษาแผนการขยายกองทุนวายุภักษ์ เพื่อใช้เป็น TREASURY STOCK สำหรับหุ้นใน SET50-SET100 เพื่อเป็นอาวุธในการลดความผันผวนของ SET INDEX ส่วนหุ้นที่คาดได้ประโยชน์ (ในหัวข้อถัดไป)

2) การเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยการขยายความจุสนามบินสุวรรณภูมิ และการสร้าง ENTERTAINMENT COMPLEX ครบวงจร ที่ล่าสุดทางราชตฤณมัยสมาคมฯ พร้อมทุ่ม 2 แสนล้านบาทหนุนโครงการดังกล่าว ภายใต้ชื่อ “THEROYAL SIAM HAVEN” ส่วนหุ้นที่คาดได้ประโยชน์ คือ AWC CENTEL MINT ERWCPN AOT

3) การปรับเปลี่ยนนโยบาย DIGITAL WALLET โดยเสนอปรับ แจกเงินสดแก่กลุ่มเปราะบาง-ผู้พิการก่อน 1 หมื่นบาท/ราย ด้วยงบกลางและงบฯ ปี 67 รวมแล้วประมาณ1.45 แสนลบ.(ภายใน ก.ย.67) หลังจากนั้นใช้งบฯ ปี 68 แจกเงิน DIGITAL แก่ผู้ลงทะเบียน 30 ล้านคนไม่ซ้ำกับกลุ่มแรก และต่อยอดระบบเพื่อโครงการในอนาคต ส่วนหุ้นที่คาดได้ประโยชน์ คือ MTC BAM TIDLOR TU TFG GFPT CPALL CPAXT BJCสรุป ความกังวล POLITICAL UNCERTAINTY ในบ้านเราดูผ่อนคลายลง ขณะที่ครม.ชุดใหม่ เตรียมทูลเกล้า 4 ก.ย.67 และเตรียม แถลงนโยบายครั้งแรกต่อรัฐสภาในช่วงวันที่ 11-13 ก.ย.67 ทำให้นโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเดินหน้าได้ต่อเนื่องมองเป็น SENTIMENT เชิงบวกต่อ SET INDEXคัด 10 หุ้น คาดหวังเม็ดเงินใหม่หนุนทั้งจากกองทุน ESG ใหม่และวายุภักษ์ใหม่ในปีนี้ สถาบันฯ ยังซื้อสุทธิหุ้นไทยน้อยอยู่เพียง 4.1 พันล้านบาท (YTD) แต่ช่วงที่เหลือของปี มีโอกาสเห็นสถาบันฯ ซื้อหุ้นไทยเพิ่ม จาก 2 ส่วน ดังนี้


1. จากกองทุน ESG ใหม่ ที่เริ่มต้นตั้งแต่ 16 ส.ค. 67 ก็เห็นเม็ดเงินสถาบันฯ สลับเข้ามาเพิ่มเติมถึงปัจจุบัน 3.4 พันล้านบาท และเชื่อว่าเม็ดเงินน่าจะทยอยเข้าต่ออีก 2 –3 หมื่นล้านบาท ในช่วงที่เหลือของปี

2. จากกองทุนวายุภักษ์ใหม่ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วง 1 – 2 เดือนนี้ และคาดหวังเม็ดเงินหนุนตลาดหุ้นไทยราวราว 1 –1.5 แสนล้านบาทแนะนำเก็งกำไรหุ้น 10 บริษัท คาดหวังเม็ดเงินใหม่หนุนทั้งจากกองทุน ESG ใหม่ และวายุภักษ์ใหม่ โดยคัดกรองจากหุ้นที่วายุภักษ์ถือเยอะ และมี ESG RATING “AAA”ประโยชน์จาก 2 ประเด็น คือ PTT, BCP, KTB, ADVANC, SCC, KBANK, CRC,CPF, SCGP, OR

 

Research Division
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส

เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม, CISA
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้