AT THE OPEN (#ATO)
SET Index พักฐานตามกรอบ 1290-1310
กลยุทธ์ Buy on Dip หุ้นงบ 2Q67 ดูดี

Market Strategy
SET Index คาดแกว่งตามกรอบ 1290-1310 จุด ปัจจัยแวดล้อมต่างประเทศยังขาดแรงหนุนหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯพักตัวและราคาน้ำมันดิบที่ยังปรับลง ขณะที่ในประเทศประเด็นความกังวลต่อการความสามารถชำระหนี้หุ้นกู้ EA กลับมาบั่นทอนความเชื่อมั่นนักลงทุน และการติดตามความคืบหน้าศาลพิจารณาคุณสมบัตินายกฯ วันนี้ ทำให้ตลาดยังอยู่ในช่วงพักและเลือกเก็งกำไรหุ้นรายตัว กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้เราเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและงบ 2Q67 คาดออกมาขยายตัวดีอย่าง ADVANC และ CPALL

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ปรับลงในช่วง -0.06% ถึง -0.14% จากนักลงทุนยังให้น้ำหนักไปที่การรายงานผลประกอบการ 2Q67 ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent วานนี้ปรับลง -1.7% แรงกดดันยังมาจาก Demand จากความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนและความเสี่ยง Geopolitical Risk ลดลง จากการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับฮามาสที่จะกลับหารือกันในวันที่ 25 ก.ค. ซึ่งยังเป็นปัจจัยกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำ โรงกลั่นและกลุ่มปิโตรฯ ในวันนี้
ปัจจัยในประเทศผลการประชุม ครม. วานนี้เห็นชอบ 1) คงค่าไฟเดือน ก.ย.- ธ.ค. 67 อยู่ที่ 4.18 บาท/หน่วย ตามคาด 2) การขยายระยะเวลาตรึงเพดานน้ำมันดีเซล 33 บาท/ลิตรไปจนถึง 31 ต.ค. ผ่านกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนการปร้บเงื่อนไขกองทุน TESG ยังไม่มีการพิจารณา

สำหรับประเด็นอื่นๆ ที่ติดตามวันนี้ รมว.คลังเตรียมแถลงรายละเอียดโครงการ Digital Wallet เวลา 10.00 น. และศาลฯพิจารณาคดีคุณสมบัตินายกฯ ส่วนการรายงานงบ 2Q67 วันนี้เป็นคิวของ SCC

Market Summary
SET Index -1.2% เป็นการปรับลงในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยกลุ่มที่ Underperform ที่สุดคือกลุ่มไฟแนนซ์จากความกังวลต่อคุณภาพสินทรัพย์ ASK -9% JMT -8% TIDLOR -6% ตามด้วยกลุ่มบรรจุภัณฑ์ SCGP -3.5% หลังรายงานลง QoQ ตามคาด ส่วนหุ้นที่บวกสวนตลาด เช่น KTB +4.7% จากกำไร 2Q67 ที่ดีกว่าคาด GLOBAL +1.3% และ BGRIM ที่รีบาวน์ 1.4% หลังลงแรงเมื่อวันศุกร์

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ ADVANC CPALL

CPALL คาดงบ 2Q67 แข็งแกร่ง
คาดผลประกอบการ 2Q67 อยู่ที่ 5.74 พันล้านบาท ขยายตัว 29%YoY แรงหนุนมาจาก SSSG ที่ +4%YoY หนุนจากสภาพอากาศร้อนและการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยงต่างชาติ รวมถึงการขยายสาขาเพิ่มขึ้น 700 สาขา YoY ทำให้สิ้น มิ.ย.67 มีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 14,915 สาขา
ด้าน GPM เพิ่มขึ้น 20 bps YoY มาที่ 22.2% จากสัดส่วนสินค้า High GPM ที่ขยายดี เช่น อาหารพร้อมทาน เครื่องดื่มและสินค้า personal care ขณะที่อัตราส่วน SG&A ต่อยอดขายลดลงเหลือ 19.5% จาก 19.8% ใน 2Q66 จากค่าใช้จ่ายไฟฟ้าและค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลงจากรีไฟแนนซ์สินเชื่อของ Lotus ซึ่งเราเห็น Upside ต่อกำไรของ CPALL จากลูกค้าและ GPM ที่ดีขึ้น
หุ้นซื้อขายไม่แพงบน PER67E เพียง 22.6 เท่า ต่ำค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี -1.7 S,D,
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 78.00 บาท

ADVANC ย่อมาคือโอกาสซื้อ
คาดกำไรหลัก 2Q67 อยู่ที่ 8.6 พันล้านบาท ขยายตัว 20.6%YoY และ 0.3%QoQ หนุนจากรายได้จากการให้บริการและอัตรากำไรของเครื่องโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้นซึ่งเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่บริษัทจะปรับเพิ่มเป้าหมายผลประกอบการปี 67 ในเดือนส.ค. 67 เป็นปัจจัยหนุนราคา
ด้านกำไรหลักทั้งปี 67E เราคาดขยายตัว 16% หนุนอัตราการจ่ายปันผลปี 67E อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 67 อยู่สูงที่ 4.3% นอกจากนี้ในมุม valuation ยังถูกเพราะซื้อขาย PER67E 20 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง -0.5 S.D. และต่ำกว่า TRUE ที่อยู่บน PER67E 54 เท่า
การควบรวมระหว่าง GULF + INTUCH เป็น NewCo เป็นบวกในแง่การบริหารจัดการที่ลดความซับซ้อน นอกจากนี้การประกาศทำ VTO กับ ADVANC ที่ 216 บาท เราคาดโอกาสเกิดน้อยเป็นปัจจัยจำกัด Downside ราคาหุ้น
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 257.00 บาท

KEY FACTOR
ตลาดหุ้นไทยกลับมาเปิดทำการหลังหยุดยาว สะท้อนความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดการเงินโลกในช่วงก่อนหน้า ปรับตัวลง -1.18% Underperform ตลาดหุ้นเอเชียที่มีบางส่วนเริ่มฟื้นตัวจากการปรับฐาน อย่างไรก็ตามทิศทางค่าเงินบาท ที่ยังแข็งค่ากว่าภูมิภาคได้ต่อเนื่อง สะท้อนโอกาสที่ตลาดหุ้นไทยที่รับประเด็นลบชดเชยช่วงหยุดยาวไปแล้ว น่าจะมีลุ้นสร้างฐานและค่อยๆเริ่มฟื้นตัว
ปัจจัยต่างประเทศ การรายงานข้อมูล Flash PMI วันนี้ น่าจะสะท้อนภาพเศรษฐกิจที่ยังทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนที่ผ่านมา 1) S&P Global PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ (Consensus คาด 51.7 ทรงตัวจากระดับ 51.8 ในเดือนก่อนหน้า) 2) S&P Global PMI ภาคบริการของสหรัฐฯ (Consensus คาด 54.8 ชะลอลงจาก 55.3 ในเดือนก่อนหน้า) 3) HCOB PMI ภาคการผลิต ของ Eurozone (Consensus คาด 46.1 ขยับขึ้นเล็กน้อยจาก 45.8 ในเดือนที่ผ่านมา) 4) HCOB PMI ภาคบริการ ของ Eurozone (Consensus คาด 52.9 ทรงตัวจาก 52.8 ในเดือนที่ผ่านมา)

Eyes on
24 ก.ค. S&P Global PMI ภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐฯ, HCOB PMI ภาคการผลิตและบริการของ Eurozone
25 ก.ค. GDP 2Q67 ของสหรัฐฯ
26 ก.ค. PCE เดือน มิ.ย. ของสหรัฐฯ, ส่งออกไทยเดือน มิ.ย.

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ