TESG COME BACK!!!
วานนี้หุ้นเทคฯ เมืองนอกยังผันผวนต่อ กดดัน FUND FLOW ไหลออกจากตลาดหุ้นแถบเอเชียเหนือ แต่ไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียแถบใต้ทุกประเทศรวมถึงไทยที่ถูกซื้อสุทธิ 1.3 พันล้านบาท (ซื้อสุทธิ 2 วัน)ขณะที่ในประเทศมีการรายงานงบ BBL งวด 2Q67 ออกมา 1.18 หมื่นล้านบาท ดีกว่าตลาดคาดราว 10% หนุนให้กำไรบริษัทที่ประกาศออกมาดีกว่าคาด 3.3% ส่วนข้อมูล BLOOMBERG EARNING PREVIEW งวด2Q67 ล่าสุดประเมินกำไรมีโอกาสเติบโต 20%YOY และ 2.9%QOQอีกประเด็นที่สำคัญ ปลัดกระทรวงการคลังเตรียมชง เรื่อง TESG FUNDเข้าครม.สัปดาห์หน้า พร้อมกับตลท. วางแผนปรับเกณฑ์ “SET ESGRATINGS” หวังฟื้นความเชื่อมั่น ประเด็นนี้น่าจะหนุนให้เม็ดเงินจากสถาบันฯ ที่ขายหุ้นออกเร็ว กลับมาซื้อหนาแน่นอีกครั้ง และหวังเม็ดเงินจะ
ไหลเข้าได้ราว 4 – 5 หมื่นล้านบาทต่อปีแนะหุ้น ESG ที่กองทุนถือเยอะCPALL, GULF, PTTEP, CPN, BDMS และหุ้น ESG คะแนนสูงรับกระแสบวกเฉพาะตัว STA, AMATAเม็ดเงินสถาบันฯ และต่างชาติ ที่มีโอกาสหนุนตลาดหุ้นไทยต่อ คาดหวังหนุน SET INDEX ยกกรอบเคลื่อนไหวขึ้น 1319–1335จุด ส่วนหุ้น TOPPICK เลือก CPALL, AMATA และ CPN

เฝ้ารอวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง
วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังปิดตัวในแดนลบราว -0.7% ถึง -1.9% จากแรงกดดันต่อเนื่องของหุ้นกลุ่มเทคฯ บวกกับความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัว และความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม ในแง่มุมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตวามร้อนแรงลง จากตลาดแรงงานที่ส่งสัญญาณอ่อนแอ สะท้อนจาก ขอสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ ล่าสุดเพิ่มขึ้น20,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 243,000 ตำแหน่ง สูงสุดในรอบ 11 เดือน ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเพิ่มโอกาส FED ลดดอกเบี้ยในปีนี้ โดยผลการสำรวจของ FED WATCHTOOL ล่าสุดคาด FED ปรับลดดอกเบี้ยปีนี้ 3 ครั้ง โดยครั้งแรกในเดือน ก.ย. 67 มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 93.5% แล้ว

สำหรับผลการประชุม ECB วานนี้ มีมติคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.25% ตามคาด เหตุต้องการควบคุมเงินเฟ้อ ส่วนการดำเนินโยบายการเงินระยะถัดไป ประธาน ECB เผยว่า ECB ยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้มั่นใจว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ก่อนที่จะเริ่มปรับลดอัตราอีกครั้ง ขณะที่ BLOOMBERG คาดว่า จะเห็นECB ปรับลดดอกเบี้ยสู่ 4.0% ในการประชุมรอบเดือน ก.ย. นี้

สรุป ทิศทางดอกเบี้ยของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ที่ส่งสัญญาณทยอยปรับตัวลดลงก่อนไทย ประเมินว่าจะช่วยหนุนให้เงินบาทชะลอการอ่อนค่า และน่าจะดึงดูด FUNDFLOW จากต่างชาติไหลเข้ามาในบ้านเรามากขึ้นกองทุน THAIESG ใหม่ พระเอกช่วยหนุนตลาดในช่วงที่เหลือของปี

ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นเดือนมีกระแสข่าวว่าเตรียมนำกองทุน TESG เข้าครม. ในช่วงกลางสัปดาห์ จึงทำให้เห็นเม็ดเงินซื้อสุทธิหุ้นไทยของสถาบันกว่า 4.6 พันล้านบาท(ช่วง1 -10 ก.ค.67) แต่หลังจากนั้นกระแสข่าวที่หายไปจึงทำให้สถาบันขายสุทธิหุ้นไทยจนยอดสุทธิอยู่ที่ -556 ล้านบาท (MTD) อย่างไรก็ตามวานนี้มีกระแสข่าวว่า คลัง เตรียมชง กองทุน TESG เข้าครม. สัปดาห์หน้า (23 ก.ค. 67) จึงเป็นไปได้ว่าเม็ดเงินจากฝั่งสถาบันจะกลับมาซื้อสุทธิ SET และหนุนดัชนีปรับตัวขึ้นช่วงสั้นได้

ฝ่ายวิจัยฯ คาดว่าเม็ดเงินจากสถาบันฯ มีโอกาสเอนเอียงหนุนในตลาดหุ้นไทยมากกว่าตราสารหนี้เนื่องจาก หากพิจารณา AUM กองทุน THAIESG ณ พ.ค.67ทั้งหมด 6.8 พันล้านบาท (32 กองทุน) มีตัวเลือกเป็นกองทุนตราสารหนี้ESG เพียงกองเดียว รวมถึงประเด็นความกังวลการผิดนัดชำระหนี้ในหุ้นกู้อื่นๆ ในปัจจุบันอาจทำให้สถาบันฯเน้นออกกองทุน TESG ใหม่เป็นกองทุนหุ้นมากกว่ากองทุนตราสารหนี้ได้หนุนเม็ดงเนน่าจะไหลเข้ามาในตลาดหุ้นได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย

ส่วนเม็ดเงินที่คาดหวังจาก THAIESG ใหม่ ที่ไหลกลับเข้ามาหนุนตลาดหุ้นราว 4 –5หมื่นล้านบาท ตามการเปรียบเทียบด้านเม็ดเงินที่สามารถนำมาลดหย่อยภาษีได้กับกองทุน LTF เดิม ซึ่งเม็ดเงินที่หนุน SET ทุกๆ 1 หมื่นล้านบาท มักหนุนให้ SET ขยับขึ้นได้ 1% –2%

โดยกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัยฯ ทำการคัดกรองหุ้นที่กองทุน TESG ถือเยอะสุด 9อันดับ คือ CPALL AOT PTT DELTA GULF PTTEP CPAXT CPN BDMS

และยังคัดกรองหุ้นใน SETESG ที่มี ESG RATINGS อยู่ในระดับสูงสุด “AAA” (มีคะแนนเกิน 90 จาก 100 คะแนน) และยังมี CG REPORT อยู่ในระดับ "ดีเลิศ" หรือ 5คะแนน น่าจะเป็นหุ้นเป้าหมายอันดับต้น ที่เม็ดเงินของนักลงทุนสถาบันฯ และเม็ดเงินจาก THAIESG FUND ใหม่จะไหลเข้า ได้ผลลัพธ์ 29 บริษัท โดยหุ้นในกลุ่มดังกล่าวที่ฝ่ายวิจัยฯชื่นชอบ คือ ADVANC CPALL KBANK SCC CRC PTTGC TISCOBGRIM CKP STA AMATA THCOM เป็นต้น

สรุป กองทุน THAIESG ใหม่ น่าจะจูงใจให้คนเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ทั้งในมุม VALUATION ที่น่าสนใจ การเติบโตที่ยั่งยืน อีกทั้งข้อบังคับระยะเวลาการถือครองยังสั้นสุดเมือเทียบกับกองทุนประหยัดภาษีอื่นๆ ทั้ง LTF และ SSF โดยแนะนำหุ้น ESGที่กองทุนถือเยอะ CPALL, GULF, PTTEP, CPN, BDMS และหุ้น ESG คะแนนสูงรับกระแสบวกเฉพาะตัว STA, AMATA

Research Division
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส

เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม, CISA
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์