Today’s NEWS FEED

News Feed

ฟิทช์คงอันดับเครดิตของธนาคารกรุงไทยที่ 'BBB+' และ 'AAA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

268

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (12 กรกฎาคม 2567 )-------ฟิทช์ เรทติ้งส์- กรุงเทพฯ/สิงคโปร์-12 กรกฎาคม 2567: ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Issuer Default Rating (IDR)  ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ที่ 'BBB+' และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ฟิทช์ได้ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ ‘F1’ อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล (Government Support Rating: GSR) ที่ 'bbb+'  และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating ) ที่ 'bbb-'

 

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

ปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล: อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศและอันดับเครดิตภายในประเทศมีปัจจัยสนับสนุนมาจากอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งสะท้อนถึงความคาดหวังของฟิทช์ว่าธนาคารมีโอกาสที่จะได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษจากรัฐบาลไทย (BBB+/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ/F1) เมื่อมีความจำเป็น อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นของ KTB ถูกจัดอันดับให้อยู่ในทางเลือกที่สูงกว่าสำหรับอันดับเครดิตระยะสั้น เพื่อสะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ว่าโอกาสในการให้การสนับสนุนมีความแน่นอนมากกว่าในระยะสั้น ทั้งนี้ อันดับเครดิตภายในประเทศยังได้พิจารณาเปรียบเทียบโครงสร้างเครดิตของ KTB กับบริษัทและธนาคารรายอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ

 

มีโอกาสในการได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสูงกว่าธนาคารอื่น: อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ KTB ที่ 'bbb+' เป็นอันดับที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารที่มีความสำคัญในเชิงระบบของประเทศไทย (D-SIB) รายอื่น  อยู่ 1 อันดับ KTB มีความสำคัญในเชิงระบบที่ค่อนข้างเด่นชัด ในฐานะหนึ่งในธนาคารขนาดใหญ่ของไทย โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดด้านเงินฝากที่ 16% นอกจากนี้ KTB ยังมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับรัฐบาล โดย KTB เป็นธนาคารพาณิชย์เพียงแห่งเดียวที่ภาครัฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และยังมีบทบาทสำคัญในการบริหารเงินสดให้แก่หน่วยงานราชการต่างๆ ธนาคารยังมีส่วนช่วยสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล เช่น การช่วยเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19

 

แนวโน้มการเติบโตค่อนข้างจำกัดในระยะสั้น: แนวโน้มของธุรกิจธนาคารในประเทศไทย ได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของโควิด แต่อย่างไรก็ตามแนวโน้มการเติบโตอาจจะปรับตัวดีขึ้นอีกได้ไม่มากนัก เนื่องจากฟิทช์ยังคาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจ (GDP) น่าจะยังคงอยู่ในระดับที่ไม่สูงนักที่  2.6% ในปี 2567 ฟิทช์ให้อันดับคะแนนปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่ 'bbb' ซึ่งเป็นในระดับที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับอันดับคะแนนตามเกณฑ์ซึ่งจะอยู่ในกลุ่ม 'bb' ตามเกณฑ์การพิจารณาของฟิทช์ เนื่องจากฟิทช์เชื่อว่ารัฐบาลไทยจะช่วยสนับสนุนเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคและระบบการเงินของประเทศ

 

มีเครือข่ายธุรกิจที่มั่นคงและมีเสถียรภาพ: อันดับคะแนนโครงสร้างธุรกิจของ KTB ที่ 'bbb' สะท้อนถึงการที่ KTB มีขนาดและเครือข่ายธุรกิจ ที่แข็งแกร่งมากอย่างยาวนานและเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย  KTB เป็นหนึ่งในธนาคารที่มีขนาดใหญ่ในประเทศไทย โดยมีปัจจัยหนุนจากโครงสร้างธุรกิจที่มีความหลากหลาย (diverse) และมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับหน่วยงานรัฐบาล ทั้งในด้านสินเชื่อและเงินฝาก ทั้งนี้ ปัจจัยดังกล่าวยังมีส่วนช่วยสนับสนุน KTB ในการเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีความสำคัญในเชิงระบบของประเทศไทยอีกด้วย

 

ยังคงเติบโตอย่างระมัดระวังในระยะสั้น: โครงสร้างความเสี่ยงของ KTB ที่ 'bbb-' พิจารณาจากความผันผวนของคุณภาพสินทรัพย์ในอดีตที่สูงกว่าธนาคารขนาดใหญ่รายอื่น ทั้งนี้อัตราการเติบโตของสินเชื่อของ KTB นั้นส่วนใหญ่มาจากการเติบโตในสินเชื่อของหน่วยงานรัฐบาลซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาดโควิด อย่างไรก็ตาม ฟิทช์คาดว่าการเติบโตของสินเชื่อในกลุ่มลูกค้าประเภทอื่นน่าจะทยอยปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาสู่ระดับปกติในระยะปานกลาง

 

คุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้น: อันดับคะแนนด้านคุณภาพสินทรัพย์ของ KTB ที่ 'bb+' สอดคล้องกับคะแนนตามเกณฑ์ ทั้งนี้การปรับแนวโน้มของอันดับคะแนนเป็น 'บวก' สะท้อนถึงแนวโน้มในการปรับตัวดีขึ้นของอันดับคะแนนด้านคุณภาพสินทรัพย์ และช่องว่างของอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมที่ลดลงเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่อื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิต อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมของธนาคารมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปมาอยู่ที่ 3.7% ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2567 จาก 4.7% ณ สิ้นปี 2563 อัตราส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคาร ก็มีการปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ 176% ณ สิ้นไตรมาสที่  1 ปี 2567 จาก 138% ณ สิ้นปี 2563 และน่าจะช่วยบรรเทาความเสี่ยงที่เกินความคาดหมายได้

 

ผลประกอบการที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ: อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงของ KTB ปรับตัวดีขึ้นเป็น 2.8% ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2567 (ปี 2563: 2.4%) แต่ฟิทช์คาดว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยเชิงฤดูกาล (seasonal) และคาดว่าผลประกอบการของธนาคารน่าจะปรับตัวอ่อนแอลงบ้างในปี2567อย่างไรก็ตามอันดับคะแนนด้านรายได้และความสามารถในการทำกำไรที่ 'bbb-' นั้น สะท้อนถึงความเชื่อของฟิทช์ว่าธนาคารยังคงมีความสามารถในการทำกำไรที่ค่อนข้างดี และสามารถรักษาอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงไว้ที่สูงกว่า 2% ได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า

 

ฐานะเงินกองทุนมีปัจจัยสนับสนุนมาจากผลประกอบการที่ดีขึ้น: KTB มีฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากกำไรสะสมที่เพิ่มขึ้นของธนาคาร โดยอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ (CET1) อยู่ที่ 16.5% ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2567 (ปี 2566: 16.7%, 2565: 15.7%) ซึ่งสอดคล้องกับธนาคารขนาดใหญ่อื่น อันดับคะแนนปัจจัยด้านฐานะเงินกองทุนที่ 'bbb' และแนวโน้มอันดับคะแนนเป็น 'บวก'  สะท้อนถึงความคาดหวังของฟิทช์ว่าอันดับคะแนนด้านฐานะเงินกองทุน อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับให้สอดคล้องกับธนาคารขนาดใหญ่รายอื่น หากธนาคารสามารถรักษาอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ ให้ทรงตัวอยู่ในระดับสูงเช่นในปัจจุบัน ได้อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าสินทรัพย์เสี่ยง (risk weighted asset) ของธนาคารอาจมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต

 

เครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่งเป็นปัจจัยสนับสนุนความสามารถในการระดมเงินทุน: อันดับคะแนนด้านสภาพคล่องและการระดมเงินทุนของธนาคารที่ 'bbb' พิจารณาถึงเครือข่ายธุรกิจภายในประเทศของ KTB ที่แข็งแกร่งมาอย่างยาวนานและมีการเชื่อมโยงกับภาครัฐ ฐานเงินฝากที่มั่นคงของ KTB ได้รับการสนับสนุนจากการมีสัดส่วนเงินฝากที่มีต้นทุนต่ำในปริมาณมาก โดยอัตราส่วนของเงินฝากบัญชีกระแสรายวันและบัญชีออมทรัพย์ต่อเงินฝากทั้งหมดของธนาคารอยู่ที่ 79%  นอกจากนี้ ธนาคารยังมีการถือครองสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องในระดับสูง โดยอัตราส่วนการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องเพื่อรองรับสถานการณ์ด้านสภาพคล่องที่มีความรุนแรง (LCR) ที่ 202% ณ สิ้นปี 2566

 

ปัจจัยที่อาจส่งผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):

การปรับลดอันดับเครดิตของอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTB อาจเกิดขึ้นได้หากอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลถูกปรับลดอันดับ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTB สะท้อนถึงโครงสร้างเครดิตของธนาคารที่ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลเทียบกับธนาคารและบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นของ KTB อาจถูกปรับลดอันดับหากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารถูกปรับลดอันดับลง

 

อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ KTB อาจถูกปรับลดอันดับ หากมุมมองที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารมีการปรับตัวด้อยลง ตัวอย่างเช่น การปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย ซึ่งบ่งชี้ถึงความสามารถของรัฐบาลในการให้การสนับสนุนแก่ธนาคารที่ด้อยลง นอกจากนี้อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลยังอาจถูกปรับลดอันดับได้ ในกรณีที่ฟิทช์มองว่าโอกาสในการให้การสนับสนุนจากรัฐบาลมีการปรับตัวลดลง ตัวอย่างเช่น เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ จากการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของระดับความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและส่วนแบ่งทางการตลาดด้านเงินฝาก หรือการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของระดับความสัมพันธ์และการเชื่อมโยงกับรัฐบาล แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะปานกลาง

 

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ KTB อาจถูกปรับลดลงเป็น 'bb+' หากฐานะทางการเงินในหลายๆด้านของธนาคารมีการปรับตัวด้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจเกิดได้หากมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดซึ่งส่งผลต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวมในวงกว้าง และ/หรือ การมีโครงสร้างธุรกิจที่ด้อยกว่าที่ฟิทช์คาดการณ์ไว้ และอาจบ่งชี้ได้จากการปรับตัวด้อยลงของผลการดำเนินงานของธนาคาร โดยมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมเฉลี่ย 4 ปี  ที่มากกว่า 6% เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง  อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ต่ำกว่า 1.0% และมีความสามารถในการรองรับความเสี่ยงที่ด้อยลง โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ ที่ต่ำกว่า 13 % เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง และไม่มีแผนการเพิ่มเงินกองทุนที่ชัดเจน (ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2567 อยู่ที่  16.5%) ประกอบกับมีอัตราส่วนสำรองหนี้สูญต่อหนี้สินด้อยคุณภาพที่ต่ำกว่า 100%

 

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวจะได้รับการปรับเพิ่มอันดับในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล

 

อันดับเครดิตภายในประเทศของ KTB เป็นอันดับเครดิตสูงสุดแล้ว จึงไม่มีโอกาสได้รับการปรับเพิ่มอีก

 

อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ KTB อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับหากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทยได้รับการปรับเพิ่มอันดับ แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์ก็จะพิจารณาสมมุติฐานอื่นที่เกี่ยวข้องกับแนวโน้มการให้ความสนับสนุนด้วยว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ณ ระดับอันดับเครดิตของประเทศที่สูงขึ้น

 

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ KTB อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับ หากคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ควบคู่ไปกับโครงสร้างความเสี่ยงที่ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก และมีการรักษาเงินกองทุนที่แข็งแกร่งในการรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้หากฟิทช์มองว่าอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินทรัพย์รวมเฉลี่ย 4 ปีสามารถอยู่ที่ระดับน้อยกว่า 3.8% ได้อย่างต่อเนื่อง  ควบคู่ไปกับการมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ ที่สูงกว่า 16%

 

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต: อันดับเครดิตตราสารหนี้และอันดับเครดิตอื่นหุ้นกู้ด้อยสิทธิ

หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ

อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ KTB สกุลเงิน USD อยู่ที่ 'BBB+' ได้รับการจัดอันดับเครดิตให้อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคาร เพื่อสะท้อนถึงภาระผูกพันที่ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิของธนาคาร

 

หุ้นกู้ด้อยสิทธิ

หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์บาเซล 3 ของธนาคารได้รับการจัดอันดับต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTB อยู่ 2 อันดับ ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ในการจัดอันดับของฟิทช์เพื่อสะท้อนความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss severity risk) ที่มากกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน ฟิทช์ไม่ได้มีการปรับลดอันดับเครดิตเพิ่มเติมสำหรับความเสี่ยงที่ผู้ถือหุ้นกู้จะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดการณ์ (non-performance risk) เนื่องจากสถานะด้อยสิทธิของตราสารไม่มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption) เช่น คุณสมบัติของการยกเลิกหรือการเลื่อนจ่ายดอกเบี้ย

 

อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เป็นอันดับเครดิตอ้างอิงของหุ้นกู้ดังกล่าว เพื่อสะท้อนถึงความคาดหวังของฟิทช์ว่ารัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ KTB ก่อนที่จะถึงจุดที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้

 

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล (Ex-Government Support Ratings)

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล (Long-Term IDR(xgs))  ของ KTB ถูกจัดอันดับให้อยู่ในระดับเดียวกับอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคาร อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล (Short-Term IDR(xgs)) ซึ่งพิจาณาจากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งเทียบได้กับ F3(xgs) และเป็นไปตามเกณฑ์การพิจารณาของฟิทช์ ทั้งนี้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลของธนาคารก็ถูกจัดอันดับในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลของธนาคาร

 

ปัจจัยที่อาจส่งผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต: อันดับเครดิตตราสารหนี้และอันดับเครดิตอื่นหุ้นกู้ด้อยสิทธิ

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):

การปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวจะส่งผลในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของธนาคาร

 

อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิอาจได้รับการปรับลดอันดับตามการปรับลดอันดับเครดิตของอันดับเครดิตอ้างอิง ซึ่งก็คือ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว

 

การเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลของ KTB ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคาร ดังนั้นการปรับลดอันดับของอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ KTB จะนำไปสู่การปรับลดอันดับของอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล และอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล

 

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):

อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับ หากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารได้รับการปรับเพิ่มอันดับ

 

อันดับเครดิตอ้างอิงของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ซึ่งคือ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวนั้นอยู่ในอันดับสูงสุดของประเทศแล้ว ดังนั้นไม่มีโอกาสที่ได้รับการปรับเพิ่มอันดับอีก เว้นแต่ฟิทช์ประเมินว่าระดับการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss severity) ในกรณีที่ผลตอบแทนไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ จะไม่อยู่ในระดับที่สูงมากนัก ซึ่งนั้นหมายถึงการปรับลดอันดับจะต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวเพียง 1  อันดับจากอันดับเครดิตอ้างอิง จากระดับปัจจุบันที่ต่ำกว่าอยู่ 2 อันดับ แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์คาดว่าสมมุติฐานดังกล่าวจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในระยะสั้น

 

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลของ KTB และอันดับเครดิตสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล จะได้รับการปรับเพิ่มอันดับหากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารได้รับการปรับเพิ่มอันดับ ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลของธนาคาร หากอันดับคะแนนด้านเงินทุนและสภาพคล่องไม่ได้มีการปรับเพิ่มขึ้นไปที่ 'bbb+'  อันดับเครดิตสากลที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล (xgs) อาจถูกยกเลิกได้ หากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ KTB ได้รับการปรับเพิ่มอันดับขึ้นมาที่ 'bbb+' หรือสูงกว่า ซึ่งจะบ่งชี้ว่าอันดับเครดิตของ KTB จะไม่มีปัจจัยด้านการสนับสนุนจากรัฐบาลเป็นปัจจัยหลักในการพิจารณาอันดับเครดิต

การปรับคะแนนของปัจจัยในการพิจารณาอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน

อันดับคะแนนที่ให้แก่ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่ 'bbb' อยู่สูงกว่าคะแนนตามเกณฑ์ที่อยู่ในกลุ่ม 'bb' จากการปรับเพิ่มคะแนนด้วยปัจจัยด้าน 'อันดับเครดิตของประเทศ'

 

แหล่งข้อมูลที่มีนัยสำคัญต่อการพิจารณาอันดับเครดิต

แหล่งที่มาของข้อมูลหลักที่ใช้ในการประเมินอันดับเครดิตมีรายละเอียดเปิดเผยอยู่ในเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้องของฟิทช์

 

อันดับเครดิตที่มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น

อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว และอันดับเครดิตภายในประเทศของ KTB มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย

 

การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

KTB มีระดับคะแนนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ที่ระดับ 4 สำหรับความสัมพันธ์ของโครงสร้างธรรมาภิบาล (Governance Structure) เนื่องจากการถือหุ้นโดยรัฐบาลในธนาคารและมีโอกาสที่ภาครัฐจะมีอิทธิพลต่อการกำกับดูแลกิจการและความเสี่ยง (risk governance) และโครงสร้างทางการเงินของธนาคาร ซึ่งเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบทางลบต่อโครงสร้างเครดิตและสัมพันธ์ต่ออันดับเครดิตเช่นเดียวกับปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตอื่น

 

หากไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนนี้ แสดงว่าธนาคารมีระดับคะแนนความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต ไม่เกินระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของธนาคารก็ตาม รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดมีดังนี้สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมหาได้จาก www.fitchratings.com/esg

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

รู้จัก เมดีซ กรุ๊ป ก่อนเทรด บนกระดาน SET - สายตรงอินไซด์

รู้จัก เมดีซ กรุ๊ป ก่อนเทรด บนกระดาน SET - สายตรงอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้