Thai Union Group (TU TB)
อัตรากำไรดีขึ้น แต่ยอดขายอ่อนลง
คงคำแนะนำ ถือ เราชอบ CPF มากกว่า
เราคงคำแนะนำ ถือ TU โดยปรับลดประมาณการกำไรลงเพื่อสะท้อนยอดขายที่ลดลงของธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและราคาปลาทูน่าที่ลดลง อย่างไรก็ตาม คาดว่ากำไร 2Q67 จะฟื้นตัวตามผลกระทบตามฤดูกาลและอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งไม่ต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจาก Red Lobster หุ้น TU ซื้อขายที่ P/E ปี 67 ที่ 11.9 เท่า ซึ่งมีอัพไซด์จำกัดต่อราคาเป้าหมายใหม่ที่ 15.10 บาท (อิงจาก P/E เฉลี่ย 5 ปีที่ 12 เท่า) เราชอบ CPF มากกว่า (ราคาเป้าหมาย 25.60 บาท) เนื่องจากมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากราคาหมูฟื้นตัวแรงและต้นทุนอาหารสัตว์ลดลง
ปรับลดประมาณการกำไรลงเพื่อสะท้อนยอดขายที่ชะลอตัว
เราปรับลดประมาณการกำไรปี 67/68 ลง 9%/10% เพื่อสะท้อนยอดขายที่อ่อนลง โดยยอดขายอาหารทะเลแช่แข็งมีแนวโน้มลดลง 14% YoY ในปี 67 จากปรับลดขนาดธุรกิจในสหรัฐฯ และราคาปลาทูน่าที่ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ยอดขายอาหารทะเลแปรรูปน่าจะเพิ่มขึ้น 12% YoY เนื่องจากปริมาณขาย OEM สูงขึ้น ซึ่งได้แรงหนุนจากราคาปลาทูน่าที่ลดลง เราประเมินว่ายอดขายอาหารสัตว์เลี้ยงฟื้นตัวแข็งแกร่งขึ้น 20% YoY โดยได้แรงหนุนจากการที่ลูกค้าหลักกลับมาสั่งสินค้า เราจึงคาดการณ์ยอดขายของ TU ปี 67 เติบโต 4% YoY ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัท ที่ 3-4%
อัตรากำไรเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น
เราประเมินว่าอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 68bps YoY เป็น 17.74% ในปี 67 เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง อาหารทะเลแช่แข็ง และธุรกิจผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มจากราคาวัตถุดิบปลาทูน่าที่ลดลงและการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น เราคาดว่าราคาปลาทูน่าเฉลี่ยปี 67 อยู่ที่ 1,550 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน ลดลง 13% YoY ทั้งนี้ การถอนการลงทุนในบริษัท Red Lobster (RL) ใน 4Q66 คาดว่าจะทำให้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมของ TU ในปี 67 พลิกเป็น 686 ล้านบาทจากขาดทุน 540 ล้านบาทในปี 66 โดยได้แรงหนุนจากบริษัท Avanti Feeds ซึ่งเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกอาหารสัตว์ในอินเดีย เราคาดการณ์กำไรหลักปี 67 ของ TU เพิ่มขึ้น 26% YoY เป็น 5.85 พันล้านบาท
คาดกำไรจะฟื้นตัวใน 2Q67
เราคาดว่ากำไรหลักใน 2Q67 จะฟื้นตัวประมาณ 5% YoY และ 48% QoQ เนื่องจากปัจจัยตามฤดูกาลและอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น ขณะที่กำไรใน 2H67 มีแนวโน้มสูงกว่า 1H67 ทั้งนี้ ราคาปลาทูน่าในเดือน เม.ย. ลดลง 31% YoY เป็น 1,375 เหรียญสหรัฐ/ตัน ส่งผลให้ราคาเฉลี่ย 4M67 ลดลง 28% YoY เป็น 1,344 เหรียญสหรัฐ/ตัน เราคาดว่า TU จะมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นใน 2Q67 เนื่องจากปริมาณขายที่สูงขึ้นและต้นทุนวัตถุดิบปลาทูน่าที่ลดลง นอกจากนั้น ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมใน 2Q66 คาดว่าจะพลิกมาเป็นส่วนแบ่งกำไร เนื่องจากไม่ต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจาก RL อีกต่อไป
Suttatip Peerasub
suttatip.p@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1430