สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(13 สิงหาคม 2567)-------- บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน)AU เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 บริษัทฯ มีแผนขยายสาขาเพิ่มเติมรวมทั้งสิ้น 6-8 สาขา ในไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัทฯ ได้ขยายสาขาร้านขนมหวาน After You เพิ่มเติม 1 สาขา ได้แก่ สาขาสยามเซ็นเตอร์ โดยบริษัทฯ มุ่งเน้นการขยายสาขาไปยังพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางของนักท่องเที่ยว และย่านที่พักอาศัยที่มีกําลังซื้อและมีลูกค้าจํานวนมากเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

มุ่งเน้นการพัฒนา และขยายแบรนด์ลูกกือ (Luggaw) และร้านกาแฟมิกก้า (Mikka Cafe)

ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 บริษัทฯ มีแผนขยายสาขาร้านลูกคือเพิ่มเติมรวมทั้งสิ้น 5 สาขา โดยในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2567 บริษัทฯ ได้มี การเปิดสาขาลูกก็อเพิ่มเติมจํานวน 4 สาขา ได้แก่ สาขาเดอะมอลล์บางกะปิ สาขามอเตอร์เวย์ สาขาฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และ สาขาสยามเซ็น เตอร์ โดยมุ่งเน้นขยายไปยังพื้นที่ห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ ในส่วนของร้านกาแฟมิกก้า บริษัทฯ จะยังคงดําเนินการขยายสาขาร้านกาแฟมิกก้าตามแผนงานเดิม

ขยายการขายสินค้าผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด โดยวางขายสินค้าผ่านร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven

ในช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2567 บริษัทฯ ขยายช่องทางการจําหน่ายสินค้าสู่ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven โดยเริ่มวางจําหน่ายสินค้าแรก คือ “ขนมปังเนยโสด” ซึ่งการขยายช่องทางการจําหน่ายครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยอาศัยความแข็งแกร่งของ 7-Eleven ซึ่งมี สาขาครอบคลุมมากกว่า 14,000 สาขาทั่วประเทศ ทําให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น

มุ่งเน้นขยายการเติบโตไปยังต่างประเทศ

ปัจจุบันบริษัทฯ ได้มีการเปิดให้บริการร้านขนมหวาน After You ที่ฮ่องกง รวม 2 สาขา ได้แก่ 1)สาขาเหล่ย์-ตั้ง-ท้าย (Lee Tung Avenue) และ 2)สาขาแอร์ไซด์(Airside) อีกทั้งบริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสเติบโตในต่างประเทศเพิ่มเติม เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้ ภายในประเทศเพียงอย่างเดียวและเพื่อสร้างการเติบโตของบริษัทฯ ในระยะยาว ในเดือนกันยายนปี 2567 บริษัทฯ มีแผนเปิดสาขาแรกในแถบ ประเทศกลุ่ม CLMV ณ เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา

แนวโน้มธุรกิจเครือข่ายบริการร้านอาหารในประเทศไทย (พันล้านบาท)คาดการณ์ตลาดธุรกิจเครือข่ายบริการร้านอาหารไทยปี 2566-2569

ภาคการบริการร้านอาหารในประเทศไทยเริ่มมีการฟื้นตัวหลังจากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ตลาดธุรกิจบริการร้านอาหารมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยในปี 2566 มูลค่าตลาดอยู่ที่ 319.3 พันล้านบาท และคาดการณ์ว่าระหว่างปี 2566 ถึง ปี 2559 จะเติบโตเฉลี่ยรายปีอยู่ที่ ร้อยละ 8.90 ส่งผลให้ในปี 2569 ตลาดธุรกิจบริการร้านอาหารมีมูลค่าอยู่ที่ 412.4 พันล้านบาท ในไตรมาสที่ 2 ปี 2567 บริษัทฯ มีสัดส่วนของลูกค้าต่างชาติ ร้อยละ 34.1 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 26.1 ในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากการเพิ่มขึ้นของกลุ่ม นักท่องเที่ยวเอเชีย