SET INDEX ดูเหนื่อย แต่ยังมีตัวเลือก
แรงขายจากนักลงทุนต่างชาติยังกดดัน SET INDEX ต่อเนื่องโดย 11 วันทำการที่ผ่านมามียอดขายสุทธิรวม 2.23 หมื่นล้านบาท ซึ่งต้องยอมรับว่าเหตุปัจจัยที่นำมาสู่การขายเกิดจากความกังวลสถานการณ์การเมือง ซึ่งหากพิจารณาจาก TIMELINE ก็ยังพบว่าในสัปดาห์หน้ายังมีหลายเหตุการณ์ที่รออยู่ อย่างไรก็ตามเรายังมองว่าปัจจัยทางการเมืองเป็นแรงกระทบที่เข้ามาในช่วงสั้นๆ เมื่อสถานการณ์ค่อยๆ คลี่คลายก็จะทำให้SETINDEX สามารถกลับตัวขึ้นมาได้ ในการกำหนดกลยุทธ์การลงทุน ยังเชื่อว่าการทยอยสะสมหุ้นที่บริเวณนี้ น่าจะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจในระยะยาว โดยใน MARKET TALK วันนี้ เราได้คัดกรองหุ้นในมุมของVALUATION ที่ถูก ไม่ว่าจะเป็น PER ต่ำ, PBV ต่ำ และหุ้นที่ให้DIVIDENDYIELD สูง เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับนักลงทุนการลดดอกเบี้ยของ ECB เป็นแรงหนุน แต่การเมืองก็เป็นแรงกดดัน ส่วนSET INDEX ที่หลุด 1330 จุด ทาง TECHNICAL ถือเป็นลบ กรอบวันนี้1320 –1340 จุด หุ้น TOP PICK เลือก BEM, CPALLและTIDLOR
ECB มาตามนัด ปรับลดดอกเบี้ย 0.25%
วานนี้ ECB มีมติปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 5 ปีจากระดับ 4.50% สู่ 4.25%ตามคาด หลังเงินเฟ้อยุโรปชะลอตัวลงอย่างมาก (+10.6% ต.ค.65 +2.6% พ.ค.67) ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของยุโรปล่าสุดอยู่ที่ 1.65% ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศพัฒาแล้ว ขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของสหรัฐฯ อยู่ที่ 2.1%ซึ่งอาจทำให้ DOLLAR ยืนแข็งค่าไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าจะเห็นสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นในการปรับลดดอกเบี้ยของ FED
อย่างไรก็ตาม การเริ่มลดดอกเบี้ยของ ECB บวกกับตลาแรงงานสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง รวมถึงเงินเฟ้อที่ทยอยปรับตัวลดลง เชื่อว่าจะเป็นการกระตุ้นให้ FED ปรับลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น โดยผลการสำรวจล่าสุดของ FED WATCH TOOL พบว่า มีโอกาสราว 56% ที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน ก.ย. 67 (เดิมคาดเดือนพ.ย.67) และครั้งที่ 2 ในเดือน ธ.ค. 67 (เดิมคาดปรับลดดอกเบี้ยแค่ 1 ครั้งในปีนี้)
สำหรับในวันนี้มีตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจที่น่าติดตามทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศ
สรุป ECB เริ่มลดดอกเบี้ยแซงหน้า FED ขณะที่ตลาแรงงานสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มอ่อนแอท่ามกลางเงินเฟ้อที่ทยอยปรับตัวลดลง เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ FED ปรับลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น ซึ่งน่าจะทำให้ DOLLAR เริ่มชะลอการแข็งค่าได้ในระยะถัดไปเดือน มิ.ย.67 การเมืองน่ากังวล กดดัน FLOW ไหลออก แต่
คาด DOWNSIDE ไม่มากนักนับจากนี้
FUND FLOW ต่างชาติไหลออกจาก SET INDEX ตั้งแต่ประเด็นการเมืองร้อนแรงขึ้นมากว่า 11 วันติดต่อกัน คิดเป็นมูลค่ารวม 2.2 หมื่นล้านบาท กดดัน SET INDEXปรับตัวลงกว่า 50 จุด หรือ 3.6% เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองยังอยู่ระดับสูงในเดือนนี้ โดยมี TIMELINE ดังนี้
▪ วันที่ 7 มิ.ย.67 : เลือกตั้งสว.'ส่อเลื่อน' กกต.ถกวันนี้
▪ วันที่ 10 มิ.ย.67 : DEADLINE นายกฯ ส่งคำชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญ
▪ วันที่12 มิ.ย.67 : ศาลรัฐธรรมนูญประชุมคดียุบพรรคก้าวไกล
▪ วันที่ 16 มิ.ย.67 : เลือกสว.ระดับจังหวัด
▪ วันที่ 18 มิ.ย.67 : ทักษิณเดินทางไปพบอัยการสูงุด คดี. ม.112
▪ วันที่ 19-21 มิ.ย.67 : สภาพิจารณาร่าง พรบ. งบปี 68
▪ วันที่26 มิ.ย.67 : เลือก สว. ระดับประเทศ
ด้วย TIMELINE ดังกล่าว อาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจในเสถียรภาพทางการเมือง และเกิดความกังวลต่อการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไปอีกระยะ จนกว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงปลายเดือน มิ.ย.67
อย่างไรก็ตามวานนี้ ตลท.ออกมาเรียกความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ/รายย่อยอีกครั้ง โดยการจะไป ROADSHOW แถบตะวันออกกลาง-ลอนดอน โดยชี้ว่าในช่วง2H67 หุ้นไทยจะฟื้นตัวได้ดี จากเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวด้วยภาคการท่องเที่ยวเป็นหลัก และการเร่งเบิกจ่ายงบปี 67(สิ้นสุด 30 ก.ย.67) ซึ่งจากข้อมูลในอดีตบ่งชี้ว่ากรรมการและผู้จัดการ ตลท. ออกมาแสดงความเชื่อมั่นต่อตลาดหุ้นไทยเมื่อใดหลังจากนั้น SET INDEX มักปรับตัวขึ้นได้ดีในช่วงสั้นเสมอ ดังรูปด้านล่าง
ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ คาดว่า หลังเดือน มิ.ย.67 SET INDEX มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากทิศทางที่ชัดเจนของการเมืองไทย และความหวังที่จะมีกองทุน LTF เข้ามาหนุนตลาดฯเพิ่มเติม ขณะที่ VALUATION ตลาดหุ้นไทยอยู่ในเกณฑ์ที่น่าสนใจทั้งใน
มุม PE/PBV/EPS GROWTH เป็นต้น แนะนำทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี ขนาดใหญ่เพื่อหวังผลกำไรระยะกลาง-ยาว อาทิ SCC PTTEP ADVANC DELTA CPALLKBANK เป็นต้น
สรุป TIMELINE การเมืองที่น่ากังวลในเดือนนี้ กดดัน FLOW ต่างชาติไหลออกหุ้นไทย 11 วันติดต่อกัน รวมมูลค่ากว่า 2.2 หมื่นล้านบาท และส่งผลให้ SET ปรับตัวลงแรง 50 จุด อย่างไรก็ตามหากประเด็นการเมืองผ่อนคลายลง อาจจะเป็นจังหวะในการหาหุ้นเข้าสะสมเพื่อหวังผลในระยะกลางถึงยาวได้ เนื่องจาก VALUATION SETINDEX ถูกกว่าตลาดหุ้นโลก แนะนำ SCC PTTEP ADVANC DELTA CPALLKBANK เป็นต้น
คัดหุ้น 3 กลุ่ม 3 มุม แนะสะสมช่วงก้าวผ่านความผันผวนทางการเมืองตลาดหุ้นไทยถูกกดดันจากประเด็นทางการเมือง ทำให้ต่างชาติขายหุ้นไทยติดต่อกัน11 วันทำการ ด้วยมูลค่าขายรวม 2.23 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ SET INDEX ลงมาอยู่ที่ 1328 จุด ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 3 ปีครึ่งและในเชิงเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในช่วง 3 ปีครึ่งที่ผ่านมา SET +- 0% ถูกตลาดหุ้นประเทศอื่นๆ ทิ้งห่างพอสมควร อาทิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น +49%, สหรัฐ(NASDAQ)+45%, อินโดนีเซีย +34%, MSCI ACWI 31% เป็นต้น
แรงกดดันทางการเมือง ส่งผลให้ SET INDEX ย่อตัวลงมาจนมี P/E 67F 14.5 เท่า,PBV 1.25 เท่า และ DIVIDEND YIELD 3.5% ดังนั้นในช่วงก้าวผ่านประเด็นทางการเมืองที่ร้อนแรงใน 7 วันทำการหลังจากนี้ แนะนำสำหรับนักลงทุนระยะกลางถึงยาวค่อยๆ ทยอยสะสม 10 หุ้นพื้นฐาน 3 กลุ่ม 3 สไตล์ ในช่วงตลาดผันผวน



Research Division
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส
เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม, CISA
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์