ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook

สรุปภาพตลาดวานนี้
วานนี้ดัชนีดิ่งเหวก่อน พร้อม Panic Sell หุ้นกลาง-เล็ก ก่อนจะกลับมาดีดกลับช่วงท้าย โดยหุ้นอิเล็กทรอนิกส์ และแพ็คเกจจิ้ง เป็นกลุ่มที่บวกดัน Momentum ตลาดไม่ให้หลุดแนวรับตลอดทั้งวัน ก่อนท้ายๆ จะมีกลุ่มใหญ่อื่นๆ ที่ลบน้อยลง และกลับมาบวกได้ เช่น ขนส่งฯ โรงไฟฟ้า ท่องเที่ยว พลังงาน อย่างไรก็ตามท หุ้น SMID cap ส่วนใหญ่ก็ยังปิดลบ ที่โดนหนักๆ เช่น SABUY SBNEXT AS YGG และกลุ่มอื่นๆ ที่ลบกระจายตัว EA JMART SFLEX SNNP เป็นต้น

แนวโน้มตลาดวันนี้
ปีนขึ้นจากหลุมต่อ...
ต่างชาติเดินหน้าขายทุบหุ้นใหญ่ต่อเนื่อง ส่วนหุ้นกลางเล็ก เจอมรสุม-เมื่อความกลัวครอบงำ จากความกังวลต่อการขายหุ้นหลักประกัน หรือ Force sell หุ้นบางตัวว่าจะลามไปยังหุ้นตัวอื่นๆ ทำให้นักลงทุนบางส่วนตัดสินใจเทขายหุ้นอื่นเพื่อหนีตาย
แต่เรายังคงยืนยันว่า ควรดูที่พื้นฐานกำไรของหุ้นหลักประกัน ด้วยว่า มีเหตุผลให้ขายตามหรือไม่ เพราะในหลายกรณี ตัวหุ้นที่นำไปวางเป็นหลักประกันนั้นไม่ได้มีปัญหาด้านพื้นฐาน เพียงแต่อาจมีความเชื่อมโยงกับราคาหุ้นอื่นในตลาดที่มีการปรับตัวลงแรง (ซึ่งหากเป็นกรณีนี้ การขายหุ้นอื่นออกไปก็น่าจะจบปัญหา หรือระหว่างทางที่ผ่านมาอาจมีการวางหลักประกันเพิ่มไปแล้วก็ได้) สุดท้ายจะไม่กระทบหุ้นพื้นฐานดีที่ถูกนำไปวางเป็นหลักประกัน...
จากเหตุการณ์ขายหนีตายที่เกิดขึ้นกับหุ้นไทยเมื่อวาน กลยุทธ์วันนี้ จึงยังขออยู่ในโหมดระวังตัว และ“เฝ้าหุ้นพื้นฐานตัวเดิมที่เคยแนะนำไปก่อนหน้า โดยยังไม่รีบเพิ่มหุ้นเพื่อ การเก็งกำไรระยะสั้น”

กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์แนะนำ เลือกหุ้นเล่นเป็นรายตัว เริ่มโฟกัสไปข้างหน้าหลังเห็นงบทั้งหมดในสัปดาห์นี้ เน้นไปที่แนวโน้มผลการดำเนินงานที่จะมีโอกาสถูกปรับเพิ่มประมาณการณ์ หรือ มองเห็นปัจจัยหนุนชัดเจนที่จะเข้ามาเกื้อหนุนต่อผลการดำเนินงานหลังจากนี้

วิเคราะห์ทางเทคนิค
SET round 2 ระฆังเริ่มยก 2 ! ฟื้นตัวปิดสวย ปิด high ได้สำเร็จ..(DELTA ดันดัชนี +7.5 จุด) จับตาตัวเลขมหัศจรรย์ Fibonacci retracement 38.2% บ่งชี้โซนรับ 1,280 จุด ได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ SET ลงปิด gap ที่เคยทำไว้เมื่อปี covid 2020 ส่งผลให้แนวรับโซนนี้ถือว่ามีนัยสำคัญ....ตามแผน ขณะที่โมเมนตัม RSI เข้าสู่เขตแดน oversold & divergence (เตือนสัญญาณฟื้นตัว) และล่าสุดเกิดภาพ “Hammer” ดึงกลับมาปิดสวย ปิด high ส่งผลให้แนวโน้ม SET มีลุ้นฟื้นตัวต่อเนื่อง....

What to watch
อัปเดทการเมือง สรุป Timeline การเมืองไทย:
1) เมื่อวาน อดีตนายกฯ ทักษิณ : ศาลรับฟ้อง แต่ได้ประกันตัว ขอสู้คดีต่อในชั้นศาล
2) พ.ร.ป. เลือกตั้ง สว. : ไม่ขัด รธน. = เลือกตั้ง สว. ไปต่อ (ระดับชาติ 26 มิ.ย. 67)
3) ก้าวไกล: นัดพิจารณา 3 ก.ค. ให้คู่กรณีเข้าตรวจพยานหลักฐาน 9 ก.ค.
4) นายกฯ เศรษฐา: นัดพิจารณาครั้งต่อไป 10 ก.ค.
FTSE Rebalance มีผล 24 มิ.ย.เป็นต้นไป: หุ้นเข้า Large Cap BH / ส่วน Mid Cap เข้า ได้แก่ BJC BTSGIF ICHI
เริ่มใช้มาตรการ Uptick Short sell ตามกำหนดเดิม (1 ก.ค.เป็นต้นไป)
ประกาศแล้ว หุ้นเข้า SET50 BJC TIDLOR BCP ITC หุ้นออก SAWAD COM7 KCE BANPU

หุ้นแนะนำวันนี้
GULF ตามที่เราออกรายงานพื้นฐาน Idea call ไปก่อนหน้านี้ คาดเป็นหุ้นที่จะได้ประโยชน์จาก PDP ใหม่มากกว่ากลุ่ม (S 38 R 40 SL 37)

รายงานพื้นฐานวันนี้

Technology Sector
ประเด็นสำคัญจากงาน The Hitchhiker’s Guide to Thailand’s digital galaxy
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเรามีการจัดงาน The Hitchhiker’s Guide to Thailand’s digital galaxy สำหรับกลุ่มเทคโนโลยีในธีม Virtual Banking และ AI ซึ่งโดยรวมคาดจะเห็นการลงทุนด้าน IT อย่างมากจากทั้งผู้เล่นเดิมที่ยกระดับ IT และผู้เล่นใหม่ที่จะยื่นขอใบอนุญาต Virtual bank โดยในช่วง 1H25 น่าจะเป็นช่วงของการลงทุนในระบบ Core banking จากผู้เล่นระดับโลก และหลังจากนั้นในช่วง 2H25 จะเริ่มมีผู้เล่นไทยที่ได้ประโยชน์ทั้งในการลงทุนด้าน Infrastructure, Cyber Security และ API integration
นอกจากนี้ปัจจัยสำคัญน่าจะเป็ฯการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ Alternative data ผสานกับ Foundation data ในการออกสินค้า/บริการ รวมถึงบริหารความเสี่ยงบน Concept "Open banking" และมีโอกาสขยายไปถึง Banking as a Service (BaaS) ในอนาคต

TQM (Visit Note)
ทีคิวเอ็ม อัลฟา
รุกธุรกิจประกันภัย non-motor มากขึ้น
เรามีมุมมองเป็นกลางต่อกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2024 ของ TQM ซึ่งตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 5-10% YoY ในปี 2024-25 ผ่านกลยุทธ์หลักๆ ดังนี้ 1) เพิ่มพันธมิตร เพื่อช่วยส่งเสริมการขายประกันภัยมากขึ้น 2) เปลี่ยนคู่แข่ง (โบรกเกอร์ประกันภัย) ให้เป็นคู่ค้า 3) นำเทคโนโลยีมาช่วยในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น เช่น ช่วยในการโทรหาลูกค้าและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า เป็นต้น 4) นำข้อมูลของลูกค้ามาวิเคราะห์ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น 5) พัฒนาพนักงานให้มีความสามารถมากขึ้น 6) ขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ๆให้ลูกค้ามากขึ้น (Cross-selling) และ 7) การควบรวมกิจการ (M&A) โดยบริษัท ยังคาดว่าจะทำ M&A ได้ 2 ดีลในปีนี้

นอกจากนี้ บริษัทจะได้ประโยชน์จากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่สูงขึ้น เพราะเบี้ยประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า สูงกว่ารถยนต์ทั่วไปถึงราว 30% นอกจากนี้ จะเน้นเติบโตในประกันที่ไม่ใช่รถยนต์มากขึ้น (non-motor) ได้แก่ ประกันบ้าน สุขภาพและท่องเที่ยว ด้านธุรกิจสินเชื่อ(Easy lending)
Bloomberg consensus คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2024 ของ TQM ที่ 907 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% YoY จากแนวโน้มรายได้รวมเติบโต 6% YoY ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER ปี 2024 ที่ 16.4 เท่า ขณะที่คาดการณ์ EPS CAGR ปี 2024-25 อยู่ที่ 10.4% หรือคิดเป็น PEG ratio ที่ 1.6 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนที่เราศึกษาอยู่ที่ 0.8 เท่า ทั้งนี้ Bloomberg consensus คาด Dividend yield ของ TQM ที่ราว 5% ต่อปี

สรุปประเด็นจาก Quick take

Global Macro Update
การบริโภคสหรัฐเริ่มชะลอมากกว่าคาด
ยอดค้าปลีกของสหรัฐปรับตัวขึ้น +0.1% MoM ในเดือน พ.ค. ฟื้นตัวจากที่ชะลอตัว -0.2% ในเดือน เม.ย. (ตัวเลขปรับลดลง) แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ +0.2% โดยมีปัจจัยหนุนมาจากยอดขายสินค้ากีฬา (2.8%) เสื้อผ้า (0.9%) และยานยนต์ (0.8%) อย่างไรก็ตาม ยอดขายน้ำมันลดลง 2.2% และยอดขายเฟอร์นิเจอร์ลดลง 1.1% ทั้งนี้หากไม่รวมยอดขายยานยนต์และชิ้นส่วน ยอดค้าปลีกลดลง 0.1%

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน