News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

29 ส.ค. 2567 09:59:26 427

Market Wrap-Up

SET วันที่ 28 ส.ค.67 ปิด +1.41 จุด อยู่ที่ 1,365.72 จุด มูลค่าการซื้อขาย 43,085 ลบ.ต่างชาติซื้อ 1,761 ลบ.พอร์ตโบรกซื้อ 163 ลบ.สถาบันขาย 1,303 ลบ. รายย่อยขาย 620 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิรวม 834 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น DELTA,TRUE,CPF,KBANK,BCH และมียอดขายสุทธิ ADVANC,AOT,GPSC,IVL,EA มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,037 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ RCL-R,SCC,TPIPL-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 13,643 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 166,722 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 9,940 ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.39%, S&P500 -0.60%, Nasdaq -1.12% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี -1.3%,สินค้าฟุ่มเฟือย -1.05% นำโดย Nvidia -2.1% ก่อนการรายงานงบหลังปิดตลาด ส่งผลให้ Amazon, Alphabet, MSFT ปรับลดลงด้วย ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.33% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเคมีภัณฑ์ +1.4% และประกัน +1.2% ขณะที่กลุ่มทรัพยากรพื้นฐาน -1.2% ปรับลดลงตามราคาโลหะ จากความกังวลอุปสงค์จากจีนชะลอตัว

Market View

ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี ระหว่างรอการรายงานกำไร Q2/67 ของ Nvidia หลังปิดตลาด ซึ่งมีกำไรอยู่ที่ 1.69 หมื่น ล.ดอลลาร์ +152% YoY, +11% QoQ และดีกว่าคาด +5.4% แต่ราคาหุ้น Nvidia หลังปิดตลาด -7.5% เนื่องจากผู้บริหารคาดการณ์รายได้ Q3/67 อยู่ที่ 3.25 หมื่น ล.ดอลลาร์ +/- 2% ซึ่งต่ำที่ตลาดคาดการณ์กรณีดีสุดที่ 3.79 หมื่น ล.ดอลลาร์ กอปรความล่าช้าในการผลิตชิปรุ่นใหม่ Blackwell จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ Nasdaq Futures เช้านี้ -0.89% สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจวันนี้ติดตาม US GDP Q2/67 ครั้งที่ 2 คาด +2.8% QoQ และวันศุกร์ US PCE ก.ค. คาด 5% & มิ.ย. 2.5% YoY, US Core PCE ก.ค. คาด 2.7% & มิ.ย. 2.6% YoY ซึ่งจะมีผลต่อคาดการณ์ปริมาณการลดดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากกลุ่มเคมีภัณฑ์และประกัน หลังรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคฝรั่งเศส ส.ค. ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 92 ตามคาด ส่วนค่ำวันนี้ติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซน ส.ค. คาดที่ -13.4 & ก.ค. -13.0 รวมถึง CPI เยอรมัน, สเปน ส.ค.และวันศุกร์ติดตาม CPI ยูโรโซน เบื้องต้น ส.ค. คาด 2.2% & ก.ค. 2.6% YoY ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจของ ECB จะลดดอกเบี้ยอีก 0.25% หรือไม่ในการประชุม 12 ก.ย.
ตลาดหุ้นเอเขียวานนี้ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.40% จากความกังวลเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช้า และยังไม่มี ม.กระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ส่วนตลาดเอเชียเหนือก็ปรับลดลง อยู่ระหว่างรอรายงานกำไรของ Nvidia ซึ่งจะมีผลต่อกลุ่มบริษัทซัพพลายเออร์ เช่น TSMC, SK Hynix, Advantest Corp. โดยดัชนีนิเกอิเช้านี้ -0.50% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี หลังผิดหวังต่อคาดการณ์รายได้ของ Nvidia ใน Q3 นี้
ดัชนี SET วานนี้ +0.10% ปริมาณการซื้อขาย 4.3 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 1,761 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 163 ลบ. สถาบันขาย 1,303 ลบ.และรายย่อยขาย 620 ลบ. ดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มอิเล็ก ฯ, สื่อโฆษณา, ไอซีที, อาหาร และ รพ. ซึ่งเป็นกลุ่มที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจในงาน Thailand Focus 2024 โดยผู้จัดการ ตลท.เผยผลประกอบการ บจ.ไทยในงวด 1H/67 ดีกว่าคาด โดยรายได้เติบโต +36% และกำไร +9.7% เมื่อเที่ยบกับงวดเดียวกันปีก่อน ขณะที่ครึ่งปีหลังคาดจะได้ปัจจัยหนุนจากโครงการลงทุนของรัฐบาล รวมถึง Fund Flow จากต่างชาติมีแนวโน้มไหลเข้าลงทุนในตลาดเกิดใหม่ หลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้นใน ก.ย. นี้ อย่างไรก็ตามดัชนี SET ปรับขึ้นติดต่อกัน 8 วันทำการ รับปัจจัยบวกความชัดเจนด้านการเมืองและรอ ม.กระตุ้นกำลังซื้อใน ก.ย. ส่งผลให้ Upside ของดัชนีเริ่มจำกัด กอปรกับนักลงทุนยังรอตัวเลข US PCE ก.ค. จะรายงานในช่วงค่ำวันศุกร์นี้ ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม คือ ขอร้องเรียนพรรคเพื่อไทย กรณีคุณทักษิณอาจเข้ามาแทรกแซงในช่วงการจัดฟอร์มรัฐบาล และคณะ รมต.ใหม่

Daily Strategy

วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,350 – 1,360 โดยมีแนวต้านที่ 1,370 – 1,380 โดยดัชนีมีโอกาสปรับฐานจากแรงขายกลุ่มอิเล็ก ฯ มีโอกาสปรับลดลงตาม Nasdaq กอปรกับกลุ่มพลังงานมีโอกาสปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบ แนะนำทยอยซื้อบริเวณแนวรับ กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL,CPAXT,BJC,DOHOME,GLOBAL คาดได้ประโยชน์จาก ม.กระตุ้นกำลังซื้อใน ก.ย.และกลุ่มปลอดภัย เช่น ADVANC,GULF,BDMS,BH,CPF,TFG,BTG
TEGH* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 4.74 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 2Q67 ที่ 101 ล้านบาท +59%QoQ, +2,743%YoY หนุนจากอัตรากำไรของธุรกิจยางที่เติบโตและการฟื้นตัวของธุรกิจปาล์มน้ำมัน ทั้งนี้คาดกำไรปกติจะดีขึ้นต่อเนื่องในช่วง 3Q67-4Q67 ตามทิศทางราคายางพาราในตลาด SICOM ที่ปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงจะทยอยส่งมอบยางมาตรฐาน EUDR ตามสัญญา ไปยุโรปเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลบวกต่ออัตรากำไรขั้นต้น โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายยางในปี 67 เติบโต 10% และมีแผนขยายกำลังการผลิตยางแท่งปี 67-68 ที่ 9 แสนตัน และ 4.3 แสนตัน ตามลำดับ ส่วนธุรกิจปาล์มที่ดีขึ้นต่อตามสภาพอากาศที่เปลี่ยนเป็น la Nina เอื้ออำนวยต่อปริมาณผลผลิตปาล์มเพิ่มขึ้น ทั้งนี้อิงจาก Consensus ตลาดประเมินกำไรปี 67-68 ที่ 467 ล้านบาท +118%YoY และ 637 ล้านบาท +36%YoY
BDMS (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 35.00 บาท) สำหรับ 3Q67 เบื้องต้นเราคาดว่า กำไรปกติของ BDMS จะปรับขึ้น QoQ ตามฤดูกาล(ฤดูฝนเป็นบวกต่อกลุ่มผู้ป่วยไทยและผู้ป่วย Expat) และปรับขึ้น YoY ตามการเติบโต Volume ผู้ป่วยที่เห็นต่อเนื่องมาจากการโต YoY ครึ่งแรกของปี ขณะที่ในเชิงรายได้ 2H67 จะมีแรงหนุนเพิ่มเติมจาก Capacity ที่สูงขึ้นของร.พ. โดยมี.ค.67 ที่ผ่านมา เปิด พญาไทยศรีราชา 2 (IPD 113 เตียง) ไปแล้ว ส่วน 3Q67 คาดเปิดศูนย์มะเร็งภูเก็ต และ 4Q67 ถัดไป ร.พ.เด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล(IPD 100 เตียง) นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติในตลาดใหม่อย่างซาอุฯ ปัจจุบัน เราประเมินกำไรสุทธิปี67 ที่ 15,824 ลบ.( +10%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ต.ค. -$1.01 อยู่ที่ $74.52 / บาร์เรล, Brent ต.ค. -$0.90 อยู่ที่ $78.65/บาร์เรล กังวลอุปสงค์จากจีนชะลอตัว ขณะที่ EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 846,000 บาร์เรล ลดลงน้อยกว่าจะลด 2.3 ล.บาร์เรล

Gold Update(-) Comex Gold ธ.ค.-$15.10 อยู่ที่ $2,537.80 /ออนซ์ ถูกกดดันจาก Dollar Index แข็งค่า +0.54% อยู่ที่ 101.094 ระหว่างรอรายงาน US PCE ก.ค. ในช่วงค่ำวันศุกร์นี้

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +199.02 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +51.76 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +135.06 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +12.20 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านีทรงตัวอยู่ที่ 33.99 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 3.834 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +34 จุด อยู่ที่ 1,755

(-) BitCoin เช้านี้ -0.12%อยู่ที่ 59,018 ดอลลาร์สหรัฐ

Economic Calendar

ในประเทศ

28-30 ส.ค. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) จัด Thailand Focus 2024

30 ส.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

สัปดาห์ที5 สภาพัฒน์ รายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 2/67

สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

ต่างประเทศ

27 ส.ค. US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี ( ส.ค.)

28 ส.ค. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

29 ส.ค. US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 2)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

30 ส.ค. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ส.ค.)

US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) ( ก.ค.)

31 ส.ค. CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน ( ส.ค.)

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,

(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*

(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB

(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio August 2024: KCG*, CPALL, AU*, CPF, THCOM