**ผลประกอบการ 2H24F มีแนวโน้มดีขึ้น**
ผู้บริหารคงเป้ารายได้เติบโตอย่างน้อย 15% และอัตรากำไรสุทธิสูงกว่า 13.5% ในปี 24 หนุนโดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากศูนย์รักษาเฉพาะทางและคนไข้ต่างชาติ, ผลขาดทุนจาก CHG Medical Centre และ CHG แม่สอดน้อยลง และการลงทะเบียนของผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมมากขึ้น
ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้คนไข้ต่างชาติเพิ่มเป็น 10% ของรายได้รวมในระยะยาว จาก 4% ในปี 23 หนุนโดยฐานคนไข้ต่างชาติปัจจุบัน คือ โอมาน, UAE และ CLMV รวมถึงตลาดใหม่ เช่น ซาอุดิอาระเบีย
CHG Medical Centre มีกำไรขั้นต้นแล้ว ส่วน CHG แม่สอดยังขาดทุน โดยใน 1Q24 ขาดทุน 21 ล้านบาท ผู้บริหารคาดทั้งปี 24 จะขาดทุน 50-60 ล้านบาทใกล้เคียงกับปี 23 ทั้งนี้เหตุการณ์ความไม่สงบในเมียนมามีผลต่อการทำกำไร
รายได้ค้างรับเกี่ยวกับโควิดจากสปสช.ลดลงเหลือ 400 ล้านบาทในสิ้น 1Q24 จาก 460 ล้านบาทในสิ้น 4Q23 ทางร.พ.คาดว่าจะได้รับเต็มจำนวนในปีนี้ ส่วนรายได้ค้างรับ IPD เคส (adj. RW ≥2) เดือนพ.ย.-ธ.ค.23 จากประกันสังคมขึ้นกับงบประมาณ (ซึ่ง 10 เดือนแรกปี 23 ได้รับแล้วที่ 12,000 บาท/เคส) ซึ่งหากงบฯไม่พอและลดเป็น 10,000 บาท/เคส จะทำให้กำไรสุทธิ CHG ในปี 24 ลดลง 2.3%
CHG มีแผนขยายเตียง Chularat RPC อีก 71 เตียงใน 2H24 ซึ่งต้นทุนเพิ่มไม่มาก เพราะได้บันทึกต้นทุนบางส่วน เช่น ค่าเสื่อมราคาไปแล้ว
ผลประกอบการ 2Q24 มีแนวโน้มเติบโต YoY จากรายได้ขยายตัว โดยผู้บริหารระบุว่าจะโตเป็นเลขสองหลักเทียบ YoY แต่อ่อนลง QoQ ซึ่งเป็นไปตามปัจจัยฤดูกาล
คาดกำไรสุทธิปี 24-25 ขยายตัว 21% และ 23% เป็น 1.26 และ 1.42 พันล้านบาท ตามลำดับ มาจากการเพิ่มขึ้นของคนไข้ต่างชาติ, ได้รับส่วนเพิ่ม 10.2% ค่าเหมาจ่ายต่อคนจากประกันสังคมเต็มปี 24, ได้โควต้าคนไข้ประกันสังคมเพิ่มขึ้น 24% (จาก 5.65 แสนคนเป็น 6.98 แสนคน), ไม่มีการตั้งสำรองฯเกี่ยวกับโควิด, ผลขาดทุนจากร.พ.ใหม่น้อยลงในปี 25
คงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 3.80 บาท อิงกับ DCF ซึ่งเทียบเท่ากับ P/E ปีนี้ที่ 34.5 เท่า ณ ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ปีนี้ 24.9 เท่า (Mean+0.5SD)
นักวิเคราะห์ : ศศิกานต์ อุดมเวศย์ : sasikarnu@th.dbs.com : Tel. 02 857 7833