สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(21 พฤษภาคม 2567)----- นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ กรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท, ASW”) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท, ASW”) ครั้งที่ 4/2566ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2566 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท ไวส์ เอสเตท 13 จำกัด(“WE13”) (บริษัทย่อยของบริษัท) ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ใน WE13 ในสัดส่วนร้อยละ 99.97 โดยการเข้าทำรายการดังกล่าวเป็นการจำหน่ายหุ้นสามัญของ WE13 ในสัดส่วนร้อยละ 49 ของทุนจดทะเบียน ให้กับบริษัท ทาคาระ เลเบ็น(ไทยแลนด์) จำกัด (“Takara Leben (TH)”) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายโอกาสการลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท รวมทั้งเพื่อต่อยอดและสนับสนุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท ซึ่งผลสำเร็จของการจำหน่ายหุ้นสามัญดังกล่าว จะทำให้ WE13 สิ้นสภาพการเป็นบริษัทย่อยของบริษัท มีรายละเอียดของการเข้าทำรายการ ดังนี้
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2566 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2566 ได้มีมติอนุมัติการทำรายการจำหน่ายไปซึ่งหุ้นสามัญของ WE13 ซึ่งมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ส่งผลให้สิ้นสภาพการเป็นบริษัทย่อยของบริษัท แต่ยังมีสถานะเป็นกิจการร่วมค้าของบริษัท โดยสาเหตุที่บริษัทเปิดเผยข้อมูลภายหลังจากที่ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เนื่องจากคู่สัญญาตกลงกันให้เงื่อนไขบังคับก่อนตามที่ระบุในสัญญาซื้อขายหุ้นซึ่งบริษัทได้เข้าท ากับผู้ขายเกิดขึ้นครบถ้วนก่อน สำหรับธุรกรรมการจำหน่ายหุ้น WE13 เงื่อนไขบังคับก่อนเกิดขึ้นครบถ้วนแล้วในวันที่ 21 พฤษภาคม 2567
คู่สัญญาที่เกี่ยวขอ้งและความสมัพนั ธก์ บับริษทั จดทะเบียน
ผู้ขาย : บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน)
ถือครองหุ้นจ านวนร้อยละ 99.97 ของหุ้น WE13
ผู้ซื้อ : นิติบุคคล ได้แก่บริษัท ทาคาระ เลเบ็น (ไทยแลนด์) จำกัด รับซื้อไปร้อยละ 49 ของหุ้น WE13
ความสัมพันธ์ : บริษัทจดทะเบียนและผู้ซื้อไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องที่จะเข้าข่ายเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันตามประกาศของตลาดทุนที่ ทจ 21/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่เกี่ยวโยงกันและประกาศ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียน ในรายการที่เกี่ยวโยงกัน พ.ศ. 2546
บริษัทได้จ าหน่ายหุ้นของบริษัทย่อย คือ WE13 โดยก่อนการทำรายการบริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ร้อยละ 99.97 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วทั้งหมดจำนวน 1,000,000 บาท โดยได้จำหน่ายหุ้นสามัญของ WE13 ให้กับTakara Leben (TH) ในสัดส่วนร้อยละ 49 ของทุนจดทะเบียน