AT THE OPEN (#ATO)
SET Index อยู่ในกรอบ 1320-1340
กลยุทธ์เลือกหุ้นกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ
Market Strategy
SET Index คาดแกว่งตามกรอบ 1320-1340 จุด ปัจจัยภายนอกเป็นไปในทางบวก บนความคาดหวังทิศทางดอกเบี้ยโลกผ่านจุดสูงสุดเริ่มจากการประชุม ECB วานนี้มีมติลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 0.25% มาที่ 3.75% การส่งสัญญาณถัดไปมีโอกาสปรับลดต่อ ทำให้ตลาดคาดว่า ECB จะปรับลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้เดือน ก.ย. และ ธ.ค. ซึ่งตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับขึ้นเฉลี่ย 0.4% ราคาน้ำมันดิบขึ้น 2%
สหรัฐวานนี้การรายงาน Initial Jobless Claim เพิ่มขึ้น 2.29 แสนตำแหน่งมากกว่าตลาดคาด 2.2 แสนตำแหน่ง สะท้อนภาคแรงงานที่ชะลอความร้อนแรงซึ่งจะลดแรงกดดันต่อเงินเฟ้อและการลดดอกเบี้ยสหรัฐฯ ได้ง่ายขึ้น ด้านตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้แกว่งทรงตัวเพราะให้น้ำหนักกับรายงาน NFP พ.ค. วันนี้คาดเพิ่มขึ้น 1.9 แสนตำแหน่ง
ปัจจัยในประเทศ สนพ. เตรียมเปิดรับฟังความคิดเห็นแผน PDP 2024 เริ่มวันที่ 12 มิ.ย. และคาดว่าจะสามารถประกาศใช้ภายใน ก.ย. 67 เรามองว่าในระยะสั้นเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF) แต่ยังต้องติดตามรายละเอียดต่อไป
ภายใต้ปัจจัยแวดล้อมในทางเศรษฐกิจที่มีน้ำหนักในทางบวกเชื่อว่าจะเป็นแรงหนุนต่อ SET Index แต่ความกังวลต่อประเด็นการเมืองยังเป็นปัจจัยกดดันทำให้ Fund Flow ยังไม่ไหลกลับ ส่วนประเด็นอื่นๆวันนี้ติดตามการรายงานตัวเลขส่งออกจีน เดือน พ.ค. ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวได้ 5.7%YoY ดีกว่าเดือนก่อนที่ 1.5%YoY หากออกมาตามคาดมองเป็นบวกต่อหุ้น อิงเศรษฐกิจจีน (SCGP) และรายเงินเฟ้อเดือน พ.ค. คาดขยายตัว 1.2%YoY,มากกว่าเดือนก่อนที่ 0.19%YoY ทำให้การประชุม กนง. ในสัปดาห์ยังคงดอกเบี้ยฯ ต่อไป กลยุทธ์ชอบ SPRC และ MTC
Market Summary
SET Index ปรับลง 10 จุด สวนทางตลาดหุ้นภูมิภาค ตามทิศทาง Fund Flow ไหลออก กดดันหุ้นกลุ่ม Market Cap ใหญ่ เช่่น AOT -2.4% PTT -2.3% ตามด้วย TRUE -2.3% หลังนายกฯ ประกาศถ่ายทอดสด Euro 2024 ผ่าน Free TV นอกจากนี้ยังมีแรงกดดันจากกลุ่มพลังงานต้นน้ำและปิโตรฯ ที่ปรับลง PTTEP -1% IVL -5% ส่วนกลุ่มที่ Outperform กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ DELTA +4% HANA 5.7%
ATO Daily Stock Picks
แนะนำ MTC SPRC
SPRC คาด GRM จะฟื้นตัว
เมื่อเข้าสู่ Driving Season
คาดว่าตั้งแต่ มิ.ย.เป็นต้นไป จะได้แรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันที่สูงขึ้นในช่วงฤดูขับขี่ (ปลาย พ.ค.-ก.ย.) ขณะที่สต็อกผลิตภัณฑ์ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตามฤดูกาลในภูมิภาคหลักๆ ซึ่งถือเป็นปัจจัยหนุนสำคัญให้ GRM ฟื้นตัว
เรามองว่า SPRC น่าสนใจเนื่องจากราคาหุ้นยัง laggard และได้ประโยชน์หลักจาก GRM ฟื้นตัวจากการเข้าสู่ฤดูการขับขี่ เราคาดการณ์กำไรปกติจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่าในปี 67 จาก Crude Premium ที่ลดลงและความเป็นไปได้สูงที่จะกลับมาเปิดใช้งานทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง 2 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
มุม Valuation ซื้อขายบน PER67E ที่ 6.6 ต่ำกว่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 และคาดกลับมาจ่ายปันผลปีนี้สูงถึง 7%
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 11.10 บาท
MTC ปีแห่งกำไรฟื้นตัว
เราอัปเดตข้อมูล 2Q67 กับผู้บริหาร เผยว่าความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีวันหยุดยาวในเดือน เม.ย.67 และโรงเรียนเปิดเทอมในเดือน พ.ค.67 ขณะที่เกษตรกรยังต้องการเงินสำหรับฤดูเก็บเกี่ยวพืชผลที่กำลังจะมาถึง ช่วยสินเชื่อเติบโตเร่งตัวขึ้น QoQ ใน 2Q67 ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์แนวโน้มทรงตัว
เราคาดว่า MTC จะรายงานการเติบโตของ EPS สูงสุดที่ 16% YoY ในปี 67 เนื่องจากต้นทุนด้านเครดิตที่ลดลง ส่วนประเด็นการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากธนาคาร เราไม่ค่อยกังวลมากนัก เนื่องจาก MTC เน้นไปที่วงเงินสินเชื่อที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารที่เน้นไปที่วงเงินสินเชื่อที่มากกว่า
แรงหนุนระยะสั้นเรามองไปทิ่ทิศทางดอกเบี้ยโลกที่มีแนวโน้มผ่านจุดสูงสุด Peak ไปแล้ว ซึ่งล่าสุด ECB มีการลดดอกเบี้ยฯ 0.25% ขณะที่ FED คาดว่าจะลดในเดือน ก.ย. จะช่วยให้โอกาส BOT ลดดอกเบี้ยในปีนี้เปิดกว้างขึ้น
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 52.00 บาท
KEY FACTOR
ภาพรวมตลาดหุ้นต่างประเทศยังมีโมเมนตัมเชิงบวก หลังECB ปรับลดดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย -0.25% สู่ระดับ 3.75% ซึ่งถือเป็นการเข้าสู่วงจรดอกเบี้ยขาลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี พร้อมกับปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจ 1) ปรับคาดการณ์ GDP ขึ้นจากจาก +0.6% เป็น +0.9% ในปี 2567 แต่ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2568 จาก+1.5% เป็น +1.4% 2) ปรับคาดการณ์เงินเฟ้อขึ้นเล็กน้อยจาก 2.3% เป็น 2.5% ในปี 2567 ซึ่งถือว่าสะท้อนอานิสงค์การลดดอกเบี้ยที่จะเข้ามาช่วยฟื้นเศรษฐกิจ
โดยปัจจัยที่ต้องติดตามในวันนี้ 1) การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ Consensus คาด +1.85 แสนตำแหน่ง เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก +1.75 แสนตำแหน่ง ในเดือนก่อนหน้า 2) เงินเฟ้อไทยเดือน พ.ค. Consensus คาดเร่งตัวอย่างมีนัยสำคัญจาก +0.19% เป็น +1.2% YoY ซึ่งสะท้อนภาพกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตามในระยะสั้นตลาดหุ้นไทยยังเผชิญกับแรงขายของกระแสเงินทุนต่างชาติต่อเนื่องเป็นวันที่ 11 ติดต่อกัน อีก -3.18 พันลบ. สะสม -2.23 หมื่นลบ. จึงยังเป็นจุดที่ยังคงต้องระมัดระวังและเลือกตั้งรับสะสมหุ้นที่มีปัจจัยบวกหนุน แนวโน้มกำไร 2Q67 ดี
Eyes on
7 มิ.ย. ส่งออกและนำเข้าเดือน พ.ค. ของจีน, การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ, เงินเฟ้อไทยเดือน พ.ค.
นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ