Market Wrap-Up
- SET วันที่ 31 ก.ค.67 ปิด +12.77 จุด อยู่ที่ 1,320.86 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,651 ลบ.ต่างชาติซื้อ 301 ลบ. รายย่อยซื้อ 62 ลบ.สถาบันขาย 338 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิรวม 1.567 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น DELTA,CPALL,PTTGC,BBL,PTTEP และมียอดขายสุทธิ ADVANC,PTT,INTUCH,BTS,SCB มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,035 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TPIPL-R,CKP,SCC โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 37,016 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 61,882 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 1,887 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.24%, S&P500 +1.58%, Nasdaq +2.64% กลุ่มเทคโนโลยี +3.95% นำโดย Nvidia +12.8% หลัง AMD +4.3% ตอบรับยอดขายชิป AI Q2/67 เติบโตดี, กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย +1.79% หลังเฟดคงดอกเบี้ยแต่ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.80% กลุ่มเทคโนโลยี +2.6% นำโดย ASML+5.6%, กลุ่มการบิน & อวกาศ +1.3% หลังแอร์บัส +4.8% ตอบรับกำไร Q2/67 ดีกว่าคาด
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับขึ้น หลังเฟดมีมติเอกฉันท์คงดอกเบี้ยที่ 5.25 – 5.50% โดย ปธ.เฟดเผยแนวโน้มเงินเฟ้อสหรัฐกำลังลดลงสู่เป้าหมาย 2 % ในอีกไม่กี่เดือนข้าง ซึ่งเฟดรอประเมินตัวเลขเงินเฟ้อ, ข้อมูลตลาดแรงงานอีก 2 ครั้ง ก่อนลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ส่งผลให้ US Bond Yield 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.043% ขณะที่ ADP เผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ ก.ค. เพิ่มขึ้น 122,000 & คาด 150,000 ตำแหน่ง ต่ำสุดนับตั้งแต่ ม.ค. 67 และดัชนีต้นทุนการจ้างงาน Q2/67 ลดลงอยู่ที่ 0.9% & Q1/67 ที่ 1.2% บ่งชี้ตลาดแรงงานมีสัญญาณชะลอตัว โดยวันศุกร์นี้ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร ก.ค. คาด 177,000 & มิ.ย. 206,000 ราย, อัตราว่างงาน ก.ค. คาดทรงตัวที่ 4.1%, ค่าจ้างเฉลี่ยราย ชม. ก.ค. คาดทรงตัว 0.3% MoM
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +2.6% นำโดย ASML +5.6% รับข่าวได้รัการยกเว้นข้อจำกัดในการส่งออกชิปไปจีน ขณะที่รายงาน CPI ยูโรโซน ก.ค. คาด 2.6% & มิ.ย. 2.5% YoY แต่ ก.ค.ชะลอตัวอยู่ที่ 0.0% & มิ.ย. 0.2% MoM และค่ำวันนีรอประชุม BOE อังกฤษ ซึ่งคาดมีโอกาส 58% ที่จะลดดอกเบี้ย
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ดัชนีเซี่ยงไฮ้ & ฮั่งเส็ง +2% หลัง PMI ภาคผลิตจีน ก.ค.ลดลงอยู่ที่ 49.4 & มิ.ย. 49.5 อยู่ในโซนถดถอยต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ส่งผลให้ตลาดคาดรัฐบาลจีนอาจออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่ดัชนีนิเกอิวานนี้ +1.49% หลัง BOJ มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% และลดการซื้อพันธบัตรญี่ปุ่นจาก 6 ลล.เยน/เดือน ลงเหลือ 3 ลล.เยน/เดือน ภายในสิ้นปี 69 ซึ่งเป็นการกลับสู่นโยการเงินแบบปกติ และช่วยแก้ไขปัญหาเงินเยนอ่อนค่า โดย BOJ คาดเงินเฟ้อปีนี้ที่ 2.5% และลดลงสู่ระดับ 2% ในปี 68, 69
- SET วานนี้ปิด +0.98% ปริมาณการซื้อขาย 4.2 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 301 ลบ. รายย่อยซื้อ 62 ลบ. สถาบันขาย 338 ลบ. และพอร์ตโบรกขาย 24 ลบ. โดยดัขนีได้แรงหนุนจากกลุ่มค้าปลีก 2.1% หลังสภา ฯ เห็นชอบวาระ 2 -3 ของงบประมาณเพิ่มเติม 1.22 แสน ลบ. ที่ใช้ในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต และรอการพิจารณาของ สว. ใน ส.ค. ส่วนกลุ่มอิเล็ก ฯ +2.0% ตอบรับคาดการณ์เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ซึ่งเป็นผลบวกต่อกำไรกลุ่ม Growth ขณะที่กลุ่มขนส่ง -0.45% นำโดย AOT -0.88% หลังขอคืนพื้นที่เช่าเชิงพาณิชย์ 5 สนามบิน ซึ่งคาดส่งผลกระทบต่อกำไรปีหน้า -5% อยู่ที่ 2.2 หมื่น ลบ. +17% YoY โดยภาพรวมดัชนี SET ปรับขึ้นรับข่าวการเริ่มลงทะเบียนดิจิทัล วอลเล็ตใน ส.ค. และคาดจะเริ่มจ่ายเงินโครงการได้ใน Q4/67 รวมถึงการปรับเงื่อนไขกองทุน Thai ESG จะช่วยเพิ่มเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ตลาดปีนี้ราว 2 – 3 หมื่น ลบ. และตลาดยังอยู่ระหว่างรอรายงานงบ บจ โดย Consensus คาดกำไร Q2/67 บจ. 124 บริษัทจะเพิ่มขึ้น +10% QoQ, +40% YoY (จากฐานต่ำปีก่อน)
Daily Strategy
- ประเมินดัชนี SET มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,330 โดยมีแนวรับ 1,305 – 1,310 หลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยใน ก.ย. กอปรกับได้ปัจจัยหนุนจากคาดกำไร บจ. Q2/67 ขยายตัวบวก QoQ, YoY แนะนำทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT (+ม.ดิจิทัลวอลเล็ต)/ กลุ่มหุ้น Big Cap.เป็นเป้าหมายของกองทุน Thai ESG เช่น ADVANC,KBANK,BBL,SCC,AMATA,WHA,CK,GPSC,GULF/ เก็งกำไร PTTEP,TOP,BCP (+ราคาน้ำมันดิบ)
- ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มแกว่งตัวอยู่ในกรอบ US$75-85/bbl โดยมีปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคตะวันออกกลางและยุโรปตะวันออก รวมถึงคาดการณ์ FED จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ย.67 อย่างไรก็ตามมีปัจจัยกดดันจากอุปทานน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่โอเปกพลัสจะทยอยผ่อนนโยบายปรับลดการผลิตน้ำมันดิบโดยสมัครใจตั้งแต่ 4Q67 ฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักการลงทุน “Neutral” ราคาพลังงานผันผวนตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน โดยใน 2Q67-3Q67 คาดกำไรหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าบางตัวจะออกมาดีและมีประเด็นบวกเฉพาะตัวเลือก GULF*, CKP*, GPSC*
- CPALL (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย 73.50 บาท) หุ้นกลุ่มค้าปลีกมี Sentiment บวก หลังความชัดเจนของนโยบาย Digital Wallet สูงขึ้น ขณะที่เบื้องต้น สำหรับกำไรสุทธิ 2Q67 ของ CPALL เราคาดที่ 89 พันลบ., -7%QoQ, +33%YoY/ YoY ได้จาก 1.แรงหนุนรายได้ 7-11 ที่ได้ประโยชน์จาก Traffic การเดินทางทางสูงขึ้นและสภาพอากาศร้อน 2.การเน้นไปที่สินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงกว่า เช่น สินค้า Ready-to-Eat และเครื่องดื่มหนุน GPM และ 3.การควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีรวมถึง Finance Cost ที่คาดลดลงYoY นอกจากนี้ เราคาดว่า CPALL จะเป็นหนึ่งในหุ้นที่เป็นเป้าการลงทุนของ TESG จากอยู่ใน SETESG Index และได้ SET ESG Ratings AAA
Daily Key Factors
Oil Update(+) WTI ก.ย. +$3.18 อยู่ที่ $77.91 / บาร์เรล, Brent ก.ย. +$2.09 อยู่ที่ $80.72/บาร์เรล หลังผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส นายฮานิเยห์ถูกสังหารในอิหร่าน ส่งผลให้ความเสี่ยงภาวะสงครามในตะวันออกกลางสูงขึ้น ส่วน EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 3.4 ล.บาร์เรล ลดลงมากกว่าคาดที่ 1.1 ล.บาร์เรล
Gold Update(+) Comex Gold ส.ค.+$21.10 อยู่ที่ $2,473 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.43% อยู่ที่ 104.104 หลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยใน ก.ย. รวมถึงปัจจัยเสี่ยงสงครามในตะวันออกกลาง
Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +137.98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +8.45 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +129.86 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -0.33 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 35.44 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.048 %
(-) ดัชนี BDI วานนี้ -54 จุด อยู่ที่ 1,708
(-) BitCoinเช้านี้ -2.73% อยู่ที่ 64,480 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
31 ก.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
สัปดาห์ที5 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนี
ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
ต่างประเทศ
30 ก.ค. US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี ( ก.ค.)
US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs (มิ.ย.)
31 ก.ค. CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน ( ก.ค.)
EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ก.ค.)
US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)(ก.ค.)
01 ส.ค. US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ FOMC
US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( ก.ค.)
02 ส.ค. US อัตราการว่างงาน ( ก.ค.)
US การจ้างงานนอกภาคการเกษตร ( ก.ค.)
US อัตราการว่างงาน ( ก.ค.)
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*
(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*
(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio July 2024: GFPT*, CPALL, BH, BTG*, THCOM
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th