Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

467

 

AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ขยับกรอบขึ้น
กลยุทธ์เลือกหุ้นกำไรมีแนวโน้มเติบโตต่อ
Market Strategy
SET Index คาดแกว่งขึ้น 1300-1320 จุด ความชัดเจนทางการเมืองและเปลี่ยนผ่านรัฐบาลที่เร็วจะค่อยๆดึงความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับมา ขณะที่กำไรบริษัทจดทะเบียน 2Q67 ที่เป็นฐานกำไรที่ดีกว่าตลาดคาดเป็นไตรมาสที่ 2 ราว 7% ทำให้ความเสี่ยงในการปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนลดลง จึงยังคงมุมระดับดัชนีบริเวณ 1300 จุด เป็นจุดสะสม วันนี้เลือก Top Pick หุ้นปัจจัยที่กำไรมีแนวโน้มดีต่อใน 2H67 และได้ประโยชน์มาตรการกระตุ้นของรัฐฯ AOT MTC
ความคืบหน้าทางการเมืองที่จะค่อยๆชัดเจนขึ้นหลัง คุณแพทองธาร ได้รับโปรดเกล้าเป็นนายกฯ คนที่ 31 ซึ่งถัดไปเป็นช่วงการจัดตั้ง ครม. นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ/รอโปรดเกล้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณและแถลงนโยบายในสภาฯ ซึ่งกระบวนดังกล่าว ว่าจะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์แรกของ ก.ย. ประเมินโดยจุดสนใจจากนี้ให้น้ำหนักกับหน้าตาของ ครม. ชุดใหม่และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งนโยบายตลาดทุนเราเชื่อว่าจะเดินหน้าต่อ เริ่มจาก TESG ที่มีผลบังคับใช้หลังประกาศในพระราชกิจจาฯ แล้ว (บวกต่อ AOT CPALL GULF BDMS และ PTT) ส่วนกองทุนวายุภักษ์เราเชื่อว่าจะยังเดินหน้าต่อ (บวกต่อ PTT,SCB,KTB,TTB และ BCP) ด้านนโยบายเศรษฐกิจยังคงต้องติดตามการเดินหน้าโครงการ Digital Wallet หากในกรณีไม่เกิดขึ้น เชื่อว่าจะมีมาตรการอื่นๆมาทดแทน เช่นลดขนาดเม็ดเงิน/กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งมองประชาชนกลุ่มฐานรากจะได้ประโยชน์ (บวกต่อ Consumer Finance อาทิ MTC SAWAD)
รายงานงบ 2Q67 โดยรวมถือว่าดีกว่า Bloomberg Consensus คาด 7% ทำให้ความเสี่ยงการปรับลดประมาณการกำไรตลาดลดลง ซึ่งเราคาด EPS Growth 67 ขยายตัว 24%YoY สวนทางผลตอบแทน SET Index -8%YTD และ PER67E ที่ 13.7 เท่าเป็นระดับที่ไม่แพงจึงยังคงมุมมองระดับปัจจุบันเป็นจังหวะสะสมหุ้นพื้นฐานดี
ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามวันนี้คือการรายงาน GDP 2Q67 ของไทยตลาดคาดขยายตัว 2.2%YoY ดีกว่าไตรมาสก่อนที่ 1.5%YoY หากออกมาตามคาดเชื่อว่าการประชุม กนง.ในวันที่ 21 ส.ค. จะยังคงดอกเบี้ยฯ ตามเดิม


Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 13 จุด ตอบรับการได้นายกฯใหม่ที่ใช้เวลารวดเร็ว โดยกลุ่ม Domestic Play ปรับขึ้นเด่น นำโดยกลุ่มการเงิน SAWAD +16% MTC +5.6% KBANK +2.3% กลุ่มห้างสรรพสินค้าแรงซื้อกลับ CPN +5.5% CRC 6% รับเหมาฯ CK +3.5% กลุ่มวัสดุก่อสร้าง SCCC +1.8% SCC +4% ส่วนกลุ่มที่ Underperform คือ กลุ่ม Defensive อย่าง ICT TRUE -2%% และโรงพยาบาล BDMS -0.9%

 

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ AOT MTC


MTC แกร่งสุดกลุ่ม Consumer Finance
ราคาหุ้นปรับลงในช่วง 3 เดือนที่ผ่านกว่า 10% ปรับลงตามกลุ่ม Consumer Finance จากความกังวลต่อคุณภาพสินทรัพย์ เนื่องจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า
อย่างไรก็ตามหลังการรายงานงบ 2Q67 ที่เราเห็นการเติบโตของกำไร 20%YoY ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ที่บริหารจัดการได้อย่างดี ทั้งๆที่โดยปกติไตรมาส2 เป็นช่วงเวลาที่ยากต่อการเก็บหนี้จากผลของฤดูกาลที่ค่าใช้จ่ายเยอะ สะท้อนผ่านมายัง Credit Cost ลดลง 8 bps QoQ มาที่ 3.08% และ Coverage Ratio สูงขึ้น 4%QoQ เป็น 125% และสัดส่วน NPL ลดลง 16 bps QoQ มาที่ 2.91% โดยผู้บริหารตั้งเป้า NPL ปีนี้จะต่ำกว่า 3%
แนวโน้มกำไรปี 67 คาดเติบโต 16%YoY เด่นสุดในกลุ่ม จากผลของ NPL ที่ Credit Cost ที่ลดลง ส่วนระยะสั้นคาดได้ Sentiment บวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและทิศทางดอกเบี้ยฯที่ผ่านจุดสูงสุด
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 52.00 บาท


AOT จุดรับรอการขยายตัวของกำไร
และมาตรการกระตุ้น
ราคาหุ้นตอบรับความกังวลการเรียกคืนพื้นที่ Duty Free ทั้งขาเข้า ขาออกมากเกินไปจนทำให้ราคาปรับลงไปเกือบ 10% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามประเมินจากทิศทางผลประกอบการที่มีแนวโน้มฟื้นตัว โดยเราคาดกำไร 4Q67 (เดือน ก.ค.- ก.ย.) คาดจะเติบโตได้ทั้ง QoQ และ YoY หลังจากผ่านช่วง Low Season ของภาคการท่องเที่ยว หนุนผลการดำเนินงานทั้งปี เราคาด Core EPS Growth ปี 67 ขยายตัว 118.3%YoY
Upside ต่อประมาณการมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีโอกาสมากกว่าเป้าหมายของทางการที่ 35 ล้านคนและของเราที่ 36 ล้านคน (ปัจจุบัน 1 ม.ค. - 11 ส.ค. 67 อยู่ที่ 21.8 ล้านคน) โดยทุกๆ 1 ล้านคน ที่มากกว่าคาดหนุนกำไรเพิ่มขึ้น 3% ในปี 67/68 นอกจากนี้ยังคาดได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นภาครัฐฯต่อภาคการท่องเที่ยว รวมถึงเม็ดเงินจาก TESG ใหม่ที่มีผลบังคับใช้แล้ว
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 74.00 บาท


KEY FACTOR
ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ประกอบด้วย 1) การประชุม Jackson Hole ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. ในหัวข้อ “Reassessing the Effectiveness and Transmission of Monetary Policy” ซึ่งน่าจะให้น้ำหนักการหารือไปที่การกำหนดนโยบายการเงินในระยะถัดไป ตอกย้ำโอกาสการเริ่มลดดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในการประชุมเดือน ก.ย. 2) ตัวเลขดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจสำคัญ Flash PMI ทั้งภาคการผลิตและบริการ ของสหรัฐฯ และ Eurozone ซึ่งน่าจะช่วยให้ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยผ่อนคลายลงต่อเนื่อง

ปัจจัยภายในประเทศที่ผ่านพ้นแรงกดดันจากความ ไม่แน่นอนทางการเมืองระยะสั้นน่าจะหันมาให้น้ำหนักไปที่ 1) การรายงานตัวเลข GDP 2Q67 ของไทย ซึ่งน่าจะสะท้อนสัญญาณเชิงบวกต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ที่เร่งตัวขึ้นอีกจาก 1Q67 โดยคาดว่าจะ +2.2% YoY และ +1.0% QoQ 2) สัญญาณการเดินหน้าโครงการสำคัญของรัฐบาล ในช่วงการเปลี่ยนผ่าน และจัดตั้ง ครม. ชุดใหม่ (ซึ่งน่าจะแล้วเสร็จในช่วงต้นสัปดาห์แรกของเดือน ก.ย.) ซึ่งพบว่าโครงการที่มีความชัดเจน คือ กองทุนวายุภักษ์ซึ่งยังมีประชุมรายละเอียดเพิ่มเติมใน วันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมาตามกำหนดการเดิม ในขณะที่โครงการอื่นๆอาจต้องรอสัญญาณที่ชัดเจนในช่วงถัดไป


EYES ON
19 ส.ค. GDP 2Q67 ของไทย
20 ส.ค. จีนประกาศดอกเบี้ย LPR อายุ 1 และ 5 ปี
21 ส.ค. ประชุม กนง.
22 ส.ค. S&P Global PMI ภาคการผลิตและบริการของสหรัฐฯ, รายงานการประชุม FOMC, HCOB PMI ภาคการผลิตและบริการของยุโรป, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยุโรป, การประชุม Jackson Hole

 

 

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้