SCGP : ผลประกอบการใน 2Q24 เป็นไปตามคาด; คาดหวัง 3Q24F ที่ดีขึ้น

กำไรใน 2Q24 เป็นไปตามคาด
SCGP รายงานกำไรใน 2Q24 ที่ 1.45 พันล้านบาท ลดลง 16% จาก QoQ และ 2% YoY สอดคล้องกับทั้งประมาณการของเรา (1.46 พันล้านบาท) และความคาดหวังของ consensus (1.47 พันล้านบาท) ปริมาณที่อ่อนแอลงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้กำไรลดลง QoQ ในขณะที่การลดลงเล็กน้อยของมาร์จิ้นถูกชดเชยด้วยการเติบโตของปริมาณ YoY กำไรใน 6M24 คิดเป็น 52% ของประมาณการทั้งปี 2024 ของเรา

ปริมาณที่ลดลงเป็นปัจจัยหลักที่กดดันผลการดำเนินงาน
SCGP ประสบกับปัจจัยหลายอย่างในไตรมาสเดียว รวมถึงปริมาณที่อ่อนแอตามฤดูกาลในประเทศไทย (เนื่องจากวันหยุดสงกรานต์) และอินโดนีเซีย (เนื่องจากฮารีรายอ) รวมทั้งกิจกรรมการบำรุงรักษาในสายธุรกิจเยื่อและกระดาษ ธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร (IPC) รายงานปริมาณลดลง 5% (+7% YoY) ในขณะที่สายธุรกิจเยื่อและกระดาษมีปริมาณคงที่ทั้ง QoQ และ YoY แม้จะมีการบำรุงรักษา เนื่องจากปริมาณที่ลดลงของผลิตภัณฑ์กระดาษพิมพ์เขียวถูกชดเชยด้วยยอดขายที่สูงขึ้นในธุรกิจบริการอาหาร ในด้านอัตรากำไร EBITDA ต่อตันสำหรับส่วนงาน IPC ลดลง 5% QoQ จากราคากระดาษรีไซเคิลที่สูงขึ้น และ 7% YoY จากราคากระดาษบรรจุภัณฑ์ที่ลดลง ในแง่บวก ราคาในอินโดนีเซียฟื้นตัวเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มขึ้นอีก 4% QoQ สำหรับ EBITDA ของสายธุรกิจเยื่อและกระดาษ การบำรุงรักษานำไปสู่ค่าใช้จ่ายประมาณ 110 ล้านบาท และยอดขายที่ลดลงของเยื่อเคมีละลายได้ (dissolving pulp) ที่มีมาร์จิ้นสูง

คาดการณ์แนวโน้มที่ดีขึ้นสำหรับ 3Q24F
เราคาดว่ากำไรของ SCGP จะปรับตัวดีขึ้น QoQ ใน 3Q24 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากการฟื้นตัวของปริมาณ และการเสร็จสิ้นของกิจกรรมการบำรุงรักษา ราคากระดาษบรรจุภัณฑ์และเยื่อกระดาษในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูงในเดือนกรกฎาคมเมื่อเทียบกับ 2Q24 ปัจจัยลบที่อาจเกิดขึ้นได้สำหรับ 3Q24 อาจเป็นผลกระทบทางลบที่ล่าช้าจากต้นทุนกระดาษรีไซเคิลที่สูงขึ้น ผลกระทบทางลบส่วนใหญ่จากการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน Fajar น่าจะเห็นได้ใน 4Q24

คงคำแนะนำ "ซื้อ"
เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ SCGP โดยมีมูลค่าที่เหมาะสมอยู่ที่ 39.00 บาท (อัตราส่วน EV/EBITDA ปี 2024 ที่ 12 เท่า) ความเสี่ยงหลักรวมถึงสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ และความผันผวนของราคาผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบ