Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

597

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 27 มิ.ย.67 ปิด -9.69 จุด อยู่ที่ 1,309.46 จุด มูลค่าการซื้อขาย 34,140 ลบ.ต่างชาติขาย 2,385 ลบ.สถาบันขาย 744 ลบ.รายย่อยซื้อ 3,343 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิรวม 575 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น BH,CPALL,EA,MINT,AS และมียอดขายสุทธิ AOT,BANPU,SCC,BCP,CPF มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 4,510 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TPIPL-R,KTC-R,TLI-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 9,481 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 81,800 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 4,222 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.09%, S&P500 +0.09%, Nasdaq +0.30% ได้แรงหนุนจากกลุ่มอสังหา +0.93%,สินค้าฟุ่มเฟือย +0.90% ขณะที่กลุ่มสินค้าอุปโภค -0.50% และวัสดุ -0.32% ส่วนตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐ พ.ค. +0.1% & เม.ย. +0.2% MoM และผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 6,000 ราย อยู่ที่ 233,000 ราย ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.43% จากแรงขายกลุ่มค้าปลีก -1.9% หลัง H&M -12.9% จากคาดการณ์ยอดขาย มิ.ย. ลดลง และกลุ่มทรัพยากรพื้นฐาน -0.9%

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มอสังหาฯ, สินค้าฟุ่มเฟือย หลังยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน พ.ค.ชะลอตัว และ US GDP Q1/67 ครั้งที่ 3 คาด +1.4% & Q4/66 +3.4% QoQ บ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัว ส่งผลให้นักลงทุนคาดเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ขณะที่เช้านี้ติดตามการดีเบทเลือกตั้ง ปธ.สหรัฐระหว่างไบเดน & ทรัมป์ ในประเด็นเศรษฐกิจสหรัฐ, การเมืองต่างประเทศ ที่มีผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ส่วนค่ำวันนี้ติดตาม US Core PCE พ.ค. คาด 6% & เม.ย. 2.8% YoY โดย CME Fed Watch ชี้โอกาส 57.9% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ใน ก.ย. และ 43.4% คาดจะลดอีก 0.25% ใน ธ.ค.    
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลงนำโดย CAC-40 ฝรั่งเศส -1.03% หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเยอรมันอายุ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 2.45% สูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ บ่งชี้ความกังวลต่อผลการเลือกรัฐสภาฝรั่งเศสรอบแรกในวันที่ 30 มิ.ย. โดยพรรคเนชั่นแนล แรลลีที่เป็นฝ่ายขวาจัดมีคะแนนนำ ซึ่งอาจส่งผลการใช้งบประมาณรายจ่ายเพิ่มขึ้น และความไม่แน่นอนต่อการสนับสนุนยูเครน ค่ำวันนี้ติดตาม GDP อังกฤษ Q1/67 คาด +0.6% & Q4/66 -0.3% QoQ และ CPI ฝรั่งเศส มิ.ย. คาด 2.5% & พ.ค. 2.6% YoY, CPI สเปน มิ.ย. คาด 3.4% & พ.ค. 3.8% YoY    
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.90% หลังกำไรภาคอุต ฯ พ.ค. ชะลอตัวอยู่ที่ 3.4% & เม.ย. 4.3% YTD ส่วนดัชนีนิเกอิ -0.82% ถูกแรงขายหลังค่าเงินเยนอ่อนค่า 160.45 เยน/ดอลลาร์ อ่อนค่ามากสุดในรอบ 38 ปี ส่งผลให้ BOJ อาจเข้าแทรกแซง และอาจปรับใช้นโยบายการเงินตึงตัวขึ้นในการประชุม BOJ ก.ค.
  • SET วานนี้ -0.73% ปริมาณการซื้อขาย 3.4 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 2,385 ลบ. สถาบันขาย 744 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 213 ลบ. และรายย่อยซื้อ 3,343 ลบ. จากแรงขายกลุ่มอิเล็ก ฯ ที่ปรับลดลงตาม Nasdaq และกลุ่มพลังงานปรับลดลง นำโดย EA -12.8% จากความกังวลต่อ NEX หากเพิ่มทุนไม่สำเร็จ อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ทางการค้าคืนให้กับ EA ด้วย รวมถึง EA จะต้องใส่เงินเพิ่มทุนใน NEX อีก 2.6 พัน ลบ. ส่วนกลุ่มธนาคารก็ปรับลดลง โดยอยู่ระหว่างรอรายงานกำไร Q2/67 ในช่วงกลาง ก.ค. ซึ่ง Consensus คาดกำไรจะทรงตัว QoQ, YoY โดยภาพรวมดัชนี SET ยังถูกกดดันจากค่าเงินบาทอ่อนค่า และอยู่ในช่วงหมดอายุสัญญา S50M24 ส่งผลให้ตลาดผันผวนสูงจากการ Roll Over สัญญา กอปรยังไร้ปัจจัยบวกใหม่เข้าหนุน และรอตัวเลข US Core PCE พ.ค. ในช่วงค่ำวันนี้ เพื่อประเมินโอกาสการลดดอกเบี้ยของเฟด                      

Daily Strategy

  • วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,300 – 1,305 แนวต้าน 1,315 – 1,320 ประเมินดัชนีทรงตัวระหว่างรอตัวเลข US PCE พ.ค.ในช่วงค่ำวันนี้ แนะนำทยอยซื้อกลุ่ม รพ., อาหาร เช่น BH,BDMS,EKH,CPF,ITC ซึ่งเป็นกลุ่มปลอดภัย / เก็งกำไร RCL, SINO, WICE, PSL ตามค่าระวางคอนเทนเนอร์ +4% WoW และ BDI ที่ปรับขึ้น
  • BBGI* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 7.45 บาท) ปัจจัยหนุนการเติบโตในปี 67-68 จะมาจาก 1) อัตราการใช้กำลังการผลิต B100 ที่เพิ่มขึ้นหลังจาก BCP ควบรวม ESSO ทำให้มีความต้องการใช้จากโรงกลั่นบางจากศรีราชา (BSRC) 2) แนวโน้มราคา B100 และ ethanol โดยเฉลี่ยที่สูงกว่าปีก่อน 3) โรงงาน SAF (ถือหุ้น 20%) กำลังการผลิต 1 ล้านลิตรต่อวัน จะเสร็จต้นปีหน้า ช่วยสร้างกำไรทางฝั่งธุรกิจ Biotechnology ซึ่งเราคาดว่า demand ของ SAF จะทยอยเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนข้อบังคับของอุตสาหกรรมการบิน
  • ADVANC (ซื้อสะสม / ราคาเป้าหมายปี67 257.00 บาท) กำไรสุทธิงวด 1Q67 +QoQ, +YoY นอกจากจะได้ปัจจัยหนุนทางรายได้ตามฤดูกาลและการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวแล้ว ยังมีรายได้ของTTTBB เข้ามาเสริม ขณะที่ฝั่งค่าใช้จ่ายสามารถควบคุมได้ดีโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายการตลาดที่ลดลงอย่างมีนัยยะ ทั้งนี้ สำหรับ 2Q67 เบื้องต้น เราคาดกำไรทรงตัวลบ QoQ ตามฤดูกาล ส่วน YoY ยังเป็นบวกจาก 1.รายได้ฝั่งธุรกิจ Fixed Broadband ที่ยังมีโมเมนตัมที่ดี 2.Blended ARPU ที่สูงขึ้นจาก User ที่ migrate package มาเป็น 5G 3.การแข่งขันที่ลดลง ปัจจุบัน ยังคาดกำไรสุทธิปี67 ที่ 31,463 ลบ. +14%YoY

 

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI ส.ค. +$0.84 อยู่ที่ $81.74 / บาร์เรล, Brent ส.ค. +$1.14 อยู่ที่ $86.39/บาร์เรล ราคาน้ำมันได้แรงหนุนปัจจัยเสี่ยงสงครามในตะวันออกกลาง และความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับชาติยุโรปเป็นพันธมิตรกับสหรัฐ

 

Gold Update(+) Comex Gold ส.ค.+$23.40 อยู่ที่ $2,336.60/ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.14% อยู่ที่ 105.906 และ US Bond Yield 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.30%   

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -393.93 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -64.73 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -327.56 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -1.64 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 36.86 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.30 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +67 จุด อยู่ที่ 2,031

(+) BitCoinเช้านี้ +1.33% อยู่ที่ 61,780.7 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

21 มิ.ย.     กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย

25 มิ.ย.     ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์

26 มิ.ย.     รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ฉบับย่อ

28 มิ.ย.     ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

สัปดาห์ที5  สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม 

                สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนี

ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

 

ต่างประเทศ

25 มิ.ย.     US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (มิ.ย.)

26 มิ.ย.     US ยอดขายบ้านใหม่ ( พ.ค.)

27 มิ.ย.     US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

                US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

                US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 1)

28 มิ.ย.     US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล PCE Price Index ( พ.ค.)

US รายงานนโยบายการเงินของเฟด

               

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย 

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL* 

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE* 

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH* 

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR* 

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC* 

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio June 2024: GFPT*, SAPPE*, ITC*, BTG*, KLINIQ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้