สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(24 กรกฎาคม 2567)--บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) IVL มีความยินดีที่จะส่งรายงานการทบทวนกลยุทธ์ช่วงกลางปีเกี่ยวกับความคืบหน้าของแผนงาน IVL 2.0ของบริษัท นอกเหนือจากการประชุม Capital Markets Day (CMD) ประจำปีที่จัดขึ้นในเดือนมีนาคมบริษัทได้มีแนวทางที่จะส่งรายงานการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ช่วงกลางปีในเดือนกรกฎาคมของทุกปีระหว่างที่ดำเนินการไปตามแผนงานIVL 2.0

ในการประชุม Capital Markets Day เมื่อเดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมา บริษัทได้ประกาศกลยุทธ์แผนงาน IVL 2.0 ซึ่งเป็นการวิวัฒนาการเชิงกลยุทธ์จากการมุ่งเน้นที่ขนาด (Scale) ไปสู่การเติบโตที่ขับเคลื่อนโดยกระแสเงินสดที่เกิดจากการดำเนินงาน นวัตกรรมในการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และการบรรลุโครงสร้างต้นทุนในระดับควอร์ไทล์แรก (1st Quartile) ภายใต้แผนดังกล่าว บริษัทกำลังลดภาระหนี้เพื่อขับเคลื่อนคุณภาพของรายได้ในยุคที่อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นและภูมิทัศน์อุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป

--ภาพรวมอุตสาหกรรม--
บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งมีผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทภายใต้คำมั่นสัญญาแบรนด์ ‘เคมีภัณฑ์ที่ขาดไม่ได้’ (‘Indispensable Chemistry’) โดยบริษัทเป็นผู้ให้บริการแก่ตลาดปลายทางที่น่าสนใจและเติบโตขึ้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลกที่เอื้อต่อการเติบโต อาทิความยั่งยืน สุขอนามัย และความปลอดภัย ด้วยเป้าหมายในการจัดหาผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง

แผนงาน IVL 2.0 ถือเป็นการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจมหภาคและภูมิทัศน์อุตสาหกรรม ซึ่งส่วนใหญ่คือ:

• กำลังการผลิตส่วนเกินในประเทศจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการผลิตแบบบูรณาการที่กำลังเปลี่ยนแปลงพลวัตการแข่งขันในระบบนิเวศ(Ecosystem) ของธุรกิจโพลีเอสเตอร์

• การถือกำเนิดของปรากฏการณ์จุดสูงสุดในการผลิตน้ำมัน และยานพาหนะไฟฟ้าในตลาดตะวันตก ส่งผลให้การลงทุนในการสร้างโรงกลั่นน้ำมันใหม่ลดลง ในขณะที่ต้นทุนเพิ่มเติมของภาษีคาร์บอนจำเป็นต้องอาศัยค่าใช้จ่ายในการลงทุนจำนวนมาก ดังนั้น การสร้างโรงกลั่นน้ำมันใหม่ในทวีปเอเชีย ซึ่งความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์จากโรงกลั่นน้ำมันยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงถือเป็นความท้าทายสำคัญต่อโครงสร้างต้นทุนของโรงกลั่นน้ำมันในฝั่งตะวันตก

• บริษัทเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ มีความตั้งใจที่จะคงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานให้อยู่ในระดับสูงเป็นระยะเวลานานขึ้น ท่ามกลางสภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นมานาน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจสำหรับวิสัยทัศน์ตามแผนงาน IVL 2.0 ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา บริษัทได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กรที่สำคัญ สะท้อนถึงแนวทางเชิงรุกที่ไม่เพียงแต่ตอบโต้ต่อความท้าทายของตลาดในปัจจุบัน แต่ยังมุ่งไปสู่โอกาสใหม่ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวโดยกลุ่มธุรกิจ CPET และกลุ่มธุรกิจ Fibers ของบริษัทได้ดำเนินการเปลี่ยนผ่านไปสู่ผู้นำรุ่นใหม่ที่เติบโตขึ้นจากภายในองค์กร ในขณะที่ธุรกิจ
Indovinya และธุรกิจบรรจุภัณฑ์(เปลี่ยนชื่อเป็นธุรกิจ Indovida) มีความคืบหน้าในแผนที่จะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทกำลังขยายและวางรากฐานทีมผู้นำเพื่อขับเคลื่อนโครงการเชิงกลยุทธ์ภายใต้แผนงาน IVL 2.0 โดยแผนผังด้านล่างแสดงให้เห็นทีมผู้บริหารใหม่ที่ทุ่มเทของบริษัท ซึ่งมีหน้าที่ในการกำหนดทิศทางของบริษัท ขับเคลื่อนแนวทางและการทำงานร่วมกันอย่างสอดผสาน และช่วยในการกำกับดูแลการปรับขนาดพอร์ตโฟลิโอของบริษัทให้เหมาะสม โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่มธุรกิจที่มีโครงสร้างการบริหารจัดการที่คล่องตัว และมีผู้นำที่รับผิดชอบและมีอำนาจในการดำเนินงานของธุรกิจที่ตนรับผิดชอบ ทั้งนี้ ได้มีการกำหนดวัตถุประสงค์อย่างชัดเจนและมีการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามแผนในการสร้าง ผลตอบแทนระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมในทุกช่วงของวัฏจักร

--การดำเนินการเชิงกลยุทธ์--
การเพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์ (Asset Optimizations)
เพื่อปรับเปลี่ยนไปสู่ภูมิทัศน์อุตสาหกรรมที่กำลังเปลี่ยนแปลง ซึ่งถูกผลักดันโดยกำลังการผลิตส่วนเกินของประเทศจีนและความไม่สมดุลเชิงโครงสร้างในกำลังการผลิตของโรงกลั่นน้ำมันในภูมิภาคที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนวัตถุดิบ คณะผู้บริหารอยู่ระหว่างดำเนินการอย่างมีวิสัยทัศน์และด้วยความรวดเร็วในการปรับใช้ศักยภาพที่มีทั่วโลกอย่างไม่มีใครเทียบเท่าของบริษัท เพื่อแข่งขันในการให้บริการลูกค้าที่เหนือกว่าและสร้างคุณค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น

ส่วนหนึ่งของแผนการเพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์ภายใต้แผนงาน IVL 2.0 คือ การที่บริษัทได้ปิดโรงงานผลิต PET/PTA ในประเทศเนเธอร์แลนด์และโรงงานผลิตเอทิลีนออกไซด์ (EO) และสารอนุพันธ์ในประเทศออสเตรเลีย อีกทั้ง การเพิ่มประสิทธิภาพของโรงงานแห่งอื่นๆ บริษัทประเมินการด้อยค่าและตั้งสำรองค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 660-680 ล้านเหรียญสหรัฐ ในไตรมาสที่ 2 ปี 2567 โดยค่าใช้จ่ายในส่วนที่เป็นเงินสดจะถูกจ่ายในครึ่งปีหลังของปี 2567 และคาดว่าจะได้รับการชดเชยจากการลดลงของเงินทุนหมุนเวียนมูลค่า110-130 ล้านเหรียญสหรัฐจากโรงงานที่ปิดไปแล้ว ซึ่งไม่นับรวมรายได้เป็นเงินสดประมาณ 100-125 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่คาดว่าจะได้รับจากการขายที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ ซึ่งจะรับรู้รายได้ในภายหลัง

การดำเนินการเหล่านี้เป็นสัดส่วนที่สำคัญของโครงการเพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์ของบริษัท และบริษัทคาดว่าจะไม่มีมีการด้อยค่าเพิ่มเติมอย่างมีนัยสำคัญอันเป็นผลจากการดำเนินงานตามแผนงานนี้

ผลกระทบของการเพิ่มประสิทธิภาพดังกล่าว โดยแสดงผลการดำเนินงานตามประมาณการครึ่งปีแรกของปี2567 (1H24E) ที่ปรับปรุงแล้ว การดำนินการเหล่านี้ส่วนใหญ่มีผลในกลุ่มธุรกิจ Integrated PET ซึ่งทำให้อัตราการดำเนินงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 รายได้จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเนื่องจากบริษัทยังคงให้บริการลูกค้าด้วยการผลิตจากโรงงานแห่งอื่นๆ ด้วยการดำเนินการเหล่านี้บริษัทกำลังเสริมสร้างฐานสินทรัพย์และปรับปรุงกระแสเงินสดและคุณภาพของรายได้เพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนจากเงินทุน (ROCE)ประมาณ 230 bps และอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ประมาณ 450 bps โดยเมื่อรับรู้ผลประโยชน์ทั้งหมด อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Net Debt/Equity) จะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1.5 เท่า ซึ่งอยู่ในเกณฑ์บรรทัดฐานของหนี้สินที่ 2.0 เท่าในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA (Net Debt/EBITDA) จะลดลงประมาณ 60 bps

--การมีสภาพคล่องสูง--
ท่ามกลางตลาดการเงินที่ท้าทายและมีความผันผวนในครึ่งแรกของปี 2567 บริษัทได้ดำเนินการจัดการความต้องการด้านเงินทุนอย่างรอบคอบด้วยการระดมทุน 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับรายจ่ายฝ่ายทุนและการลงทุนเพื่อรีไฟแนนซ์หนี้ที่ครบกำหนดชำระและเพิ่มสภาพคล่อง การระดมทุนได้ดำเนินการให้มีสินเชื่อระยะยาวด้วยอัตราส่วนต่างดอกเบี้ยลดลง และเพื่อเพิ่มความหลากหลายของแหล่งเงินทุนระยะยาวของบริษัท ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 บริษัทมีสภาพคล่อง 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในรูปของเงินสด เงินสดภายใต้การบริหาร และวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้ใช้ นอกจากนี้ในเดือนกรกฎาคม 2567 บริษัทประสบความสำเร็จในการการเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อชำระคืนหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท ที่จะมีสิทธิไถ่ถอนครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน ปี 2567 โดยธุรกรรมที่ประสบความสำเร็จดังกล่าวนี้แสดงถึงความมั่นใจของสถาบันการเงินและนักลงทุนในขั้นตอนที่บริษัทกำลังดำเนินการเพื่อเสริมสร้างพื้นฐานการเงินของบริษัทและแนวโน้มธุรกิจในระยะยาวที่ดี

ทั้งนี้ สภาพคล่อง ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 ในรูปของเงนิสด เงินสดภายใต้การบริหาร และวงเงินสินเชื่อธนาคารทที่ยังไม่ได้ใช้ อยู่ที่ 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ

--การดำเนินงานรูปแบบใหม่--
ภายใต้แผนงาน IVL 2.0 บริษัทกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่การดำเนินงานรูปแบบใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับองค์กรในยุคใหม่ นอกเหนือจากโครงสร้างการบริหารจัดการที่คล่องตัวและมีความรับผิดชอบอย่างชัดเจน พร้อมฐานสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งบริษัทกำลังเพิ่มประสิทธิภาพและปรับโครงสร้างพอร์ตโฟลิโอเพื่อปลดล็อคมูลค่าเพิ่มเติมขึ้นและเปลี่ยนแปลงองค์กรเพื่อเติบโตในระบบนิเวศที่เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และการขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก

บริษัทได้วางโครงสร้างการกำกับดูแลและทีมงานเพื่อดำเนินการเตรียมการจดทะเบียนกลุ่มธุรกิจ Indovida และกลุ่มธุรกิจIndovinya ในตลาดหลักทรัพย์และการขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก โดยกำลังด าเนินการเพื่อปลดล็อคและเพิ่มมูลค่าในตลาด ซึ่งคาดว่าการจดทะเบียนกลุ่มธุรกิจ Indovida ในตลาดหลักทรัพย์จะแล้วเสร็จในปี 2568 ในตลาดหลักทรัพย์ในทวีปเอเชีย ขณะที่การจดทะเบียนกลุ่มธุรกิจ Indovinya คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569 ในตลาดหลักทรัพย์ฝั่งตะวันตก โดยคาดการณ์จะได้รับเงินจากการระดมทุนรวมเป็นเงินประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐส าหรับทั้งสองธุรกรรม โดยบริษัทได้เริ่มต้นการคัดเลือกที่ปรึกษาสำหรับการดำเนินงานต่างๆและกำลังจัดโครงสร้างและวางผังองค์กรสำหรับธุรกิจและหน่วยงานภายใต้กลุ่มธุรกิจ Indovida และกลุ่มธุรกิจ Indovinya ทั้งนี้ การหารือกับทีมที่ปรึกษาตลาดทุนชั้นนำของบริษัทกำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสำหรับสินทรัพย์ดังกล่าวนี้

สำหรับการขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักสองแห่ง คาดว่าจะทำให้มีรายได้จากการขายประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐในปี2568 การดำเนินการนี้จะช่วยปรับเปลี่ยนฐานสินทรัพย์ของบริษัท ทรัพยากรในการบริหารจัดการช่องทางจำหน่ายของสินทรัพย์ที่ให้คุณค่าเชิงกลยุทธ์ และนำเงินทุนกลับมาใช้ใหม่เพื่อเสริมสร้างการดำเนินงานธุรกิจหลักการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Transformation)

บริษัทได้เริ่มดำเนินการสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในปี 2563 โดยติดตั้งระบบบริหารจัดการทรัพยากรทั่วทั้งองค์กร SAPS/4HANA และในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 การดำเนินธุรกิจส่วนใหญ่ของบริษัทได้นำระบบดิจิทัลใหม่มาใช้เป็นหลัก นอกจากนี้บริษัทได้เปิดตัว Global Business Solutions ในประเทศอินเดีย

ในลำดับถัดไปของการดำเนินการสู่การเปลี่ยนแปลง บริษัทกำลังติดตั้งโซลูชั่นดิจิทัลและ AI ที่หลากหลาย เพื่อสร้างคุณค่าและความเป็นเลิศในการดำเนินงานที่สำคัญ ซึ่งรวมถึงการผลิต การพาณิชย์ การจัดซื้อ การขาย การจัดการห่วงโซ่อุปทาน และการเงิน ด้วยแผนการดำเนินการเป็นระยะในช่วงปี 2567-2569 โดยการดำเนินงานหลัก ได้แก่ Salesforce เพื่อปรับปรุงการขายและการบริการลูกค้า,o9 เป็นแกนหลักของการจัดการห่วงโซ่อุปทานและการวางแผนทั่วโลก Workday เพื่อสนับสนุนการวางแผนทางการเงินและการวิเคราะห์และ Seeq และเครื่องมืออื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต

วิสัยทัศน์ของการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้เกิดจากการให้ความสำคัญต่อธุรกิจ โดยแบ่งออกเป็นสองด้านที่สำคัญ ได้แก่ การปกป้องสินทรัพย์ที่มีความสามารถในการแข่งขันและน่าเชื่อถือ และการให้ความสำคัญต่อความต้องการของลูกค้าโดยการเพิ่มความคล่องตัวเพื่อตอบสนองต่อพลวัตของตลาดโลก