ภาวะตลาด : SET Index วันศุกร์อ่อนตัวต่อ -3.36 จุด ปิดที่ 1364.48 มูลค่าซื้อขาย 3.6 หมื่นลบ. ซึ่งเป็นไปทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาค ซึ่งกังวลเรื่องเฟดอาจลดดอกเบี้ยช้ากว่าคาด หลังตัวเลขศก.ยังแข็งแกร่ง และเงินเฟ้อลดช้า ขณะที่ภายในก็ยังไม่มีปัจจัยใหม่ และมีความไม่แน่นอนทางการเมือง เงินบาทกลับมาอ่อนค่า นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 835 ลบ. นักลงทุนสถาบันในปท.ซื้อ สุทธิต่อ 835 ลบ.

ปัจจัยต่างประเทศ
•/+ สหรัฐ : ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนพ.ค.ลดลงเป็น 69.1 แต่ดีกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ 67.4 ; ผู้บริโภคปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อสหรัฐ 1 ปีข้างหน้าจาก 3.5% เป็น 3.3%

•/+ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์อ่อนมาเป็น 104.7, US bond yield ถอยเล็กน้อย, ดัชนี VIX อยู่ในระดับตํ่า, ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สเช้านี้ลดลงเล็กน้อย

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
•/- การเมืองไทยไม่แน่นอน หลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องกรณีนายกฯเศรษฐาตั้งพิชิตเป็นรมต.ประจำสำนักนายกฯ แม้ยังไม่ยุติปฏิบัติหน้าที่

- รถ EV จากจีนมีแนวโน้มเข้าตลาดอาเซียและไทยมากขึ้นหวั่นมีสงครามราคา หลังยุโรปจะขึ้น กำแพงภาษีนำเข้ารถ EV จาก 30% เป็น 55%

-/+ EKH : ขายหุ้น KLINIQ ที่เหลือ 11 ล้านหุ้น @ 39 บาท ให้กับนักลงทุน VI (ดร.ไพบูลย์, คุณสถาพร และอื่นๆ) โดยร.พ.จะได้เงินเข้ามา 429 ลบ. โดยมีบันทึกขาดทุนผ่าน P&L ใน 2Q24F ราว 5.5 ลบ. (0.0075 บาท/หุ้น EKH) ข้อดีคืองบ P&L ของ EKH จะไม่ผันผวนจากกำไร/ขาดทุนเมื่อ Mark to market ราคาหุ้น KLINIQ ในสิ้นไตรมาสอีก ฝ่ายวิจัยฯ DBSVTH คงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 9.50 บาท (DCF)

ปัจจัยติดตาม : สถานการณ์ตะวันออกกลาง, กรณียุบพรรคก้าวไกล, โครงการดิจิตอลวอลเล็ต, ดัชนี PMI ภาคผลิตและบริการของประเทศต่างๆ,ยอดขายสินค้าคงทน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนี PCE ของสหรัฐวันที่ 31 พ.ค.นี้

กลุยทธ์ : SET แกว่งไม่หลุด 1355-1350 มีโอกาสกลับไปกรอบบน 1380 หรือสูงกว่า...ดัชนีมีการพักตัวใน 4 วันทำการที่ผ่านมา หลังขึ้นไปสูงสุด 1389.28 ระยะสั้นให้แนวรับ 1360/1355-1350 โดยถ้าไม่หลุด 1355-1350 มีโอกาสแกว่งขึ้นไปที่ 1380-1385 หรือสูงกว่า แต่ถ้าหลุด 1355-1350 ควรลดพอร์ต เพราะมีสิทธิแกว่งลงไปจุดตํ่าสุดเดิม 1330 หรือตํ่ากว่า หุ้นเด่นทางเทคนิควันนี้เป็น TU, SYNEX

หุ้นพื้นฐานแนะนำลงทุน : SYNEX ผลประกอบการบริษัทผ่านจุดตํ่าสุดไปแล้วใน 2Q23 แนวโน้มจากนี้คาดว่าทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง แม้เบื้องต้นอาจชะลอตัว QoQ ใน 2Q24 หลังจากที่ 1Q24 กำไรดี 152 ลบ.เพราะได้ประโยชน์จาก Easy e-receipt แต่ยังโตโดดเด่น YoY นอกจากนี้ใน 2H24 จะมีปัจจัยสนับสนุนหลายเรื่อง ทั้งงบประมาณรัฐที่จะเข้ามาหนุนรายได้สินค้าคอมเมอร์เชียลเร่งตัวขึ้นมาก และเชื่อว่าโครงการ Digital Wallet หนุนยอดขายสินค้าคอนซูมเมอร์ได้มาก อัตราดอกเบี้ยที่จะกลับเป็นทิศทางขาลงเป็นบวกในระยะยาวกับบริษัท แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 13.22 บาท

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@th.dbs.com : Tel 02 587 7829