สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(16 กรกฎาคม 2567)----------บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยผันผวน หวั่นกรณี EA และลุกลามไปยังกลุ่มแบงก์ที่ปล่อยสินเชื่อกลายเป็น Domino Effect บวกกับนักลงทุนจับตาการประกาศงบของกลุ่มธนาคารในสัปดาห์นี้ จึงให้กรอบดัชนีที่ 1,300-1,350 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนในหุ้น 2 ธีม หุ้นกลุ่ม ESG Rating เด่น และหุ้นที่ได้อานิสงส์การลงทุนใน data center และ cloud service

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งตัวผันผวน จากความกังวลผลกระทบที่เกิดจากกรณีหุ้น EA ที่ ก.ล.ต.แจ้งเอาผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ 3 ผู้บริหารของ EA และถูกถอดหุ้นออกจาก Thai ESG ส่งผลให้ขาดความเชื่อมั่นหุ้นทั้งกลุ่ม EA และลุกลามไปยังกลุ่มธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อเป็นความกังวลที่เป็น Domino Effect ประกอบกับนักลงทุนจับตาการประกาศงบของกลุ่มธนาคารในสัปดาห์นี้ จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,300-1,350 จุด

อีกทั้งดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานและเป็นหนึ่งในมาตรวัดเงินเฟ้อปรับตัวขึ้น 3%YoY ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ +2.5%YoY จาก +2.6%YoY ในเดือนพ.ค. โดยทางสหรัฐประกาศสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ชุดใหม่แก่ยูเครนมูลค่า 225 ล้านดอลลาร์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศของยูเครน ขณะที่ขีปนาวุธและโดรนของรัสเซียยังคงถล่มเมืองต่าง ๆ ของยูเครนอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ทางผู้เชี่ยวชาญด้านญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นจะเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมากในช่วงหลายปีข้างหน้า เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ก่อให้เกิดความกังวลด้านธุรกิจและความมั่นคงในภูมิภาค ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เรียกร้องให้ชาติพันธมิตรในยุโรปเตรียมตัวปรับลดการลงทุนในจีนหากจีนยังคงให้การสนับสนุนแก่รัสเซีย หลังจากองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ระบุว่า จีนเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือรายใหญ่แก่รัสเซียในการทำสงครามกับยูเครน

ส่วนด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้มีการสรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่ม นักลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-12 กรกฎาคม 2567 พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 121,026.68 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 2,114.86 ล้านบาท ส่วนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 7,740.93 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ ซื้อสุทธิ 115,400.60 ล้านบาท

และยังคงต้องปติดตามปัจจัยในประเทศ อาทิ วันนี้มีการประชุมครม. สัปดาห์ที่ 3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม และภายใน 21 ก.ค. หุ้นกลุ่มธนาคารส่งงบการเงินงวดไตรมาส 2/2567และงวดครึ่งปี 2567 วันที่ 24 ก.ค. นายกฯ แถลงรายละเอียดของมาตรการ digital wallet สัปดาห์ที่ 4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจการคลังรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค และดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม วันที่ 31 ก.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ด้านสถานการณ์ต่างประเทศที่น่าจับตา วันนี้ 16 ก.ค. สหรัฐ รายงานดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ค., วันที่ 17 ก.ค. สหรัฐ รายงานรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) วันที่ 18 ก.ค. สหรัฐ รายงานดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมิ.ย. วันที่ 10 ก.ย. ดีเบตรอบสองของผู้เข้าชิงตำแหน่งปธน.สหรัฐ วันที่ 5 พ.ย. วันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นกลุ่ม ESG Rating เด่น (AAA) ได้แก่ ADVANC, BANPU, CPF, PTTGC และ SCC รวมทั้งหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลงทุน DATA CENTER และ CLOUD SERVICE ได้แก่ GULF, ADVANC, TRUE, INSET และ ITEL

ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินแนวโน้มราคาทองคำในสัปดาห์นี้ว่า แนะนำให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ดัชนีภาคการผลิต ยอดค้าปลีก ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ค. รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมิ.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และถ้อยแถลงของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เพื่อติดตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ทั้งช่วงที่ผ่านมามีสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ล่าสุดชะลอตัวลง บวกกับประธานเฟดต้องการรักษาการจ้างงานเพื่อไม่ให้กระทบเศรษฐกิจ ฝ่ายวิจัยมองกรอบทองคำสัปดาห์นี้ 2,350 – 2,450 $/Oz แนะนำลุ้นทดสอบแนวต้าน