News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

10 ก.ค. 2567 09:25:35 715

Market Wrap-Up

SET วันที่ 9 ก.ค.67 ปิด -2.58 จุด อยู่ที่ 1,319.92 จุด มูลค่าการซื้อขาย 38,111 ลบ.ต่างชาติขาย 916 ลบ.สถาบันขาย 667 ลบ.รายย่อยซื้อ 1,384 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิรวม 162 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น CPALL,TRUE,ADVANC,KBANK,BBL และมียอดขายสุทธิ PTTEP,SCB,EA,CCET,LH มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,353 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ HKCE01,CKP,KTC-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 3,309 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 44,698 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 1,738 ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.13%, S&P500 +0.07%, Nasdaq +0.14% ได้แรงหนุนจากกลุ่มการเงิน +0.65% ก่อนวันศุกร์นี้จะเริ่มรายงานกำไร Q2/67, เฮลธ์แคร์ +0.43% และกลุ่มเทคโนโนยีได้แรงหนุนจาก Nvidia +2.5% ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อม มิ.ย. ปรับขึ้นอยู่ที่ 91.5 สูงสุดนับตั้งแต่ ธ.ค.66 ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.90% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี -1.6%, น้ำมัน & ก๊าซ -1.5% หลัง BP อังกฤษ -4.2% จากคาดการณ์กำไรจากค่าการกลั่นปรับลดลง

Market View

ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ S&P500, Nasdaq ปิดทำจุดสูงสุดใหม่ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี & ผู้ผลิตชิป หลัง ปธ.เฟดแถลงนโยบายเศรษฐกิจ & การเงินรอบครึ่งปีต่อวุฒิสภา ชี้เงินเฟ้อและตลาดแรงงานเริ่มผ่อนคลายลง และหากเงินเฟ้อสหรัฐมีแนวโน้มลดลงอย่างยั่งยืน เฟดพร้อมผ่อนคลายนโยบายการเงิน เนื่องจากหากตีงตัวมากขึ้นจะกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจ & การจ้างงาน เช่นเดี่ยวกับ รมว.คลังสหรัฐ เจเน็ต เยลเลน ชี้งเงินเฟ้อสหรัฐมีแนวโน้มลดลง จากฝั่งอุปานและตลาดแรงงานเริ่มผ่อนคลาย จากปัจจัยดังกล่าว CME Fed Watch ชี้โอกาส 71.8% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ใน ก.ย. นี้ ค่ำวันนี้ติดตามพาวเวลแถลงต่อสภาผู้แทน ฯ, วันพฤหัสรายงาน US CPI มิ.ย. คาดที่ 1% & พ.ค. 3.3% YoY รวมถึงการเริ่มรายงานกำไร Q2/67 ของ Pepsi, Delta Airline และกลุ่มธนาคารเช่น JP.Morgan, Citi Group, Wells Fargo
ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลง นำโดย CAC-40 ฝรั่งเศส -1.56% หลังผลการเลือกตั้งพรรคฝ่ายซ้าย (NFP) ได้ 188 ที่นั่ง, พรรคฝ่ายกลางของ ปธ.มาครงได้ 161 ที่นั่ง และพรรฝ่ายขวา (RN) ของนางเลอเปนได้ 142 ที่นั่ง ส่งผลให้ไม่มีพรรคใดสามารถครองเสียงข้างมากในสภา ฯ ซึ่งอาจส่งผลลบต่อการบริหารประเทศ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวันพรุ่งนี้ติดตาม CPI เยอรมัน มิ.ย. คาดลดลงอยู่ที่ 2.2% & พ.ค. 2.4% YoY
ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่วานนี้ทรงตัวรอถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +1.26% รอการประชุมใหญ่ของคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 20 ครั้งที่ 3 ในวันที่ 15 – 18 ก.ค. เพื่อติดตาม ม.กระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ส่วนเช้านี้รายงาน CPI จีน มิ.ย. +0.2% & พ.ค. +0.3% YoY และ PPI จีน มิ.ย. -0.8% & พ.ค. -1.4% YoY บ่งชึ้กำลังซื้อผู้บริโภค & ผู้ผลิตของจีนยังฟื้นตัวช้า
SET วานนี้ปิด -0.20% ปริมาณการซื้อขาย 8 หมื่น ลบ ต่างชาติขาย 916 ลบ. สถาบันขาย 667 ลบ. รายย่อยซื้อ 1,384 ลบ พอร์ตโบรกซื้อ 199 ลบ. ดัชนีปรับลดลงจากแรงขายกลุ่ม รพ. -1.1% หลังเตรียมลดเงินสมทบฝ่ายนายจ้างและฝ่ายผู้ประกันตนจากเดิมฝ่ายละ 5% ของค่าจ้างประกันตน เหลือฝ่ายละ 3% ซึ่งอาจกระทบต่อรายได้ของกลุ่ม รพ.ที่พึ่งพารายได้จากประกันสังคม ส่วนกลุ่มพลังงาน -0.9% ก็ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบ ขณะที่กลุ่มช่วยหนุนดัชนี คือ ไอซีที นำโดย ADVANC +2.35% จาก BB คาดการณ์กำไร Q2/67 +17% YoY และทรงตัว QoQ กอปรมี Dividend Yield ที่ 4.3% โดยภาพรวมนักลงทุนเริ่มขายกำไร หลังดัชนีปรับขึ้นรับข่าวความคืบหน้า ม.ดิจิทัลวอลเล็ต และยังรอการแถลงรายละเอียดโครงการจากนายกฯ อีกครั้งในวันที่ 24 ก.ค. ส่วนปัจจัยการเมืองวันนี้ ติดตามศาล รธน.จะมีคำสั่งต่อกรณีคุณสมบัตินายก ฯ อย่างไร

Daily Strategy

ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,310 – 1,315 หากยืนได้คาดมีโอกาสปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,325 – 1,330 ได้แรงหนุนจากคาดการณ์เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. และความคืบหน้า ม.ดิจิทัล วอลเล็ต แนะนำทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT,CRC,GLOBAL/ ไอซีที ADVANC,TRUE คาดกำไร Q2/67 อยู่ในแนวโน้มบวก
BBGI* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 7.45 บาท) ปัจจัยหนุนการเติบโตในปี 67-68 จะมาจาก 1) อัตราการใช้กำลังการผลิต B100 ที่เพิ่มขึ้นหลังจาก BCP ควบรวม ESSO ทำให้มีความต้องการใช้จากโรงกลั่นบางจากศรีราชา (BSRC) 2) แนวโน้มราคา B100 และ ethanol โดยเฉลี่ยที่สูงกว่าปีก่อน 3) โรงงาน SAF (ถือหุ้น 20%) กำลังการผลิต 1 ล้านลิตรต่อวัน จะเสร็จต้นปีหน้า ช่วยสร้างกำไรทางฝั่งธุรกิจ Biotechnology ซึ่งเราคาดว่า demand ของ SAF จะทยอยเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนข้อบังคับของอุตสาหกรรมการบิน
KCG* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 12.53 บาท) แนวโน้มการดำเนินงานยังมีปัจจัยหนุนต่อเนื่อง YoY จาก 1.ศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า KCG Logistics Park ที่เริ่มเปิดใช้งาน(คาดช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการเช่าคลังข้างนอกปีละราว 50 ลบ.) 2.ระดับราคาต้นทุนวัตถุดิบหลัก(เช่น แป้งสาลี, น้ำมันปาล์ม, น้ำมันเนย) ที่ยังอยู่ในระดับไม่สูงเกินไป 3.การปรับปรุง Production line ให้เป็น automatic มากขึ้น ทั้งนี้ ในส่วนของ KCG* เองวางเป้ารายได้ปี67นี้ +10%YoY และ ตลาดคาดว่าในปี67 และ68 กำไรสุทธิของ KCG* จะอยู่ที่ระดับ 380 ลบ.(+24.33%YoY) และ 439 ลบ.(+15.43%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ส.ค. -$0.92 อยู่ที่ $81.41 / บาร์เรล, Brent ก.ย. -$1.09 อยู่ที่ $84.66/บาร์เรล จากข่าวการเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซา และผลกระทบจากพายุเบริลต่อโรงกลั่นในรัฐเท็กซัสมีไม่มาก

Gold Update(+) Comex Gold ส.ค.+$4.40 อยู่ที่ $2,367.90/ออนซ์ ได้แรงหนุนจากคาดการณ์เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยใน ก.ย. นี้ และรอรายงาน US CPI มิ.ย. ในช่วงค่ำวันพรุ่งนี้

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -25.16 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +1.44 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -0.28 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านีทรงตัวอยู่ที่ 36.42 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.307 %

(-) ดัชนี BDI ปิด -46 จุด อยู่ที่ 1,894

(+) BitCoinเช้านี้ +2.41% อยู่ที่ 57,931 ดอลลาร์สหรัฐ

Economic Calendar

ในประเทศ

09 ก.ค. ตลท.) แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์

สัปดาห์ที2 หอการค้าไทย ร่วมกับม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัพเดตสถานการณ์ลงทุน

ต่างประเทศ

09 ก.ค. US คำแถลงการณ์ของพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ 10 ก.ค. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ

11 ก.ค. US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (มิ.ย.)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

12 ก.ค. US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เดือนต่อเดือน) (มิ.ย.)

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio July 2024: GFPT*, SAPPE*, ITC*, BTG*, KLINIQ

Analysts

Apichai Raomanachai