BCH : ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
เราได้เข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์ใน 1Q24 ของ BCH และมีมุมมองที่เป็นกลาง โดยมีประเด็นสำคัญมีดังนี้
• BCH คงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ที่ 10% สำหรับปี 2024 โดยได้รับการสนับสนุนจากการเติบโตจากทุกกลุ่มธุรกิจ ควบคู่ไปกับกลยุทธ์เชิงรุก เช่น การตรวจสุขภาพที่สถาน และบริการทันตกรรมเคลื่อนที่ ซึ่งผู้บริหารวางแผนที่จะปรับราคาขึ้น 3-5% เพื่อรับมือกับเงินเฟ้อ โดยการปรับราคาดังกล่าวยังไม่ได้รวมอยู่ในเป้าหมายรายได้ปี 2024 ในปัจจุบัน ยอดผู้ป่วยในเดือนเมษายนค่อนข้างน้อยเนื่องจากวันหยุดยาว แต่ผู้บริหารรายงานว่าจะมีการปรับตัวดีขึ้นในเดือนพฤษภาคม
• รายได้จากโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอลเซ็นเตอร์ (WMC) ลดลง 24% เนื่องจากผลกระทบจากฤดูกาลและจำนวนวันเทศกาลรอมฎอนที่มากขึ้นใน 1Q24 ส่งผลต่อรายได้จากผู้ป่วยในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยรวมรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติลดลง 6% YoY โดยถูกกดดันจากกลุ่มผู้ป่วยประเทศคูเวตที่ลดลง 49% และเวียดนามที่ลดลง 37%
• รายได้ค้างรับจากโควิดใน 1Q24 มีจำนวน 318 ล้านบาท ลดลงจาก 421 ล้านบาทใน 4Q23 สำหรับรายได้การรักษาพยาบาลที่มีต้นทุนสูง BCH ได้รับชำระสำหรับช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม 2023 และมกราคม-มีนาคม 2024 และสำหรับส่วนของปี 2024 ผู้บริหารยังคาดว่าอัตราการจ่ายชดเชยในปี 2024 จะอยู่ที่ 12,000 บาท ต่อ Adj. RW.
• BCH ได้เปิดห้องตรวจวินิจฉัยภาวะหยุดหายใจขณะหลับในโรงพยาบาล 7 แห่ง หลังได้รับการอนุมัติการรับชดเชยค่าตรวจจากสำนักงานประกันสังคม อย่างไรก็ตาม BCH มีผู้ป่วยแล้ว 100 รายและมีอีกกว่า 300 รายที่กำลังรอการตรวจอยู่
• อัปเดตเกี่ยวกับโรงพยาบาลใหม่ 3 แห่ง โรงพยาบาลอรัญประเทศ และเวียงจันทน์ ให้มี EBITDA ตั้งแต่ 4Q23 ในขณะที่โรงพยาบาลปราจีนบุรีมีผลขาดทุนมากขึ้นเป็น 6.9 ล้านบาท เทียบกับ 3.1 ล้านบาทใน 1Q23
• BCH จัดตั้งบริษัทร่วมทุน บริษัท บางกอกเชน เดนทัล จำกัด (ถือหุ้น 60%) เพื่อให้บริการทันตกรรมเคลื่อนที่โดยเชิงรุก คาดว่าจะเปิดตัวรถให้บริการ 7 คันในเบื้องต้น ซึ่งจะทำให้มีรายได้ประมาณ 68 ล้านบาท หากดำเนินการเต็ม capacity บริษัทร่วมทุนนี้จะมีรายได้จากการขายรถให้บริการทันตกรรมเคลื่อนที่ด้วย
• ผู้บริหารวางแผนที่จะเปิดโรงพยาบาลระดับตติยภูมิในจังหวัดระยอง ในปี 2028 โดยโรงพยาบาลมีขนาด 200 เตียงจะเน้นให้บริการแก่ กลุ่มผู้ป่วยเงินสด และผู้ป่วยประกันสังคมในพื้นที่นั้นๆ
• เราคงคำแนะนำ “ถือ” สำหรับ BCH โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 24.00 บาท