Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

814

 

ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook

แนวโน้มสินทรัพย์ต่างประเทศ
อัปเดตมุมมองราคาน้ำมัน
นับตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ราคาน้ำมัน WTI เคลื่อนไหวออกข้าง (sideways) หลังจากปรับตัวขึ้นมาจากจุดต่ำสุดในเดือนมิถุนายนกว่า 14%
สำหรับแนวโน้มในระยะสั้นในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า เราประเมินว่าราคาน้ำมัน WTI มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อและจะพีคที่ 87 เหรียญในไตรมาส 3 จากเหตุผลดังต่อไปนี้
1 NOAA คาดการณ์ฤดูพายุเฮอริเคนของสหรัฐในปีนี้ (ตามปกติจะเกิดขึ้นระหว่างมิถุนายน - พฤศจิกายน) จะหนาแน่นกว่าปกติ จึงอาจส่งผลกระทบต่อซัพพลาย และทำให้เทรดเดอร์น้ำมันมี speculative long position สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนสิงหาคม - กันยายน ซึ่งมักเป็นช่วงที่จำนวนการเกิดพายุจะมากกว่าปกติ
2 แม้ว่าดีมานด์น้ำมันดิบโลกในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาจะเติบโตเพียง 710,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราต่ำสุดในรอบ 1 ปี อันเป็นผลมาจากการหดตัวของอุปสงค์จากจีนในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคม อย่างไรก็ตามหลังจากเข้าสู่ช่วง driving season ก็เห็นสัญญาณการบริโภคน้ำมันที่มากขึ้น พิจารณาได้จากสต็อกน้ำมันดิบ (ไม่รวมสำรองเชิงยุทธศาสตร์) ของสหรัฐได้ปรับตัวลดลงสามสัปดาห์ติดต่อกัน
3 การขยายระยะเวลาการลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจของ OPEC+ ออกไปในปลายไตรมาส 3 จะช่วยลดผลกระทบจากซัพพลายที่เพิ่มของกลุ่ม non-OPEC+ เช่น สหรัฐ แคนาดา บราซิลและกายอานา ซึ่งจะส่งผลให้สต็อกน้ำมันดิบโลกมีแนวโน้มเกิดภาพ stock draw ในไตรมาส 3 แทนภาพ inventory build จำนวน 23.9 ล้านบาร์เรลในเดือนพฤษภาคม ซึ่งล่าสุดเริ่มเห็นสัญญาณนั้นแล้วในปลายไตรมาส 2 จากสต็อกน้ำมันดิบโลกที่ลดลง 18.1 ล้านบาร์เรลในเดือนมิถุนายน
4 จากการอัปเดตข้อมูลล่าสุดยังเห็นสัญญาณ bullish signal ในตลาดฟิวเจอร์สน้ำมัน จาก Managed Money Ratio Long-to-Short Position เพิ่มขึ้นจาก 3.7 เท่าในช่วงต้นเดือนมิถุนายน เป็น 11.6 เท่าในปัจจุบัน หรือมี net long position เพิ่มขึ้น 66% ในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ forward curve ล่าสุดยังมีลักษณะ steep backwardation จึงสะท้อนว่าดีมานด์ของน้ำมันในปัจจุบันยังแข็งแกร่ง
สรุป ราคาน้ำมัน WTI มีโอกาสขึ้นไปทดสอบ 87 ดอลลาร์ในไตรมาส 3 จากปัจจัยหนุนข้างต้น และระดับราคาดังกล่าวน่าจะเป็นจุดพีคของปีนี้

สรุปภาพตลาดวานนี้
ดัชนีสลับมา Sideway down up จากหุ้นใหญ่ลงไปก่อนหน้ารีบาวน์ทั้ง AOT BDMS PTTEP MINT BBL CPALL CPN และหุ้นบวกต่อ ADVANC TRUE รวมทั้งเห็นหุ้นกลับมาซิ่งอย่าง JAS TRC ส่วนด้านลบนอกจากแรงขาย EA ต่อเนื่อง พบว่ามีแรงขายทำกำไรของ GULF INTUCH DELTA ที่ขึ้นวันก่อน

แนวโน้มตลาดวันนี้
Rotations
คาดดัชนีหุ้นไทยวันนี้ Sideways จากการ Rotations หมุนกลุ่มเล่นช่วยหนุนดัชนีฯให้ปิดสัปดาห์นี้เหนือ 1,320 จุด เหนือเส้นแนวโน้มและเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 25 วัน (EMA) สะท้อนบรรยากาศลงทุนที่เริ่มคลี่คลายจากประเด็นลบหุ้น EA
ส่วนประเด็นหนุนที่ต้องตามในสัปดาห์หน้า เช่น นายกฯแถลงแนวทางดำเนินโครงการดิจิตอลวอลเล็ต ซึ่งจะเปิดลงทะเบียนต้นเดือน สค.นี้แล้ว, งบการเงินกลุ่มธนาคาร 2Q ที่ดีขึ้น และงบกลุ่ม Non bank ในสัปดาห์หน้ากลุ่มที่แจ้งงบ คาดมีแนวโน้มดีขึ้น เช่น กลุ่มสื่อสาร พลังงาน คาดช่วยหนุนความเชื่อมั่น ส่วนเรื่องการเมืองในประเทศ กรณีถอดถอนนายก คาดยังไม่มีข้อสรุปในการประชุมศาลฯ 24 กค.และเรามองเป็นกลางต่อตลาดฯ
และระหว่างที่รอตลาดพักฐาน เพื่อขึ้นต่อ เราคงคำแนะนำ พิจารณาเลือกหุ้นตามแนวโน้มงบการเงินที่กำลังทำ “Previews” คาดการณ์กำไรไตรมาส 2 เป็นหลัก ตามมุมมองกลยุทธ์ประจำสัปดาห์ที่เรา เห็นสัญญาณบวกจากหุ้นตัวก่อนๆที่มีการ preview งบดีเกินคาด...

กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์แนะนำ เลือกหุ้นเล่นเป็นรายตัว เริ่มโฟกัสไปข้างหน้า เน้นไปที่แนวโน้ม ผลการดำเนินงานที่จะมีโอกาสถูกปรับเพิ่มประมาณการณ์ หรือ มองเห็นปัจจัยหนุนชัดเจนที่จะเข้ามาเกื้อหนุนต่อผลการดำเนินงานหลังจากนี้

วิเคราะห์ทางเทคนิค
SET ขึ้นสลับย่อ ยังคงพยายามผ่านโซนต้านบริเวณ 1,330 จุด (Fibonacci retracement 38.2%) ล่าสุดตลาดฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว 1/3 ของระยะทาง….ภาพรวม AOT & ADVANCE บวกช่วยดันดัชนีขึ้น 2 จุด ( AOT เป็นหุ้นแนะนำทางเทคนิค) ขณะที่โมเมนตัม RSI ฟื้นตัว รอผ่านเส้นแนวโน้ม ช่วยหนุนภาวะความแข็งแกร่ง….สรุปแนวโน้มตลาดอยู่ในเส้นทาง recovery ลุ้นปิด week ให้สวย ปิด high โดยมีเป้าหมายรายเดือน base case อยู่ที่ 1,340 จุด. โซนรับ 1,310-1,320 สู้ได้ หรือมองการปรับฐานรอบนี้จะไม่ลงต่ำกว่า 1,300 จุด มั่นใจครับ....
Note: ธีมหุ้น Digital wallet & แผนแก้เกมส์หุ้นรับเหมา

 


What to watch
ไทม์ไลน์คดี การเมือง: ศาลฯนัดพิจารณาประชุมคดีถอดถอนนายก ครั้งต่อไป 24 ก.ค., 7 สค. ศาลกำหนดวัน นัดลงมติตัดสินคดียุบพรรคก้าวไกล เวลาบ่าย 3 โมงเป็นต้นไป
ครม.เศรษฐกิจ หาแนวทาง แก้หนี้ครัวเรือน เบื้องต้นมีแววให้กลับมาจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ 5% และยังต้องตามมาตรการนอกกรอบ ที่นายกส่งสัญญาณ นายกฯแถลงความคืบหน้าดิจิตอลวอลเล็ต 24 ก.ค. คาดเริ่มลงทะเบียน 1 ส.ค.นี้
งบการเงินกลุ่มธนาคารวันศุกร์นี้ออกครบ
ไฟเขียว BEM ดำเนินโครงการหลังคดีสิ้นสุดในชั้นศาล เซ็นสัญญา 18 กค.เรียบร้อย, และ ครม.เห็นชอบ โครงการหวยเกษียณ มีลุ้นรางวัลทุกวันศุกร์ คาดเริ่ม ต้นปี 68
สมาคม บลจ.สั่งห้ามเพิ่มการลงทุนหุ้น EA เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีแผนดำเนินงานที่ชัดเจน ส่วนผลกระทบจาก การแห่ไถ่ถอนจนปิดกองนั้น สามารถบริหารจัดการได้ และมั่นใจว่าจะไม่เกิดภาวะ ฟันด์รัน (นลท. แห่ขายหน่วยจนต้องปิดกอง)

หุ้นแนะนำวันนี้
GFPT Earnings previews กำไรดีเกินคาด (S 13 R 14 SL 12.5)

Tactical port
ถอด ICHI เพิ่ม GFPT


รายงานพื้นฐานวันนี้

Residential Property
สัญญาณการชะลอตัวในเดือน มิ.ย. แนวโน้ม 3Q24 ดูหนาวๆ
AREA รายงานการเปิดตัวโครงการใหม่เดือน มิ.ย. อยู่ที่ 6,131 ยูนิต ลดลง 8% MoM กดดันจากกลุ่มคอนโด แม้บ้านเดี่ยวเปิดตัวเพิ่มขึ้น 46% MoM แต่กระจุกในกลุ่มกลาง-บน (5-10 ลบ.) ทาวน์เฮาส์เปิดตัวใหม่เพิ่มขึ้น 101% MoM แต่คอนโดเปิดตัวลดลงกว่า 51% MoM (และอยู่ในกลุ่มกลางๆ 3-5 ล้านบาท) ภาพรวมยอดจองซื้อ (Take-up rate) เห็นการลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จาก 27% ในเดือน พ.ค. เหลือ 18% ในเดือน มิ.ย. กดดันจากกลุ่มแนวราบที่บ้านเดี่ยวเหลือ 9% (จาก 12%) ทาวน์โฮมเหลือ 7% (จาก 13%) และคอนโดก็ลดลงเหลือ 6% (จาก 10%)
จากการศึกษาของ Numbeo ตีความได้ว่าราคาที่อยู่อาศัยเพิ่มเฉลี่ยราว 8% ต่อปี เร็วกว่าการเพิ่มขึ้นของค่าข้างเฉลี่ย โดยมีส่วนเกิดจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีความท้าทายต่อการรักษาระดับอัตรากำไรในอนาคต ทั้งนี้ ใน 3Q24 ผู้ประกอบการที่เราให้คำแนะนำจะมีแผนการเปิดตัวราว 5.6 หมื่นล้านบาท ลดลง 4% YoY และ 24% QoQ

GFPT
จีเอฟพีที
มาเหนือความคาดหมาย
เราคาดกำไรหลัก 2Q24 ที่ 513 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% YoY และ 16% QoQ และสูงกว่าคาดเดิมที่ 465 ล้านบาท โดยปัจจัยหนุนให้กำไรดีกว่าคาด เกิดจาก 1) GM สูงกว่าคาดเดิม โดยคาดที่ 13.8% เพิ่มขึ้นจาก 11.7% ใน 2Q23 และ 12.6% ใน 1Q24 หนุนจากปริมาณการส่งออกไปยุโรป และเอเชีย (นอกเหนือญี่ปุ่น) ธุรกิจอาหารสัตว์ที่ดีขึ้น และต้นทุนการเลี้ยงลง 2) ส่วนแบ่งกำไรจาก McKey และ GFN ดีขึ้น จากปริมาณการขาย สำหรับแนวโน้ม 3Q24 คาดว่าราคาไก่ในประเทศจะยืนระดับไปได้ราว 42-44 บาท/กก. โดยปัจจุบันอยู่ที่ 43.7 บาท/กก. และสูงกว่าต้นทุนการเลี้ยงที่ 37 บาท/กก. มาก อย่างไรก็ตาม คาดว่าปริมาณการส่งออกจะลดลง QoQ ภาพรวม GM ย่อลงเล็กน้อย โดยข้าวโพดต้นทุนสูงจะเริ่มเข้าไตรมาสนี้ ภาพรวมคาดกำไรหลักเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ
เราปรับเพิ่มกำไรปี 2024 ขึ้น 19% (คงประมาณการในระยะยาว) ทำให้ราคาเป้าหมายอิง DCF เพิ่มขึ้นเป็น 15.70 บาท (เดิม 15.50 บาท)
Fundamental view: เรายังคงคำแนะนำซื้อ แนะนำ Let-profit-run จากงบฯ ที่คาดว่าจะดี ปัจจุบัน PER ที่ 8.7 เท่า ต่ำกว่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 10.7 เท่า

TAN
ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น
คาดกำไรไตรมาส 2 หดตัว
เราคาดกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 21 ล้านบาท ลดลง 9% YoY และ 66% QoQ (ไม่ได้ดีอย่างที่เคยคาดหวังก่อนหน้า) แม้ยอดขายรวมเติบโต 29% YoY แต่ลดลง 13% QoQ (ตามฤดูกาล) แต่ค่าเช่า-ค่าเสื่อมราคาเพิ่มเร็วกว่า โดยคาดว่า GM จะทรงตัว YoY แต่ลดลง QoQ ขณะที่ค่าใช้จ่าย SG&A เพิ่มขึ้น 47% YoY ทรงตัว QoQ เนื่องจากจำนวนสาขา ร้านค้า และพนักงานที่เพิ่มขึ้น
ส่วนแนวโน้มการฟื้นตัวคาดจะเห็นใน 2H24 จาก ฤดูกาลขายดี (มีคนเดินห้างและใช้จ่ายมากขึ้น) และรายได้ใหม่จาก HARNN จีน อย่างไรก็ตาม ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นตามการขยายสาขาอย่างรวดเร็ว จะยังคงกดดันกำไรในอนาคต ทั้งนี้ เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2024-26 ลง อย่างไรก็ดี ภาพรวมการเติบโตเฉลี่ยปี 2024-26 ยังอยู่ที่ 30% CAGR ซึ่งยังสูง
Fundamental view: คงคำแนะนำถือ และราคาเป้าหมายลดลงเป็น 18 บาท (จาก 19 บาท) ราคาหุ้นยังขาดปัจจัยหนุน เนื่องจากนักลงทุนรอคาดการณ์กำไรที่แข็งแกร่งในช่วงปลายปี (ไตรมาส 4) ซึ่งเป็นฤดูกาลขายหลัก


WHAUP
ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์
การสร้างธุรกิจอย่างยั่งยืน
เรามีมุมมองเชิงบวกต่องาน Virtual Conference Call ที่เราได้เชิญผู้บริหาร (CEO และ CFO) ของ WHAUP มาบรรยายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสรุปประเด็นสำคัญ ได้ดังนี้
1) การเติบโตในปี 2024 จะผลักดันจากการขยายกำลังการผลิตสู่ 1GW ภายในปีนี้ (ปัจจุบัน 918MW และ COD ไปแล้ว 812MW) โดยกลยุทธ์โฟกัสไปที่ PPA ภาคเอกชน โดยเฉพาะ Solar rooftop ในนิคมฯ
2) ธุรกิจบริการน้ำแข็งแกร่ง จากปริมาณการขายคาดเติบโต 15% YoY และมีการทำสัญญาใหม่กับกลุ่ม PTTGC รวมทั้งการทยอยบริการลูกค้าใหม่ที่เข้ามาในนิคมฯ โดยทุกๆ 1 ไร่ ของการขายที่ดินของ WHA จะหนุนการบริการน้ำใหม่เพิ่มราวๆ 4 ลบ.ม./วัน และหากเป็นลูกค้ากลุ่มในน้ำสูง เช่น อิเล็กฯ ปิโตรเคมี และ Data Center (ระบบทำความเย็น) อาจจะเพิ่มได้มากขึ้น 10 เท่า จากค่าดังกล่าว
3) การเข้าประมูล PPA ใหม่ของทางรัฐฯ มองไว้ที่ก้อน 3.6GW นอกจากนี้ ยังมองการหาโอกาสใหม่ๆ เพิ่มเติมผ่านทั้งโครงการ Greenfields และ Brownfields
4) มองบวกต่อปันผล เพราะผู้บริหารประเมิน EBITDA Margin ระดับเกิน 50% และมีฐานกำไรกำลังเติบโต มองจะช่วยให้มีกระแสเงินสด และโอกาสที่จะรักษา Payout ratio ระดับสูงได้
Fundamental view: เราคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 5.60 บาท



รายงานผลประกอบการวันนี้

BBL
ธนาคารกรุงเทพ
BBL รายงานกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท (สูงสุดของกำไรรายไตรมาส) โดยสูงกว่าที่เราคาด 13% และตลาดคาด 10% จากกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่สูงกว่าคาด และการควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานได้ดีกว่าคาด โดยกำไรสุทธิ 2Q24 ปรับเพิ่มขึ้น 5% YoY (Cost/income ratio ลดลง และ NIM สูงขึ้น) และ 12% QoQ (กำไรจากเครื่องมือทางการเงินเพิ่มขึ้น)
ทั้งนี้ เราเห็นคุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอลงบ้าง จาก NPLs/loans ratio ปรับเพิ่มขึ้นมาที่ 3.2% ณ มิ.ย. 2024 (จาก 3% ณ มี.ค. 2024) นำไปสู่การตั้งสำรองหนี้ฯ สูงขึ้นในไตรมาสนี้
เราคาดกำไรสุทธิ 3Q24 ลดลง 5% YoY และ 9% QoQ กดดันจาก NIM ที่อ่อนตัวลงบ้าง และกำไรจากเครื่องมือทางการเงินลดลง QoQ
ราคาหุ้นมี PER เพียง 6.2 เท่า และ PBV เพียง 0.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มธนาคารมาก และคาดอัตราเงินปันผลได้ราว 5% ต่อปี นอกจากนี้ BBL ยังมี loan-loss coverage ratio ที่สูงสุดในกลุ่มธนาคาร สามารถรองรับความเสี่ยงของเศรษฐกิจได้ดี เรายังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 170 บาท

สรุปประเด็นจาก Quick take

Thai Market Strategy
Quantamental stock screening
หุ้นปันผลดี + Outlook เด่น + Valuations ไม่แรง
3 หุ้นที่คาด ...
1) ให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ดี ทั้งระหว่างกาลและเต็มปี
2) จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ [จ่ายทุกปีใน 3 ปีที่ผ่านมา]
3) จ่ายเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อปี (เฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง) มากกว่าอัตราเงินเฟ้อที่ 2%
4) กำไร/รายได้ไตรมาสก่อนไม่ต่ำคาด
5) เห็นโมเมนตั้มการปรับประมาณการณ์กำไร/รายได้ขึ้นในช่วง 1-3 เดือนที่ผ่านมา
6) Valuations ยังมี upside
7) มีปัจจัยหนุนต่อใน 2H24 เช่น การใช้ไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นในนิคมฯ, Synergy จาก GULF-INTUCH, อุปสงค์เครื่องดื่มชูกำลังโตต่อ
โดยแบ่งตาม Sector ได้ ดังนี้
กลุ่มโรงไฟฟ้า WHAUP 3.7%
กลุ่มสื่อสาร ADVANC 2.2%
กลุ่มเครื่องดื่ม OSP 2.3%


วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ปลุกหุ้นใหญ่ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย สูตรเดิม มักใช้ได้เสมอ ใช้หุ้นDELTA นำ ตามด้วย .....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้