BAM : Preview สำหรับ 2Q24 : ต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา

เราคาดว่า BAM จะรายงานกำไรใน 2Q24 ที่ 427 ล้านบาท ทรงตัวทั้ง YoY และ QoQ กำไรสุทธิที่อ่อนแอนี้น่าจะเป็นผลมาจากการเก็บเงินสดที่ต่ำกว่าเป้าหมายทั้งจาก NPL และ NPA สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจของไทยยังคงไม่เอื้ออำนวย รวมถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ และนี่จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการ

ความซบเซาทางเศรษฐกิจขัดขวางการฟื้นตัว
เราคาดการณ์ว่าการเก็บเงินสดรวมจะอยู่ที่ 3.9 พันล้านบาท (ลดลง 6% YoY / เพิ่มขึ้น 10% QoQ) การปรับตัวดีขึ้น QoQ นั้นมาจากเงินสดที่เก็บได้จาก NPA ซึ่งประมาณการไว้ที่ 2 พันล้านบาท (ลดลง 5% YoY / เพิ่มขึ้น 47% QoQ) อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าการเก็บเงินสดจาก NPA จะแสดงความอ่อนแอบางส่วนที่ 1.9 พันล้านบาท (ลดลง 6% YoY / ลดลง 12% QoQ) เหตุผลหลักที่อยู่เบื้องหลังการเก็บเงินสดที่ต่ำกว่าเป้าหมายนี้คือ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ปัญหาการเลื่อนการชำระหนี้ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทอ่อนแอลง นอกจากนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของ BAM ยังคงได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่สูงขึ้น

การซื้อ NPL เพิ่มขึ้น
เราประมาณการว่า BAM ได้ซื้อ NPL มูลค่า 5.0 พันล้านบาทใน 2Q และคาดว่าจะมีอุปทานเพิ่มขึ้นในปีนี้ เนื่องจากการสิ้นสุดของมาตรการช่วยเหลือของธนาคารแห่งประเทศไทย ตัวเลขที่คาดการณ์นี้เป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมากจากการซื้อ NPL มูลค่า 1.2 พันล้านบาทใน 1Q

ปรับลดประมาณการกำไรเพื่อสะท้อนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ช้าลง
เราได้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2024-2026F ลง 21-25% เพื่อสะท้อนความเสี่ยงด้านลบต่อกำไรและสภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอของประเทศไทย เราคาดการณ์การเก็บเงินสดรวมสำหรับปี 2024 ที่ 17 พันล้านบาท โดยแบ่งเป็น 10 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 15% YoY) จากการเก็บหนี้ด้อยคุณภาพ (NPLs) และ 7 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 11% YoY) จากทรัพย์สินรอการขาย (NPAs) ทั้งนี้ เป้าหมายของเราต่ำกว่าเป้าหมายการเก็บเงินสดที่ค่อนข้างสูงของบริษัท จากการปรับประมาณการของเรา ราคาเป้าหมายตามวิธี DDM ถูกปรับลดจาก 12.00 บาท เป็น 8.80 บาท

คงคำแนะนำ "ซื้อ" เนื่องจากราคาประเมินที่ไม่แพง
เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ BAM โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 8.80 บาท แม้ว่าจะมีการปรับลดมูลค่าที่เหมาะสมของเรา เนื่องจากเราคาดว่าสถานการณ์เศรษฐกิจของไทยจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อรัฐบาลเพิ่มการใช้จ่ายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ นอกจากนี้ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยใดๆ ของธนาคารแห่งประเทศไทยจะช่วยทั้งในด้านการเก็บเงินสดและกำไร