Market Wrap-Up
- SET วันที่ 6 ส.ค.67 ปิด -0.66 จุด อยู่ที่ 1,274.01 จุด มูลค่าการซื้อขาย 38,230 ลบ.ต่างชาติขาย 723 ลบ.พอร์ตโบรกขาย 506 ลบ.สถาบันซื้อ 547 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิรวม 1,159 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น TRUE,CPALL,BTS,ITC,OSP และมียอดขายสุทธิ BBL,KBANK,BCP,GULF,ADVANC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,186 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ HKCE01,SAT-R,DEMCO โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 225 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 8,090 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 13,250 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.76%, S&P500 +1.04%, Nasdaq +1.03% ได้แรงหนุนจากกลุ่มอสังหา ฯ +2.3%, การเงิน +1.46% หลังเจ้าหน้าที่เฟดคาดเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่เสี่ยงเข้าภาวะถดถอย ส่วน ก.พาณิชย์สหรัฐเผยยอดขาดดุลการค้า มิ.ย. -2.5% อยู่ที่ 3 หมื่น ล.ดอลลาร์สหรัฐ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.29% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +1.7% ขณะที่ยอดสั่งซื้อภาคอุต ฯ เยอรมัน มิ.ย. +3.9% & พ.ค. -1.7% MoM
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ฟื้นตัว หลัง VIX Index ปรับลดลงอยู่ที่ระดับ 7 ขณะที่ปธ.เฟดสาขาซานฟรานซิสโกชี้เงินเฟ้อลดลงและการจ้างงานที่ชะลอตัว เป็นปัจจัยหนุนให้เฟดลดดอกเบี้ย ส่วนปธ.เฟดสาขาชิคาโกชี้เฟดไม่ควรใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด โดยยังไม่มีการประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยเฟดแอตแลตต้าเผย US GDPNow Q3/67 คาด +2.9% & เดิมคาด +2.5% และเมื่อเทียบกับ Q2/67 ที่ +2.8% QoQ ยังไม่มีสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐจะเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย สัปดาห์นี้ยังติดตามจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ +0.29% โดย Euro Stoxx VIX Index ลดลงอยู่ที่ระดับ 0 & สูงสุดที่ 31.1 กอปรกับหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิป เช่น ASML, ASM ปรับสูงขึ้น ส่วนรายงานยอดค้าปลีกยูโรโซน มิ.ย. -0.3% & พ.ค. +0.1% MoM บ่งชี้เศรษฐกิจยูโรโซนมีสัญญาณชะลอตัวอยู่บ้าง ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้ ECB มีโอกาสลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้
- ตลาดหุ้นเอเขียวานนี้ฟื้นตัว นำโดยดัชนีนิเกอิ +10.2% หลังความผันผวนจากการปิดสถานะ Yen Carry Trade เริ่มลดลง ส่งผลให้ค่าเงินเยนทรงตัวที่ระดับ 6 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.23% โดยเช้านี้ติดตามตัวเลขส่งออกจีน ก.ค. คาด 9.7% & มิ.ย. 8.6% YoY และนำเข้า ก.ค.คาด 3.5% & มิ.ย. -2.3% YoY เพื่อประเมินการฟื้นตัวของเศรษฐกิจีน
- SET วานนี้ปิด -0.50% ปริมาณการซื้อขาย 8 หมื่น ลบ. ต่าวชาติขาย 723 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 506 ลบ. รายย่อยซื้อ 683 ลบ. และสถาบันซื้อ 547 ลบ. โดยช่วงเช้าดัชนีฟื้นตัวตามดัชนีภูมิภาค แต่ช่วงบ่ายปรับลดลงจากแรงชายกลุ่มท่องเที่ยว -4.2% หลัง MINT รายงานกำไร Q2/67 ต่ำกว่าคาด สาเหตุมาขาดทุน FX และต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้น กอปรกับกลุ่มปิโตรเคมี, บรรจุภัณฑ์ก็ปรับลดลงจากความกังวลอุปสงค์ตลาดโลกฟื้นช้า แต่ดัชนีสามารถยืนทรงตัวได้จากแรงซื้อกลุ่มอิเล็ก ฯ +1.0% ได้ปัจจัยหนุนจาก US Bond Yield ที่ลดลง และกลุ่มอาหาร +0.6% หลัง ITC, AAI รายงานกำไร Q2/67 ดีกว่า ซึ่งเป็นผลจากลูกค้าได้มีการรีสต็อคกลุ่มสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยง โดยภาพรวมนักลงทุนรอรายงานกำไร บจ. Q2/67 ซึ่ง BB.Consensus คาด +Single Digit QoQ และ +30% YoY และวันนี้ช่วงบ่ายติดตาม ศาล รธน.นัดฟังคำวินิจฉัยกรณียุบพรรคก้าวไกล ซึ่งมีผลได้ 3 กรณี คือ 1) ไม่ยุบพรรค 2) ยุบพรรค สส.ต้องหาพรรคใหม่สังกัดภายใน 60 วัน หรือ 3) ไม่ยุบพรรค แต่ตัดสินความผิด ม.112 ของ สส.เป็นรายบุคคลที่กระทำความผิด หากไม่มีสถานการณ์ชุมนุมรุนแรงหลังคำตัดสิน ผลกระทบด้านลบต่อดัชนี SET คาดมีจำกัด
Daily Strategy
- วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,265 – 1,270 แนวต้าน 1,280 – 1,285 คาดดัชนีทรงตัวรอฟังคำวินิจฉัยกรณียุบพรรคก้าวไกล แนะนำทยอยซื้อ ADVANC, ITC, AAI จากกำไร Q2/67 ดีกว่าคาด และ GULF,GPSC,BGRIM,MTC ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง
- BCP (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 00 บาท) ราคาลงมาตอบรับกับแนวโน้มผลประกอบการปกติ 2Q67 ที่จะออกมาลดลง QoQ, YoY รวมถึงความเสี่ยงจากการแทรกแซงของภาครัฐไปในระดับหนึ่งแล้ว ณ ปัจจุบันคาดราคาหุ้นมีโอกาสทยอยฟื้นตัวได้จากค่าการกลั่นที่เริ่มฟื้นตัวหลังผ่านจุดต่ำสุดไปในช่วงเดือน พ.ค. และหากมองข้ามไปใน 3Q67 จะเห็นกำไรที่ดีขึ้นจากการผ่านช่วงปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นพระโขนง ธุรกิจไฟฟ้าในลาวและสหรัฐฯ จะเข้าสู่ช่วง high season นอกจากนี้ Valuation ปัจจุบันถือว่าถูกด้วยระดับ PBV ที่ราว 0.6 เท่า และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 7%
- ITC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 26.57 บาท) กำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 1,009.54 ลบ. +23%QoQ, +127%YoY สูงกว่า BB consensus(855 ลบ.) +18% หนุนจากรายได้ขายที่ +13%QoQ, +41%YoY โดยภาพ YoY คู่ค้ากลับมาสต็อกสินค้าอีกครั้ง ด้านมาร์จิ้นสามารถทำได้ดีมาก GPM ที่ 30% จาก สัดส่วนสินค้า Premium ที่สูงขึ้น, การปรับราคาขาย, ต้นทุนที่ยังอยู่ในระดับไม่สูง, และ การกลับรายการสำรองสินค้าคงคลัง ส่วนการดำเนินงาน 3Q67 เบื้องต้น คาดว่าจะยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีได้ต่อทั้งในแง่ของการขาย/มาร์จิ้น ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิ ITC*ปี67และ68 ที่ 3พันลบ.(+47%YoY) และ 3.8พันลบ.(+13%YoY)
Daily Key Factors
Oil Update(+) WTI ก.ย. +$0.26 อยู่ที่ $73.20 / บาร์เรล, Brent ต.ค. +$0.18 อยู่ที่ $76.48/บาร์เรล หลังแหล่งน้ำมันซาราราของลิเบียลดกำลังการผลิตจากเหตุประท้วง และ EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบทั่วโลก 1H/67 ลดลง 4 แสน บาร์เรล/วัน และคาด 2H/67 จะลดอีก 8 แสน บาร์เรล/วัน
Gold Update(-) Comex Gold ธ.ค.-$12.80 อยู่ที่ $2,431.60 /ออนซ์ หลัง Dollar Index แข็งค่า +0.27% อยู่ที่ 102.969 และความผันผวนในตลาดหุ้นเริ่มลดลง
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -38.43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -20.34 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -7.09 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -11.0 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 35.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 3.894 %
(+) ดัชนี BDI วานนี้ +8 จุด อยู่ที่ 1,685
(+) BitCoinเช้านี้ +0.81% อยู่ที่ 56,221 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
05 ส.ค. กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีเศรษฐกิจการค้า
07 ส.ค. ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.)
สัปดาห์ที2 หอการค้าไทย ร่วมกับม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
สภาผู้ส่งออก แถลงสถานการณ์การส่งออก
ตลท. แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์
ต่างประเทศ
05 ส.ค. US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( ก.ค.)
07 ส.ค. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
08 ส.ค. US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*
(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*
(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio August 2024: GFPT*, CPALL, BH, BTG*, THCOM
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th