
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (18 กรกฎาคม 2567)------------ COCOCO เคาะงบราว 280 ลบ. ลงทุน โครงการไลน์การผลิตผลิตภัณฑ์กลุ่ม Beverage with pulp ดันกำลังการผลิตสูงสุดของผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าว เพิ่มขึ้นจากเดิม 360,000 ตันต่อปี เป็นประมาณ 398,000 ตันต่อปี
นางสาวพัฒรา ทัศจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและสารสนเทศ บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) COCOCO เปิดเผยว่า ด้วยที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ครั้งที่ 6/2567เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2567ได้มีมติอนุมัติการเข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์โครงการลงทุนไลน์การผลิตผลิตภัณฑ์กลุ่ม Beverage with pulp โดยกำหนดมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 280 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการและการเติบโตของผลิตภัณฑ์ Beverage with pulp โดยภายหลังการลงทุนโครงการดังกล่าว จะทำให้กำลังการผลิตสูงสุดของผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าว เพิ่มขึ้นจากเดิม 360,000 ตันต่อปี เป็นประมาณ398,000 ตันต่อปี
การเข้าทำรายการในโครงการดังกล่าวเข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ (และที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547 (รวมเรียกว่า “ประกาศเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไป”)ซึ่งเมื่อคำนวณขนาดรายการของธุรกรรมดังกล่าว โดยใช้เกณฑ์มูลค่ารวมสิ่งตอบแทน โดยอ้างอิงจากงบการเงินรวมของบริษัทฯประจำไตรมาส 1/2567 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่มีขนาดรายการสูงสุด เท่ากับร้อยละ 5.14 และเมื่อบริษัทฯพิจารณารายการนี้รวมกับขนาดรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเกณฑ์ได้มาสูงสุด คือ เกณฑ์มูลค่ารวมสิ่งตอบแทน มีขนาดรายการรวมเท่ากับ 13.27 ทำให้ขนาดรายการรวมเท่ากับร้อยละ 18.41 รายการดังกล่าวจึงเข้าข่ายเป็นรายการประเภทที่ 2 ตามประกาศเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไป กล่าวคือ เป็นรายการที่ที่มีขนาดรายการมากกว่าร้อยละ 15 แต่ไม่เกินร้อยละ 50 ดังนั้น บริษัทฯ จะต้องจัดทำรายงานและเปิดเผยสารสนเทศการเข้าทำรายการดังกล่าวของบริษัทฯ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) ตามบัญชี (1) ท้ายประกาศเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไปทันที และต้องจัดส่งหนังสือเวียนให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ภายใน 21 วัน นับแต่วันที่เปิดเผยสารสนเทศการเข้าทำรายการต่อตลาดหลักทรัพย์ฯตามบัญชี (2) ท้ายประกาศเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไป โดยไม่ต้องขออนุมัติการเข้าทำรายการดังกล่าวจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ
ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างพิจารณาคัดเลือกคู่สัญญาตามกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทฯ ซึ่งบริษัทจะพิจารณาคู่สัญญาที่ไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัทฯ ดังนั้น รายการดังกล่าวข้างต้นจึงไม่เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ.21/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน ลงวันที่31 สิงหาคม 2551 (และที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยง พ.ศ. 2546 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2546 (และที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม)
///จบ///