News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

26 ส.ค. 2567 09:20:47 438

Market Wrap-Up

SET วันที่ 23 ส.ค.67 ปิด +13.84 จุด อยู่ที่ 1,354.87 จุด มูลค่าการซื้อขาย 62,545 ลบ.ต่างชาติซื้อ 2,842 ลบ.สถาบันซื้อ 754 ลบ.รายย่อยขาย 3,596 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิรวม 2,676 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น KBANK,BBL,KTB,EA,GULF และมียอดขายสุทธิ ADVANC,INTUCH,TISCO,HMPRO,BDMS มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,048 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ DEMCO,TTW-R,QH-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 15,472 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 147,120 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 2,087 ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +1.14%, S&P500 +1.15%, Nasdaq +1.47% ได้แรงหนุนจากกลุ่มอสังหา +2.0%, สินค้าฟุ่มเฟือย +1.7% หลังเจอโรม พาวเวล ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ส่วน ก.พาณิชย์สหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่ ก.ค. +10.6% MoM สูงสุดนับตั้งแต่ พ.ค. 66 ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.46% ได้แรงหนุนจากกลุ่มอสังหา +1.3%, สาธารณูปโภค +1% ตอบรับเฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย.

Market View

DJIA +1.27%, S&P500 +1.45%, Nasdaq +1.4% WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี, สินค้าฟุ่มเฟือย และอสังหา ฯ หลังถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ที่แจ๊คสัน โฮล ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยใน ก.ย. เนื่องจากเงินเฟ้อสหรัฐลดลง กอปรกับตลาดแรงงานไม่มีสัญญาณอ่อนตัวแบบรุนแรง โดย CME Fed Watch ชี้โอกาส 76% เฟดจะลดดอกเบี้ย 25% ในการประชุมวันที่ 17 – 18 ก.ย. และคาดจะลดอีก 2 ครั้งในการประชุม พ.ย., ธ.ค. นี้ ซึ่งตลาดคาดเฟดจะลดดอกเบี้ยปีนี้ราว 0.75 – 1.00% สัปดาห์นี้ติดตาม US GDP Q2/67 ครั้งที่ 2 คาด +2.8% QoQ และ US PCE ก.ค. คาด 2.6% & มิ.ย. 2.5% YoY
ตลาดหุ้นยุโรป +1.3% WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มเวชภัณฑ์, ยานยนต์ และค้าปลีก ส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจนั้น PMI รวมภาคผลิต & บริการยูโรโซน เบื้องต้น ส.ค. อยู่ที่ 2 & ก.ค. 50.2 ได้แรงหนุนจากภาคบริการที่ขยายตัวดี ขณะที่ CPI ยูโรโซน ก.ค. อยู่ที่ 2.6% & มิ.ย. 2.5% YoY ตามคาดการณ์ โดยสัปดาห์นี้ติดตาม GDP Q2/67 ของเยอรมัน, ฝรั่งเศส และ CPI เยอรมัน, ฝรั่งเศส ส.ค. เพื่อประเมินโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุม ECB วันที่ 12 ก.ย. ซึ่ง Consensus คาดมีโอกาสลดอีก 2 ครั้งในปีนี้
ตลาดหุ้นเอเขีย MSCI Asia Pacific X Japan +1.0% WoW ได้แรงหนุนจากคาดการณ์เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ส่วนดัชนีนิเกอิ +1.3% WoW ผันผวนตามค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น หลัง ปธ.BOJ ชี้แจงต่อรัฐสภาจะทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยไปที่ระดับ Neutral Rate ที่ 1% เนื่องจากเงินเฟ้อญี่ปุ่นมีแนวโน้มสูงขึ้น จาก ม.ปรับขึ้นค่าแรงงาน ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.87% WoW หลัง ธ.กลางจีนยังคงดอกเบี้ย LPR ที่ระดับเดิม
ดัชนี SET +3.98% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 05 หมื่น ลบ.+18.3% WoW สถาบันซื้อ 4,708 ลบ. รายย่อยซื้อ 1,934 ลบ. ต่างชาติขาย 5,948 ลบ. และพอร์ตโบรกขาย 695 ลบ. WoW กลุ่มที่ปรับขึ้น คือ ไฟแนนท์ +13.8%, สื่อโฆษณา +10.0%, รับเหมาก่อสร้าง +9.2%, ค้าปลีก +8.7% ขณะที่กลุ่มปรับลดลง คือ อิเล็กฯ -1.77% และอาหาร -1.0% WoW โดยดัชนีได้ปัจจัยหนุนจากความชัดเจนด้านการเมือง หลังสภาผู้แทน ฯ ลงมติเลือกนายก ฯ ท่านใหม่ และรอการแต่งตั้ง ครม.ชุดใหม่เข้าบริหารประเทศใน ก.ย. กอปรกับช่วงกลางสัปดาห์คุณทักษิณ ได้แสดงวิสัยทัศน์ Vision for Thailand 2024 ที่มีความชัดเจนใน ม.กระตุ้นการใช้จ่าย ด้วยการแจกเงินให้กับกลุ่มเปราะบางและคนพิการ 14.5 ล.คน คนละ 1 หมื่น ลบ. ใน ก.ย. นี้ ส่วนด้านการลงทุนจะส่งเสริมอุตสาหกรรม EV Car, ดาวเทียม, Data Center และ Entertainment Complex และด้านพลังงานจะหารือแหล่งพลังงานในบริเวณพื้นที่ทับซ้อน สัปดาห์นี้ติดตามตัวเลขส่งออกไทย ก.ค. คาด +6.85% & มิ.ย. -0.3% YoY และวันศุกร์ MSCI จะรีบาลานท์ดัชนีด้วยการปรับหุ้น AWC,GPSC,EA,IVL ออกจาก Global Standard Index ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่ระวัง คือ การโจมตีระหว่างอิสราเอล & ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน

Daily Strategy

วาง Filter แนวรับดัชนี SET ที่ 1,340 กรณียืนได้ถือพอร์ตต่อ โดยมีแนวต้านที่ 1,370 ประเมินดัชนีมีโอกาสปรับขึ้นจากความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับดีขึ้น กอปรกับเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย ซึ่งเป็นบวกต่อ Fund Flow ในตลาด TIP แนะนำทยอยซื้อ CPALL,CPAXT, BJC,KBANK,SCB,KTB, และ SAWAD,MTC,KTC,JMT ได้ประโยชน์จาก ม.กระตุ้นกำลังซื้อ/ AAV,BA,GULF,GSPC,COM7 ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็งค่า
PLANB* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 10.20 บาท) กำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 264 ลบ. +46%QoQ, +16%YoY หนุนจากรายได้สื่อนอกบ้าน (OOH) ทุกประเภทที่ฟื้นตัวหลังผ่านช่วง low season ส่งผลให้ U-rate ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 76% เทียบกับ 1Q67 ที่ 70% และ 2Q66 ที่ 70% ประกอบกับธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วม (engagement marketing) ดีขึ้นจากทั้งการตลาดศิลปินและกีฬามวยที่ได้รับความนิยม และรับรู้รายได้จากการบริหารสิทธิกีฬา Olympic 2024 สำหรับแนวโน้ม 3Q67 คาดกำไรเติบโตต่อเนื่อง โดยยังคงมีการบันทึกรายได้จาก Olympic อีกก้อนราว 330 ลบ. และมี media capacity เพิ่ม ส่วน 4Q67 ที่เป็น high season ของสื่อนอกบ้าน ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี67-68 ที่ 09 พันลบ.+10%YoY และ 1.24 พันลบ.+15%YoY
CPALL (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย 75.50 บาท) มี Sentiment บวกจากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของภาครัฐฯ ขณะที่ในส่วนของกำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 6,239 ลบ.(+58%YoY, -1.26%QoQ) หนุนด้วยรายได้ 7-11 ที่ยอดขาย +10%YoY, +6%QoQ ทั้งนี้ นอกจากรายได้ที่ดีแล้ว ปัจจัยบวกต่อกำไรยังมาจาก 1.Finance Cost ที่ลดลง YoY 2.การเน้นไปที่สินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงกว่า เช่น สินค้า RTE และเครื่องดื่ม และ 3.สัดส่วนของ 7-11 ที่สูงขึ้นเมื่อเทียบ Makro-Lotus บวกต่อ GPM ด้าน Q3 ช่วงถัดไป แม้คาดว่าจะอ่อนตัว QoQ ตามฤดูกาล แต่จะกลับมาดีต่อใน Q4 โดย ปัจจุบัน ประมาณการกำไรสุทธิปี67 และ 68 ที่ 23,828 ลบ.( +29%YoY) และ 26,224 ลบ.( +10%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ต.ค. +$1.82 อยู่ที่ $74.83 / บาร์เรล, Brent ต.ค. +$1.80 อยู่ที่ $79.02/บาร์เรล หลังเจอโรม พาวเวลส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ส่งผลบวกอุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมันของตลาดโลก

Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค.+$29.60 อยู่ที่ $2,546.30 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.78% อยู่ที่ 100.717 และ US Bond Yield 10 ปี ปรับลดลงอยู่ที่ 3.777%

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์นี้ ซื้อสุทธิ +473.83 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -171.13 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +532.37 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +112.58 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 33.87 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 3.777 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -6 จุด อยู่ที่ 1,762

(0) BitCoinเช้านี้ ทรงตัวอยู่ที่ 63,997 ดอลลาร์สหรัฐ

(0) FTSE รีบาลานท์ Large Cap Index ที่ออก คือ CRC,EA,MINT,PTTG,OR โดยจะปรับลงสู่ Mid Cap Index ส่วนหุ้นที่ออกจาก Mid Cap คือ BLA จะมีผลในวันที่ 6 ก.ย. นี้

Economic Calendar

ในประเทศ

28-30 ส.ค. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) จัด Thailand Focus 2024

30 ส.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

สัปดาห์ที5 สภาพัฒน์ รายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 2/67

สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

ต่างประเทศ

27 ส.ค. US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี ( ส.ค.)

28 ส.ค. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

29 ส.ค. US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 2)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

30 ส.ค. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ส.ค.)

US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) ( ก.ค.)

31 ส.ค. CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน ( ส.ค.)

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,

(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*

(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB

(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio August 2024: GFPT*, CPALL, BH, CPF, THCOM