Market Wrap-Up
- SET วันที่ 2 ก.ค.67 ปิด -10.77 จุด อยู่ที่ 1,288.58 จุด มูลค่าการซื้อขาย 38,214 ลบ.ต่างชาติขาย 2,820 ลบ.สถาบันซื้อ 1,469 ลบ.รายย่อยซื้อ 1,829 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิรวม 797 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น TRUE,BBL,IVL,COM7,BGRIM และมียอดขายสุทธิ EA,PTT,KTC,DELTA,MINT มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,934 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ JMART,LH,SKY-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 22,265 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 120,265 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 2,917 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.41%, S&P500 +0.62%, Nasdaq +0.84% ได้แรงหนุนจากกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย +1.8%, การเงิน +1.1% โดย Tesla +10.4% รับยอดส่งมอบรถยนต์ EV Q2/67 อยู่ที่ 443,956 คัน สูงกว่าคาด Q1/67 และ GM +0.6% รับยอดขายรถยนต์สหรัฐ Q2/67 เพิ่มขึ้น ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.42% จากแรงขายกลุ่มประกัน -1.6% กังวลความเสี่ยหายพายุเฮอริเคนเบริล และกลุ่มรถยนต์ -0.9% หลังหุ้นมิชลินของฝรั่งเศส -3.1% จากคาดการณ์ยอดขายยางรถยนต์ปีนี้ลดลง
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี, สินค้าฟุ่มเฟือย หลังเจอโรม พาวเวลแถลงในงานประชุมของ ECB ชี้แนวโน้มเงินเฟ้อสหรัฐลดลง แต่รอยันยีนว่าลดลงอย่างยั่งยืนก่อนจะตัดสินใจดอกเบี้ยในปีนี้ ส่งผลให้ตลาดคาดเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ส่วน JOLTS เผยตัวเลขเปิดรับสมัครงาน พ.ค. อยู่ที่ 8.14 ล. สูงกว่าคาดที่ 7.96 ล.ตำแหน่งงาน ประเด็นเศรษฐกิจวันนี้ติดตาม Fed Minutes มิ.ย.,วันพฤหัสตลาดหุ้นสหรัฐปิดในวันชาติ และวันศุกร์รายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ มิ.ย. คาด 189,000 & พ.ค. 272,000 ราย, อัตราว่างงานสหรัฐ มิ.ค. คาดทรงตัวที่ 4%
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลงจากแรงชายกลุ่มประกันภัย, รถยนต์ และเวชภัณฑ์ยา ส่วนรายงาน CPI ยูโรโซน มิ.ย. อยู่ที่ 2.5% & พ.ค. 2.6% YoY ตามคาดการณ์ โดย ปธ.ECB เผยเงินเฟ้อ มิ.ย.ลดลงเล็กน้อยอยู่ในระดับที่เหมาะสม ดังนั้นจึงมีโอกาส 50% ที่ ECB จะลดดอกเบี้ย 0.25% ใน ก.ย. สัปดาห์นี้วันพฤหัสติดตามผลการเลือกตั้งอังกฤษ โดยโพลชี้พรรคแรงงานมีคะแนนนำ และวันอาทิตย์ การเลือกรอบที่ 2 ของฝรั่งเศส
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ส่วนใหญ่ปิดทรงตัว ระหว่างรอตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐที่จะรายงานในช่วงค่ำวันศุกร์นี้ ขณะที่ดัชนีนิเกอิวานนี้ +1.12% ยืนเหนือระดับ 40,000 จุด ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มส่งออกที่ได้ปัจจัยหนุนจากเงินเยนอ่อนค่าอยู่ที่ 161.57 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
- SET วานนี้ปิด -0.83% ปริมาณการซื้อขาย 3.8 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 2,820 ลบ. สถาบันซื้อ 1,469 ลบ พอร์ตโบรกขาย 478 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1,829 ลบ. โดยดัชนีถูกดันจากแรงขายกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, โรงไฟฟ้า หลัง US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.43% ส่วน AOT ก็ปรับลดลง -1.76% หลัง ครม.อนุมัติให้ยกเลิกร้านค้า Duty Fee ขาเข้าในสนามบิน 5 แห่งของ AOT ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์คาดจะกระทบต่อรายได้ราว 2 % ขณะที่กลุ่มไฟแนนท์ -1.8% หลัง SGC ประกาศเพิ่มทุน 5.2 พัน ลบ. ซึ่งต้องรอการตัดสินใจเพิ่มทุนของกลุ่มพันธมิตรธุรกิจ เช่น BTS ด้วย ส่วนประเด็นการเมืองวันนี้ ศาล รธน.นัดฟังคำสั่งกรณียุบพรรคก้าวไกล และนัดตรวจหลักฐานพยานอีกครั้งในวันที่ 9 ก.ค. ซึ่งคาดจะมีนัดไต่สวนพยาน ดังนั้นผลของวินิจฉัยคดีนี้อาจต้องใช้ระยะเวลาอีก 1 – 2 เดือน สัปดาห์นี้วันศุกร์ติดตาม CPI ไทย มิ.ย. คาดที่ 1.1% YoY และสัปดาห์หน้าจะเริ่มการรายงานกำไรของกลุ่มธนาคาร Q2/67 ซึ่ง Consensus คาดหดตัวเล็กน้อย QoQ, YoY
Daily Strategy
- ประเมินดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,280 – 1,300 จุด คาดได้แรงหนุนจากกลุ่มอิเล็ก ฯ จากคาดการณ์เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยใน ก.ย. นี้ แนะนำซื้อทยอยซื้อกลุ่มอาหาร & เครื่องดื่ม เช่น CPF,GFPT,CBG คาดฟื้นตัวตามอุปสงค์ใน & ต่างประเทศ/ กลุ่มไอซีที TRUE,ADVANC,SYNEX,COM7 จากกระแส AI และการลงทุน Data Center และเก็งกำไรกลุ่มอิเล็ก ฯ DELTA, CCET คาดฟื้นตัวตามกลุ่มเทคฯ ในตลาดเอเชียเหนือ
- OSP* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 27.00 บาท) แนวโน้มกำไรในช่วง 2Q67 น่าจะยังดีต่อเนื่อง YoY จากอัตรากำไรทีดีขึ้น ส่วน QoQ อาจจะไม่ได้ชะลอลงอย่างที่คาดแม้ผ่าน peak season ของเมียนมาในช่วง 1Q67 แต่จะได้รับการชดเชยจากยอดขายในประเทศที่เติบโตได้ดีเพราะอากาศร้อน ขณะที่ต้นทุนการผลิตยังคงปรับลดลงต่อจากการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ตลาดคาดการณ์กำไรปี 67-68 อยู่ที่ 78 พันล้านบาท +15%YoY และ 3.04 พันล้านบาท +10%YoY
TRUE (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย 9.15 บาท) กำไรสุทธิ 1Q67 แม้ออกมาขาดทุนแต่หลักๆมาจากรายการพิเศษ ขณะที่ Operation ปกติดีขึ้นอย่างมีนัยยะ ส่วนแนวโน้ม 2Q67 คาดสามารถกลับมามีกำไรได้ (จากขาดทุนใน 1Q67 และ 2Q66) ทั้งนี้ในส่วนของ TRUE ทางฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์กำไรปี 67 ที่ 923 ลบ. พลิกกำไรจากขาดทุนในปีก่อน ยังประเมินการดำเนินงานทะยอยดีขึ้นต่อเนื่อง ได้ประโยชน์จาก 1.ฐานลูกค้าจาก DTAC 2. Blended ARPU ที่สูงขึ้นจาก User ที่ migrate package มาเป็น 5G และ 3.ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่มีโอกาสลดลงจากการแข่งขันที่ผ่อนคลายขึ้น
Daily Key Factors
Oil Update(-) WTI ส.ค. -$0.57 อยู่ที่ $82.81 / บาร์เรล, Brent ส.ค. -$0.36 อยู่ที่ $86.24/บาร์เรล หลังเฮอริเคนเบริลลดระดับความรุนแรงลงก่อนจะเข้าอ่าวเม็กซิโก ซึ่งคาดจะไม่กระทบต่อการผลิตน้ำมัน
Gold Update(-) Comex Gold ส.ค.-$5.50 อยู่ที่ $2,333.40/ออนซ์ รับข่าวมองมุมของเจอโรม พาวเวลที่ยังรอยืนยันว่าเงินเฟ้อสหรัฐลดลงอย่างถาวร และยังรอตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐในวันศุกร์นี้
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP ขายสุทธิ -52.04 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -76.55 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +29.78 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -5.27 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 36.84 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.43 %
(+) ดัชนี BDI วานนี้ +21 จุด อยู่ที่ 2,179
(-) BitCoinเช้านี้ -1.35% อยู่ที่ 62,050 ดอลลาร์สหรัฐ
(0)เช้านี้ติดตาม PMI ภาคบริการจีน มิ.ย. คาด 53.4 & พ.ค. 54.0
Economic Calendar
ในประเทศ
สัปดาห์ที1 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย
ต่างประเทศ
01 ก.ค. US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (มิ.ย.)
02 ก.ค. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (มิ.ย.)
US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ
US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs ( พ.ค.)
03 ก.ค. US วันชาติ - ปิดทำการก่อนกำหนด ณ เวลา 13:00
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP) (มิ.ย.)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (มิ.ย.)
04 ก.ค. US วันชาติ
US รายงานการประชุม FOMC
05 ก.ค. US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) (มิ.ย.)
US อัตราการว่างงาน (มิ.ย.)
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*
(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*
(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio June 2024: GFPT*, SAPPE*, ITC*, BTG*, KLINIQ
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th