Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

644

 


ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook

แนวโน้มสินทรัพย์ต่างประเทศ
อัปเดตมุมมองทองคำ: จังหวะนี้ซื้อเพิ่มหรือขายดี
ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่เราแนะนำให้มีน้ำหนักการลงทุนในสัดส่วนที่สูงมาตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากความขัดแย้งที่มากขึ้นของมหาอำนาจจีน-สหรัฐนับตั้งแต่ปี 2018 ทำให้เห็นสัญญาณการปรับเปลี่ยนนโยบายการถือครองสินทรัพย์ในทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนไปยังสินทรัพย์อื่น ๆ แทนดอลลาร์สหรัฐมากขึ้น โดยปักกิ่งได้เพิ่มสัดส่วนการถือทองคำในทุนสำรองจาก 2.4% ในเดือนธันวาคม 2018 เป็น 4.9% ในเดือนเมษายน 2024 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดในไตรมาส 3 ปี 2018 กว่า 100% ทำให้จีนเริ่มชะลอการซื้อลงจากเฉลี่ยไตรมาสละ 52.4 ตัน เหลือ 1.9 ตันในเดือนเมษายน และไม่ซื้อเลยในเดือนพฤษภาคม ซึ่งจากการศึกษาพฤติกรรมในปี 2015-2022 พบว่าหากธนาคารกลางจีนหยุดซื้อทองคำก็จะเป็นไปอย่างต่อเนื่องราว 7-12 เดือน และครั้งนี้ก็น่าจะมีภาพคล้ายกัน เนื่องจากราคาทองคำยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา แรงซื้อจากธนาคารกลางจีนนับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในหลายช่วงเวลา แม้ว่าจะถูกกดดันจาก Dollar Index และ US Bond Yield ก็ตาม ซึ่งสวนทางกับความสัมพันธ์เชิงลบในสมการถดถอยและความเข้าใจของนักลงทุน
จากสัญญาณการชะลอการซื้อทองคำของธนาคารกลางจีนที่เพิ่งเกิดขึ้นในเดือนที่ผ่านมา จึงทำให้แรงสนับสนุนในส่วนนี้อาจลดลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 นอกจากนี้เรามองว่าทองคำยังอาจเผชิญกับความเสี่ยงในระยะสั้นจากสาเหตุดังต่อไปนี้:
1 การปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่นของราคาตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2022 ได้ทำให้เกิดการเข้าซื้อทองคำผ่านตลาด OTC (Over-the-Counter) สูงขึ้นในปี 2023 หนุนให้ดีมานด์รวมเพิ่มขึ้นราว 4.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งช่วยให้ความต้องการทองคำทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็นสถิติใหม่ ในขณะที่ตลาดอาจเข้าใจผิดว่าดีมานด์อ่อนแอ เพราะติดตามตัวเลขความต้องการทองคำที่ไม่รวมการซื้อขายในตลาด OTC แล้วเห็นอัตราลดลง 5.3% YoY
2 นอกจากดีมานด์ที่สูงขึ้นในตลาด OTC แล้ว ยังมีการเก็งกำไรในตลาดฟิวเจอร์สสูงขึ้นมากในช่วงสี่เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ net long position ตามข้อมูลของ CFTC ล่าสุดอยู่ที่ 180,760 สัญญา ซึ่งเป็นระดับใกล้เคียงกับปี 2008 ก่อนที่ราคาทองคำจะเข้าสู่วงจรการปรับฐานและมี drawdown หลังจากนั้นราว -27%
3 Momentum Tracker ของทองคำล่าสุดตึงตัวมาก และราคาก็ใกล้หลุดแนวรับเชิงจิตวิทยาที่โซน 2,290-2,300 เหรียญ โดยหากมีการปรับตัวลงต่ำกว่าตำแหน่งนี้ ก็อาจจะทำให้เกิดแรงขายในตลาด OTC รวมถึงการปิดสถานะจากการ unwind position ในตลาดฟิวเจอร์ส ซึ่งจะสร้างแรงกดดันด้านลบต่อราคาทองคำให้ทวีความรุนแรงขึ้น
สัปดาห์นี้เราจึงแนะนำให้ปรับน้ำหนักการลงทุนทองคำในพอร์ต Asset Allocation ลง เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการเข้าสู่วงจรปรับฐาน (major correction) ในช่วงหลายเดือนข้างหน้า โดยเราจะหาจังหวะซื้อคืนและอัพเดตมุมมองให้ในภายหลังจากที่ความเสี่ยงของ market drawdown ได้ลดลงแล้ว
(รายงานฉบับเต็ม คลิกที่นี่)

สรุปภาพตลาดวานนี้
ดัชนีเด้งแล้วย่อมาปิดลบ แรงกดดันมาจากหุ้นใหญ่เช่นเคย PTTEP AOT CPALL CPAXT CPN INTUCH TRUE SCB KBANK BBL แต่จุดสังเกตุสำคัญ พบว่าหุ้นกลาง-เล็กที่ดิ่งไปก่อนหน้า ก็มีแรงซื้อเด้งกลับแรงหลายกลุ่ม เช่น JMART-JMT-SGC-SINGER EA-NEX-BYD SABUY WARRIX เป็นต้น

แนวโน้มตลาดวันนี้
HODL…
SET เลือกแล้ว! ดัชนีฯในสัปดาห์นี้ หลุด 1,320 จุด (กรณี 2) และคงคาดจะเกิดแรงขายต่อไปอีกสักระยะ ส่วนแรงซื้อคืนคาดจะเริ่มเห็นบริเวณ โซน 1,300 จุด หรือต่ำกว่าเล็กน้อย และเมื่อแรงขายเริ่มนิ่งคาด จะผลักดันภาพรวมตลาดให้กลับมาค่อยๆไต่ระดับ จากการเล่นโซนล่างขึ้นมาอีกครึ้ง
กลยุทธ์ให้น้ำหนักไปกับปัจจัย 1) หุ้นรายตัว และปัจจัยความเชื่อมั่นของนักลงทุนในประเทศ ที่ต้องอาศัย “Action” จากหน่วยงานที่กำกับดูแลการซื้อขาย ไม่ว่าจะเป็น มาตรการกำกับความเสี่ยงของ บจ.รายตัว, การเดินสายโรดโชว์โดยตรงให้กับ นลท.ต่างประเทศ, ออกกองทุนพยุงหุ้นฯ
2) ทิศทางกำไรสุทธิ บจ. (หุ้นหลายตัวเผชิญมรสุม การตั้งด้อยค่าจากเงินลงทุน ตามมูลค่าหุ้นที่ตก, ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ) 3) สุดท้ายเสถียรภาพของรัฐบาล จากกระแสข่าวที่ตีประเด็นการเมืองให้กลับมาร้อนแรงสร้างความกังวลให้กับตลาดในช่วงนี้

กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์ แนะนำ เลือกหุ้นเล่นเป็นรายตัว เริ่มโฟกัสไปข้างหน้าหลังเห็นงบทั้งหมดในสัปดาห์นี้ เน้นไปที่แนวโน้มผลการดำเนินงานที่จะมีโอกาสถูกปรับเพิ่มประมาณการณ์ หรือ มองเห็นปัจจัยหนุนชัดเจนที่จะเข้ามาเกื้อหนุนต่อผลการดำเนินงานหลังจากนี้ เช่น ฤดูกาลท่องเที่ยวของฝั่งตะวันตก (โอลิมปิกฝรั่งเศส, บอลยูโร เยอรมัน)

วิเคราะห์ทางเทคนิค
ดัชนีซึมลงต่อเนื่อง ส่งผลให้โมเมนต้ม RSI ลงสู่ระดับเขต oversold (เต็มตัว) จับตารูปแบบ price pattern “Harami” เริ่มต่อสู้ ซื้อกลับ ส่งผลให้กราฟแท่งเทียนเมื่อวานเกิดภาพ Harami (ถ้าปิดเขียวจะสวยกว่านี้ โอกาสฟื้นตัวจะมีมากขึ้น) บ่งชี้แนวโน้มระยะสั้นมีโอกาสรีบาวด์จากการลงลึก ส่วนแนวรับระยะกลางยังคงมองที่ตำแหน่ง Fibonacci retracement 23.6% บริเวณ1,280 จุด...ตำแหน่ง.close gap ที่เคยทำไว้เมื่อปี covid 2020 ส่วนหุ้นแนะนำที่เลือกมาวิเคราะห์วันนี้ได้แก่ TFG & KCE (รายละเอียดอยู่ในหน้าถัดไป) และรีวิวหุ้นที่เคยแนะซื้อไว้ เช่น GULF & ADVANC…… ถูกทางแนะลุยต่อ!
(อ่านต่อหน้า 11)

 

What to watch
กางไทม์ไลน์การเมืองในประเทศ: อัยการนัดส่งฟ้อง ม.112 คุณทักษิณ 18 มิ.ย.นี้, ศาล รธน.นัดพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกล 12 มิย.
ไทม์ไลน์คดี ถอดถอน นายกเศรษฐา: 7 มิย.ครบกำหนดชี้แจง 12 มิ.ย.ศาลฯนัดประชุม และใช้เวลาพิจารณาไม่น้อยกว่า 15 วัน, คาด 28 มิ.ย.ศาลนัดวินิจฉัยได้เร็วสุด
การประชุมธนาคารกลางสำคัญตลอดสัปดาห์นี้: คาด ธนาคารกลางสหรัฐ, ไทย ไต้หวัน คงดอกเบี้ยนโยบาย และติดตามทิศทางนโยบายการเงินเข้มงวดของ ธนาคารกลางญี่ปุ่น
มติ ครม.เมื่อวานเห็นชอบสินเชื่อ SME ผ่านธ.ออมสิน 5000 ล้านบาท เพื่อ 3 อุตฯ ได้แก่ ท่องเที่ยว, การแพทย์สุขภาพ และ อาหาร / เห็นชอบปรับขึ้นค่า รฟฟ.ใต้ดิน (สีน้ำเงิน) เป็น 17-45 บาท เริ่ม 3กค. ตามสัญญาสัมปทาน / นายกฯเร่ง BOI ให้ผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน-สะอาด ลงทุนโดยตรง เพื่อหนุนให้เกิดการลงทุน ดาต้าเซ็นเตอร์โดยเร็ว
คาดหุ้นเข้า SET50 BJC TIDLOR BCP ITC หุ้นออก SAWAD COM7 KCE BANPU

หุ้นแนะนำวันนี้
KTBย่อซื้อ เล่นรับแนวโน้มการเลื่อนขึ้นดอกเบี้ยของ กนง. และงานภาครัฐฯ(S17.5 R18 SL17)


Tactical port
ถอด WHA AMATA AWC เพิ่ม CRC AOT KTB

 

 

รายงานพื้นฐานวันนี้

Asset Allocation
ปรับน้ำหนักพอร์ตการลงทุน
เราแนะนำให้ลดน้ำหนักการลงทุนในทองคำลงเพื่อลดความเสี่ยงจากโอกาสการเข้าสู่วงจรปรับฐาน เนื่องจากราคาได้ปรับขึ้นมา 100% แล้วนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 2018 ซึ่งเป็นระดับที่มีอาจถูกขายทำกำไรคล้ายกับวงจรกระทิงครั้งก่อนที่เกิดขึ้นในปี 2009-2011 นอกจากนั้นในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา เทรดเดอร์ได้เพิ่มสถานะ Long ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของทองคำอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้อัตราส่วน Managed Money Long-to-short ของสัญญาฟิวเจอร์สตามข้อมูลของ CFTC ได้เพิ่มขึ้นจาก 1.7 เท่าในกลางเดือน ก.พ. 2024 เป็น 11.9 เท่าในปัจจุบัน ซึ่งเป็นระดับที่สูงมาก ส่งผลให้มีความเสี่ยงสูงขึ้นจากโอกาสการถูกปิดสถานะ และจะสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ

CPAXT
ซีพี แอ็กซ์ตร้าแผนขยายส่วนแบ่งการตลาด
เปิด 3 เหตุผล ทำไมยังชอบ CPAXT และการเติบโตที่โดดเด่นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
1) การขยายส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) จากทั้งแบรนด์ Makro และ Lotus’s ที่จะเก็บเกี่ยวผลตอบแทนจากการลงทุนไปก่อนหน้าทั้งการ Upgrade ช้องทางขายแบบ Omnichannel ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ทั้งคู่มี SSSG สูงกว่าคู่แข่งในปัจจุบัน และ CPAXT จะมองว่าตนเองมีช่องทางขายแกร่งแบบ Walmart ที่เป็นคู่แข่ง Amazon ใน US ได้
2) การบริหารต้นทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังจาก Omnichannel ที่ลงทุนไป Break-Even และประโยชน์จากการรวมกิจการส่งผลบวก ทำให้คาดกำไรเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 10% ได้ในช่วง 1-3 ปีนี้ (เราคาดเติบโต 16% CAGR ปี 2024-26) เพราะค่าใช้จ่ายจะเพิ่มน้อยกว่ารายได้ตั้งแต่ 2H24 เป็นต้นไป และผลของการรวมกิจการจะประหยัดค่าใช้จ่าย 5 พันล้านบาท ใน 2-3 ปีข้างหน้า
3) ราคาหุ้นย่อลงมาเป็นโอกาสซื้อ โดยช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาลงมาแล้ว 10% สะท้อนความกังวลทางการเมืองตามภาพตลาดไปแล้ว แต่ในแง่ผลประกอบการยังแข็งแกร่งไม่เปลี่ยน โดยเฉพาะช่วงที่อุปสงค์จะดูไม่แน่นอน แต่กลุ่มสินค้าจำเป็น จะเป็นกลุ่มที่ดูดีกว่ากลุ่มอื่นๆ
Fundamental View: เราแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 36 บาท โดย Top Pick กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค เรายังชอง CPALL และ CPAXT มากที่สุด

TTW
(Visit Note)
ทีทีดับบลิวหุ้นเน้นปันผล พร้อมแนวโน้มที่แกร่งขึ้น
สารฯ จากงาน Opportunity Day ต้นสัปดาห์ เรามองว่าเป็นเชิงบวกเล็กน้อยต่อ TTW เพราะเห็น Momentum การขายน้ำปะปาที่มีโอกาสสูงกว่าเป้าหมายทั้งปีราว 3-5% จาก PTW หลังเปลี่ยนสัญญาใหม่เป็น O&M (จาก BOOT) แล้วราคาขายลดลง ทำให้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น (ส่วนของกำไรพิสูจน์มาแล้ว 2 ไตรมาสว่าไม่ได้เปลี่ยนแปลง เพราะต้นทุนก็ลง)

โดยภาพรวมยอดขายน้ำเดือน เม.ย.-พ.ค. คาดว่าจะเห็นการเพิ่มขึ้นอีกราว 8% QoQ หนุนโดย PTW ที่ Utilization rate ปรับขึ้นสูงต่อเนื่องเฉลี่ย 90% (จาก 84% ใน 1Q24) อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากค่าไฟฟ้าที่ลดลงตามค่า Ft (ค่าไฟฟ้าคิดเป็น 1 ใน 3 ของต้นทุน) ส่วน CKP ประเมินว่าผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้วใน 1Q24 และตั้งแต่กลาง พ.ค. เป็นต้นมา ฝนเริ่มกลับมาตกสู่ภาวะปกติ พ้นจาก El Nino ทำให้ผลประกอบการขายโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำจะกลับมาดีขึ้น
Our view: นอกเหนือจากการเก็งปันผล 0.60 บาท/ปี คิดเป็น Div. Yields ราวๆ 6.7% บนราคาปัจจุบันได้อยู่แล้ว ยังมองว่าเป็นหุ้นที่ Downside risk จากการดำเนินงานปัจจุบันต่ำลงมากแล้ว ทำให้ TTW นอกเหนือจากการเป็นหุ้นปันผลสม่ำเสมอ ปัจจุบัน ยังเป็นหุ้น Defensive พักเงินได้ด้วยบนตลาดผันผวน


สรุปประเด็นจาก Quick take

BEM
ทางด่วนและ รถไฟฟ้ากรุงเทพ

ครม.เห็นชอบการปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (MRT)
View From Fundamental: ข่าวดังกล่าวน่าจะเป็น positive sentiment ต่อราคาหุ้น นอกจากนั้นโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มซึ่ง BEM เป็นผู้ชนะการประมูลคาดว่าจะมีความคืบหน้าในเร็วๆนี้น่าจะเป็นอีกปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะสั้น นอกจากนั้นเรามองเห็นโอกาสของ BEM ในการพัฒนาธุรกิจผ่านการขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในประเทศไทยอีกมาก เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” (ราคาเป้าหมาย 12.40 บาท)

PTTEP
ปตท.สำรวจและ ผลิตปิโตรเลียม
การเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนในแปลงสัมปทานใน UAE
PTTEP แจ้งข่าวการเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุน 10% ในแปลงสัมปทาน Ghasha ใน UAE
View From Fundamental: ข่าวดังกล่าวน่าจะสร้าง positive sentiment ต่อราคาหุ้น นอกจากนั้นคาดการณ์การเติบโตของกำไรหลักใน 2Q24 น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ต่อไป เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” (ราคาเป้าหมาย 212 บาท)

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ประคับประคอง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทย คงประคับ ประคอง แกว่งตัวไปมา ท่ามกลาง บริษัทจดทะเบียนไทย...

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้