ยังมีมุมมองทางบวก
GDP GROWTH งวด 2Q67 ของบ้านเราออกมาที่ 2.3% YOY สูงกว่าคาดเล็กน้อย ขณะที่ยังคาดหมายว่าในช่วง 2H67จะเห็นการเติบโตเป็นขันบันได ซึ่งถือเป็นมุมมองเชิงบวกต่อ SET INDEX แม้จะมีผลต่อเนื่องให้กนง.ที่จะประชุมในวันพรุ่งนี้ คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.5% ทั้งนี้บนสมมุติฐานดังกล่าวที่ระดับ SET INDEX ปัจจุบันยังให้ค่า MARKETEARNING YIELD GAP ที่ 4.3% เทียบกับค่าเฉลี่ยที่ 3.8% สะท้อนภาพVALUATION ของตลาดหุ้นไทยที่ยังถูก ส่วนความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลคาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะได้ชื่อ ครม. ครบทั้งคณะ หลังจากนั้นจะเป็นการตรวจสอบคุณสมบัติอย่างละเอียด ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ส่วนแนวนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภา คาดว่าจะใช้แนวทางต่อเนื่องจากรัฐบาลก่อนหน้า เรายังเชื่อว่ารัฐบาลใหม่น่าจะเริ่มงานได้เดือน ก.ย.67ประเมินจากปัจจัยแวดล้อมดังกล่าวข้างต้น ยังเชื่อว่าน่าจะทำให้เกิดMOMENTUM เชิงบวกต่อ SET INDEX ต่อเนี่อง วันนี้คาดกรอบ 1310 –1335 จุด หุ้น TOP PICK วันนี้เลือก AOT, DOHOME และ PLANB
GDP ไทย 2Q67 โตสูงกว่าคาด แต่ยังไม่น่าวางใจ
วานนี้สภาพัฒน์เผยตัวเลข GDP GROWTH ไทยในงวด 2Q67 ออกมาเติบโต+0.8%QOQ และขยายตัว +2.3%YOY ซึ่งสูงกว่างคาดที่ +2.2%YOY อีกทั้งเพิ่มขึ้นจาก 1Q67 ที่เติบโต +1.6%YOY ทำให้ 1H67 เศรษฐกิจไทยขยายตัว +1.9%YOYรายละเอียดองค์ประกอบ GDP 2Q67
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2567 สภาพัฒน์ฯ ประเมินขยายตัว 2.3 – 2.8%(เดิมคาด 2.0 -3.0%)ขณะที่ BLOOMBERG ประเมิน GDP GROWTH ไทยใน 3Q67+2.7%YOY และ 4Q67 +4.0%YOY หนุนตลอดปี 2567 +2.6%YOYนอกจากนี้หากพิจารณาข้อมูลในอดีต ช่วงที่เศรษฐกิจไทยมีแรงกระตุ้นทยอยฟื้นตัวได้สูงกว่าคาดการณ์ มักจะหนุนให้ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มขยับขึ้นตามไปด้วย อาทิ ช่วง1Q66-1Q65 เป็นต้น ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ เชื่อว่าทิศทางเศรษฐกิจในช่วง 2H67 น่าจะเห็นการเติบโตเป็นขั้นบันได ทั้งนี้ถือเป็นภาพที่สอดคล้องกับกำไรบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่า2H67 น่าจะเติบโต YOY เด่น
ในอีกแง่มุมหนึ่ง แม้GDP GROWTH ไทยในปีนี้จะแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แต่บ้านเราอาจกำลังเผชิญความเสี่ยงปัญหาเชิงโครงสร้าง ท่ามกลางช่วงรอยต่อรอยต่อการเปลี่ยนผ่านจาก OLD ECONOMY สู่ NEW ECONOMY ส่วนหนึ่งสะท้อนจากเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการลงทุนภาคเอกชนใน 2Q67 พลิกหดตัว -6.8%YOY ด้วยแรงกดดันหลักๆ จากหมวดยานพาหนะและภาคก่อนสร้างนอกจากนี้การที่ไทยพึ่งพาการน าเข้าจากจีนพุ่งสูงขึ้น เสี่ยงกระทบภาคการผลิตภายในประเทศชะลอตัวลงได้
สรุป เศรษฐกิจไทยใน 2H67 มีแนวโน้มเติบโตแบบขั้นบันได คาดหวังหนุน SET ขยับขึ้นอย่างไรก็ตามยังต้องเฝ้าระวังความเสี่ยงจากภาคการลงทุนเอกชนที่ชะลอตัวลง ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อการเปลี่ยนผ่านจาก OLD ECONOMY สู่ NEW ECONOMY
การลดดอกเบี้ยในไทย อาจไม่เกิดขึ้นในปีนี้ หนุนค่าเงินบาทมีเสถียรภาพมากขึ้น ส่วน MEYG ยังอยู่เหนือค่าเฉลี่ย
หลังตัวเลข GDP งวด 2Q67 ออกมาดีกว่าคาด ทำให้การประชุม กนง. พรุ่งนี้ ตลาดคาดว่าจะคงดอกเบี้ย 2.5% และมีโอกาสสูงที่ กนง.จะคงดอกเบี้ยระดับนี้จนถึงสิ้นปีเนื่องจาก กนง.มองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.5% อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจเข้าสู่ศักยภาพและเงินเฟ้อที่ปรับดีขึ้น รวมทั้งเอื้อต่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงินในระยะยาวแล้ว ซึ่งประเด็นดังกล่าว อาจเป็นสาเหตุที่ท าให้ FUND FLOW ชะลอการไหลออกได้ และหนุนให้ค่าเงินบาทมีเสถียรภาพมากขึ้นในอนาคต
ซึ่งสภาวะปัจจุบันที่ FED ทยอยลดดอกเบี้ย ส่วน กนง.คงดอกเบี้ย ท าให้ส่วนต่างดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐกับไทยที่แคบลง โดยฝ่ายวิจัยฯ ทำการศึกษาว่า ส่วนต่างดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐกับไทยที่แคบลง 0.25% จะหนุนให้บาทแข็งค่าได้ราว 70 สตางค์ดังนั้น ถ้า 21 ส.ค.67 กนง. ยังคงดอกเบี้ยไทย และ 18 ก.ย.67 FED ลดดอกเบี้ย0.25%-0.5% อาจจะหนุนให้บาทเร่งแข็งค่าขึ้น 0.7-1.4 บาท/เหรียญฯ จูงใจให้ต่างชาติทยอยกลับมาลงทุนในหุ้นไทยเพิ่มขึ้นในช่วงที่
เหลือของปี
และอีกหนึ่งแรงจูงใจให้ต่างชาติทยอยกลับมาลงทุนในหุ้นไทย คือ VALUATION ของSET ที่น่าสนใจ โดยระดับ MARKET EARNING YIELD GAP ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ4.31%(สูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่อยู่ 3.9%และ อยู่สูงใกล้แตะระดับ +1SD.)จึงคาด SET
INDEX ค่อนข้างจำกัด DOWNSIDE และเปิด UPSIDE ส าหรับนักลงทุนหวังผลกำไรระยะกลาง-ยาว
สรุป หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีขึ้นทั้ง GDP GROWTH และ CPI จึงท าให้กนง.ยังไม่ส่งสัญญาณ DOVISH ในปีนี้ ประเด็นดังกล่าว จึงทำให้ค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าระยะถัดไป และลุ้น FLOW ต่างชาติไม่ไหลออกจากบ้านเราไปมากกว่านี้ ส่วนระดับ MARKET EARNING YIELD GAP ปัจจุบันของ SET อยู่ระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี
FUND FLOW ต่างชาติยังเอนเอียงมาที่เอเชียใต้ รวมถึงหุ้นไทย
ในเดือน ส.ค. FUND FLOW มีการไหลออกจากเอเชียเหนือ คือ ขายสุทธิตลาดหุ้นไต้หวัน -1.0 พันล้านเหรียญ, ญี่ปุ่น 820 ล้านเหรียญ, เกาหลีใต้ -512 ล้านเหรียญ แต่ซื้อหุ้นในกลุ่ม TIP อย่าง ตลาดหุ้นอินโดนีเซียถูกซื้อสุทธิ 380 ล้านเหรียญ, ฟิลิปปินส์17 ล้านเหรียญ
ส่วนตลาดหุ้นไทย แม้วานนี้ต่างชาติจะขายสุทธิ 1.05 หมื่นล้านบาท แต่ถ้าหัก BIGLOTหุ้น SCCC ออก 12,177 ล้านบาทออก ก็จะเห็นภาพรวมยังเป็นการซื้อสุทธิวานนี้1.69 พันล้านบาท และซื้อสุทธิ 495 ล้านบาท ในเดือนนี้(MTD)
ฝ่ายวิจัยฯ ยังเชื่อว่า FUND FLOW มีโอกาสไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อทั้งการปลดล็อคทางการเมือง และ VALUATION ที่ถูก รวมถึงยังเห็น MOMENTUM ของ FUNDFLOW ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อ สังเกตได้จาก MSCI THAILAND ETF ในสหรัฐ+3.66% MTD ขึ้นแรงกว่า SET +0.19%MTD หรือเทียบเท่ากับ SET INDEX ที่ระดับระดับเกิน 1350 จุด
เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม, CISA
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์