สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (25 กรกฎาคม 2567 )-------นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยตัวเลขประมาณการการผลิตรถยนต์ของสมาชิกกลุ่มฯ ในปี พ.ศ. 2567 (ใหม่)
ปรับเป้าผลิตรถยนต์ปี 2567 จาก 1,900,000 คันเป็น 1,700,000 คัน ลดลง 200,000 คัน โดยปรับเป้าเฉพาะผลิตขายในประเทศลดลงจาก 750,000 คันเป็น 550,000 คัน
ปัจจัยลบของการปรับยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลง
• หนี้ครัวเรือนสูงถึงร้อยละ 90 ของ GDP ประเทศในขณะที่รายได้ครัวเรือนยังต่ำจากเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำ
• การลงทุนจากต่างประเทศรวมทั้งดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมยังลดลงมาหลายเดือนแล้ว คนงานมีรายได้ลดลง ประชาชนระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น
• หน่วยงานเศรษฐกิจหลายแห่งลดการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยลง
• สถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์โดยเฉพาะรถกระบะ
• จำนวนแรงงานวัยทำงานน้อยกว่าเพื่อนบ้านจากอัตราการเกิดต่ำ จะทำให้นักลงทุนลังเลในการลงทุนเพราะเป็นสังคมสูงอายุ
ปัจจัยบวกของการปรับยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลง
• รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพรวมทั้งเร่งรัดการเบิกจ่ายและการลงทุนจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี2567
• งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 เบิกจ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ซึ่งจะทำให้รัฐบาลใช้จ่ายและลงทุนรวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตามนโยบาย
• นักท่องเที่ยวต่างชาติและการส่งออกยังเติบโตชึ่งจะช่วยให้ภาคอุตสากรรมผลิตได้มากขึ้น คนงานมีรายได้มากขึ้น
• ความขัดแย้งระหว่างประเทศไม่ขยายตัวหรือเพิ่มขึ้นอีกในแห่งอื่นของโลกซึ่งจะส่งผลถึงการขาดแคลนชิปและชิ้นส่วน
• ธนาคารกลางสหรัฐอาจลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารแห่งประเทศไทยลดอัตราดอกเบี้ยได้ ภาระของลูกหนี้อาจลดลงซึ่งจะช่วยให้มีอำนาจซื้อมากขึ้น
• คาดหวังว่าจะมีการลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้นจากการเดินทางไปชักชวนนักลงทุนรายใหญ่ๆตั้งแต่ปีที่แล้วซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนมีรายได้มากขึ้น เศรษฐกิจของประเทศเติบโต หนี้ครัวเรือนจะได้ลดลง
• เริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชดเชยอัตรา 1:1ของรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้ามาจำหน่ายในปี 2565 - 2566
ปัจจัยลบของการคาดการณ์ยอดผลิตเพื่อส่งออกเท่าเดิม
• สงครามการค้าและสงครามยูเครนกับรัสเซียและสงครามอิสราเอลกับฮามาสอาจบานปลาย
• การเพิ่มการเข้มงวดในการควบคุมเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐอเมริกาอาจส่งผลให้เกิดการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์
• ถ้าเศรษฐกิจจีนโตในอัตราต่ำจะส่งผลต่อเศรษฐกิจประเทศในเอเชียซึ่งเป็นตลาดส่งออกอันดับสองรองจากตลาดออสเตรเลีย
ปัจจัยบวกของการคาดการณ์ยอดผลิตเพื่อส่งออกเท่าเดิม
• ยอดขายรถยนต์ของประเทศคู่ค้ายังเติบโต
• คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะลดอัตราดอกเบี้ยลง
• เศรษฐกิจของประเทศจีนที่ยังเติบโตส่งผลดีต่อประเทศในเอเชียที่มีสัดส่วนถึงร้อยละ 28 ของรถยนต์ที่ไทยส่งออก
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนมิถุนายน 2567
เดือนมิถุนายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 7,990 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 17.46 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 5,763 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2566 ร้อยละ 24.44
o รถยนต์นั่งจำนวน 5,661 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 99 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 3 คัน
• รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 23 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2566 ร้อยละ 76.92
• รถยนต์สามล้อรับจ้างมีทั้งสิ้น 27 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2566 ร้อยละ 35.71
o รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลจำนวน 4 คัน
o รถยนต์รับจ้างสามล้อจำนวน 23 คัน
• รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 2,094 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2566 ร้อยละ 28.07
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 2,090 คัน
o รถจักรยานยนต์สาธารณะจำนวน 4 คัน
• รถโดยสารมีทั้งสิ้น 27 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2566 ร้อยละ 89.45
• รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 56 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 47.66
เดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 51,911 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 20.60 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 37,495 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มิถุนายน 2566 ร้อยละ 18.48
o รถยนต์นั่งจำนวน 36,518 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 918 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 6 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 50 คัน
o รถยนต์บริการให้เช่าจำนวน 3 คัน
• รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 185 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มิถุนายน 2566 ร้อยละ 236.36
• รถยนต์สามล้อมีทั้งสิ้น 78 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มิถุนายน 2566 ร้อยละ 52.73
o รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลจำนวน 16 คัน
o รถยนต์รับจ้างสามล้อจำนวน 62 คัน
• รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 13,733 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มิถุนายน 2566 ร้อยละ 38.76
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 13,628 คัน
o รถจักรยานยนต์สาธารณะจำนวน 105 คัน
• รถโดยสารมีทั้งสิ้น 208 คัน ซึ่งลดลงเดือนมกราคม - มิถุนายน 2566 ร้อยละ 80.95
• รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 212 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเดือนมกราคม - มิถุนายน 2566 ร้อยละ 12.77
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนมิถุนายน 2567
เดือนมิถุนายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 12,589 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 68.01 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 12,515 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2566 ร้อยละ 68.46
o รถยนต์นั่งจำนวน 12,513 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 2 คัน
• รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 74 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2566 ร้อยละ 15.63
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 74 คัน
เดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 71,906 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 55.84 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 71,641 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2566 ร้อยละ 56.41
o รถยนต์นั่งจำนวน 71,577 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 14 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 13 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 34 คัน
o รถยนต์บริการให้เช่าจำนวน 3 คัน
• รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 265 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2566 ร้อยละ 21.36
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 265 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนมิถุนายน 2567
เดือนมิถุนายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 843 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 21.58 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 843 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2566 ร้อยละ 21.58
o รถยนต์นั่งจำนวน 840 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 3 คัน
เดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 4,896 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 21.94 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 4,896 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2566 ร้อยละ 21.94
o รถยนต์นั่งจำนวน 4,891 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 5 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 183,221 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 144.31 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
• รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 127,034 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 180.06
o รถยนต์นั่งมีจำนวน 125,061 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 178.01
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนมีจำนวน 1,526 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 443.06
o รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 67 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 458.33
o รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 111 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 753.85
o รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 269 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 295.59
• รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 469 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 318.75
• รถยนต์ 3 ล้อมีจำนวนทั้งสิ้น 969 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 47.71
o รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลมีจำนวน 96 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 37.14
o รถยนต์รับจ้างสามล้อมีจำนวน 873 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 48.98
• รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 51,603 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 95.73
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 51,469 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 96.09
o รถจักรยานยนต์สาธารณะมีจำนวน 134 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 32.67
• อื่นๆ
o รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2,628 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 14.06
o รถบรรทุกมีจำนวนทั้งสิ้น 518 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 140.93
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 414,894 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 35.30 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
• รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 405,652 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 36.35
o รถยนต์นั่งมีจำนวน 404,739 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 36.36
o รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 490 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 2.30
o รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 66 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 94.12
o รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 188 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 79.05
o รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 5 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 66.67
o รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 164 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 124.66
• รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2566
• รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 9,239 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 1.08
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 9,239 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 1.08
• อื่นๆ
o รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2 คัน ซึ่งเท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2566
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 58,774 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 20.41 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
• รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 58,774 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 20.41
o รถยนต์นั่งมีจำนวน 58,699 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 20.40
o รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 41 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 10.81
o รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 26 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 62.50
o รถยนต์บริการให้เช่ามีจำนวน 3 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2566
o รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 5 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 150