News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด: บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

31 พ.ค. 2567 09:14:41 551

Market Wrap-Up

· SET วันที่ 30 พ.ค.67 ปิด +1.69 จุด อยู่ที่ 1,351.52 จุด มูลค่าการซื้อขาย 43,760 ลบ.ต่างชาติขาย 1,372ลบ.พอร์ตโบรกขาย 668 ลบ.รายย่อยซื้อ 1,289 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิรวม 1,245 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น EA,BTS,WHA,PRM,LH และมียอดขายสุทธิ SCB,MINT,BBL,AOT,KBANK มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 7,183 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ AWC-R,DCC-R,GPSC-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 26,151 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 23,724 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 2,065 ลบ.

· ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.86%, S&P500 -0.60%, Nasdaq -1.08% หลัง Salesforce บริษัทซอฟแวร์ -19.7% หลังรายได้ Q1/67 และคาดการณ์รายได้ Q2/67 ต่ำกว่าคาด ส่งผลให้กลุ่มเทค ฯ อื่น เช่น Nvidia -3.7%, Microsoft -3.4% ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.59% ได้แรงหนุนจากกลุ่มอสังหาฯ +1.9%, เทเลคอม +1.6% ขณะที่เทคโนโลยี -0.7% หลังหุ้น SAP บริษัทซอฟแวร์เยอรมัน -4.1%

Market View

· ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง หลัง Salesforce -19.7% จากคาดการณ์รายได้ Q2/67 ต่ำกว่าคาด เนื่องจากลูกค้าใช้บริการคลาวด์ลดลง ส่วนรายงาน US GDP Q1/67 ครั้งที่ 2 +1.3% & ครั้งที่ 1 +1.6% QoQ สาเหตุจากการใช้จ่ายผู้บริโภคลดลง และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 3,000 ราย อยู่ที่ 219,000 สูงกว่าคาดที่ 218,000 ราย ส่งผลให้ US Bond Yield 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.538% โดยค่ำวันนี้ติดตามUS Core PCE เม.ย. คาดที่ 2.8% YoY, 0.3% MoM ทรงตัวเมื่อเทียบกับ มี.ค. เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อสหรัฐ โดย CME Fed Watch ชี้มีโอกาส 45.4% เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ใน พ.ย.

· ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับขึ้น หลัง Euro Bond Yield 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 2.658% โดยวันค่ำนี้ติดตาม Core CPI ยูโรโซน พ.ค. คาดทรงตัวที่ 2.7% YoY ซึ่งเป็นระดับเดียวกับ เม.ย. รวมถึงความเห็นของผู้ว่าการ ธ.กลางไอร์แลนด์ ต่อโอกาสที่ ECB จะเริ่มลดดอกเบี้ยในการประชุม 6 มิ.ย.

· ฝั่งอเชียดัชนีนิเกอิวานนี้ -1.30% ถูกกดดันจาก Japan Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 1.10% สูงสุดในรอบ 12 ปี ระหว่างรอผลการประชุม BOJ 13 มิ.ย.ว่าจะตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ โดยภาพรวมตลาดเอเชียเหนือลดลง จากความกังวลเฟดอาจตรึงดอกเบี้ยสูงนาน ส่วนเข้านี้ PMI ภาคผลิตจีน พ.ค.อยู่ที่ 49.5 & เม.ย. 50.4 และ PMI ภาคบริการ พ.ค. อยู่ที่ 51.1 & เม.ย. 51.2 มีสัญญาณชะลอตัวของภาคผลิตจีน

· SET วานนี้ +0.13% ปริมาณการซื้อขาย 4.3 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 1,372 ลบ.พอร์ตโบรกขาย 668 ลบ. รายย่อยซื้อ 1,289 ลบ. สถาบันซื้อ 751 ลบ. ได้แรงหนุนจากกลุ่มอาหาร +1.0% นำโดย CPF +3.1% จากแนวโน้มราคาหมูในเวียดนาม & จีนฟื้นตัวดี ส่วนกลุ่มเครื่องดื่มมีแรงซื้อเก็งกำไรใน OSP,COCOCO ได้แรงหนุนจากอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่กลุ่มท่องเที่ยว, ค้าปลีก, ขนส่งได้ปัจจัยหนุนจาก ม.ฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวต่างชาติ 93 ประเทศ ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากแรงขายกลุ่มอิเล็ก ฯ, โรงไฟฟ้าที่ผันผวนตาม US Bond Yield โดยสถาบัน & รายย่อยยังทยอยเข้าซื้อหุ้นกลุ่ม Big Cap. ในช่วงดัชนีปรับฐาน จากคาดการณ์กระทรวงคลังมีโอกาสอนุมัติการขายกองทุน LTF อีกครั้งในปีนี้ ส่วนวันนี้ MSCI จะทำการรีบาลานท์ ส่งผลให้ LH, BTS, MTC ถูกถอดจาก Global Standard Index ซึ่งจะมีผลให้ Vol. ตลาดผันผวนสูงในช่วงปิดตลาด

Daily Strategy

· ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,340 – 1,345 แนวต้าน 1,355 – 1,360 คาดทรงตัวรอรายงานตัวเลขเฟ้อสหรัฐ & ยูโรโซนในช่วงค่ำวันนี้ แนะนำทยอยซื้อกลุ่มอาหาร & เครื่องดื่มได้แรงหนุนจากอุปสงค์ในประเทศ & ต่างประเทศ เช่น CPF,GFPT,COCOCO,PLUS,ITC / เก็งกำไรกลุ่มเดินเรือ RCL,SINO,WICE หลังค่าระวาง World Container Index สัปดาห์นี้ +4% อยู่ที่ $4,226/40 FT

· PRM* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.00 บาท) แนวโน้มผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปีคาดเติบโต YoY ได้ทุกไตรมาส หนุนจากรายได้เพิ่มขึ้นของธุรกิจ Offshore support (OVS) เรือ AWB ใหม่เริ่มให้บริการตั้งแต่กลางเดือน ม.ค.และจะมีเรือ Hybrid Crew Boat ใหม่อีก 2 ลำ เริ่มให้บริการในช่วงปลาย 1Q67- ต้น 2Q67 ส่วนธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันดิบ (COC) และธุรกิจขนส่งน้ำมันและปิโตรเคมีเหลว (PCT) จากเรือ VLCC และเรือปิโตร 2 ลำ ผ่านช่วง dry dock ส่วนธุรกิจ FSU U-rate อยู่ในระดับสูงและมีแผนซื้อเรือเพิ่มในช่วง 2H67 ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 67 ที่ 2 พันล้านบาท แม้ชะลอลงจากปีก่อนที่มีกำไรพิเศษจากการขายเรือ แต่หากถ้าคิดกำไรปกติจะยังคงมีการเติบโต รวมถึงมีแผนที่ตัดหุ้นจากโครงการซื้อหุ้นคืนทั้งหมดจะทำให้ EPS เพิ่มขึ้น 8%

· GFPT* (ซื้อเก็งกำไร/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 14.80 บาท) กำไรสุทธิงวด 1Q67 อยู่ที่ 466 ลบ., +13.5%QoQ, +56.3%YoY ปัจจัยบวกหลัก คือ เนื้อไก่แปรรูปส่งออกที่ Volume ขาย +20.3%YoY(+กลุ่มลูกค้า UK/EU) ขณะที่ฝั่ง Equity Icome +115%YoY จากการส่งออกไก่แปรรูปปรุงสุกของทั้ง GFN และ McKey ด้านการดำเนินงานระยะถัดไปหลัง 2Q67 คาดว่าจะยังอยูในเกณฑ์ดี มีแรงหนุนจากการส่งออก(ตัวเลขส่งออกไก่ของไทย เม.ย.67 +18%YoY/ไก่สด+7%YoY/ไก่แปรรูป+24%YoY), ราคาอาหารสัตว์ที่ยังอยู่ในระดับไม่สูง และราคาไก่ไทยมีแนวโน้มที่ดีเดือนเม.ย.67 +MoM +YoY ทั้งนี้ ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี67 และ68 กำไรสุทธิของ GFPT* จะอยู่ที่ระดับ 1,600 ลบ.(+16.3%YoY) และ 1,705 ลบ.(+6.6%YoY) ตามลำดับ

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ก.ค. -$1.32 อยู่ที่ $77.91 / บาร์เรล, Brent ก.ค. -$1.74 อยู่ที่ $81.86/บาร์เรล หลัง EIA รายงานสต็อคน้ำมันสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 2 ล.บาร์เรล สูงกว่าคาดที่ 1 ล.บาร์เรล และคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินลดลง 2 % WoW สู่ระดับ 9.15 ล.บาร์เรล/วัน สวนทางกับคาดจะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูการขับขี่รถยนต์ ตลาดยังรอผลประชุมโอเปกวันที่ 2 มิ.ย.

Gold Update(+) Comex Gold มิ.ย. +$25.30 อยู่ที่ $2,366.50/ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.36% อยู่ที่ 104.71 และ US Bond Yield 10 ปี ลดลงต่ำกว่า 4.6% และรอรายงาน US PCE เม.ย. ในช่วงค่ำวันนี้

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -124.14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -37.43 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -73.10 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -13.62 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 36.64 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.539 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +11 จุด อยู่ที่ 1,801

(+) BitCoinเช้านี้ +1.42% อยู่ที่ 68,529 ดอลลาร์สหรัฐ

Economic Calendar

ในประเทศ

27 พ.ค. สภาพัฒน์ รายงานภาวะสังคมไทย ไตรมาส 1/67

31 พ.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

สัปดาห์ที5 สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนี

ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

ต่างประเทศ

27 พ.ค. US วันระลึกถึงทหารที่จากไป

28 พ.ค. USรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซี ( พ.ค.)

30 พ.ค. US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 1)

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

31 พ.ค. CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน ( พ.ค.)

EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( พ.ค.)

US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) (เม.ย.)

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio May 2024: GFPT*, SAPPE*, ITC*, BTG*, KLINIQ

Apichai Raomanachai

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939