BAM : ผลประกอบการใน 1Q24 ดี

BAM รายงานกำไรสุทธิใน 1Q24 จำนวน 423 ล้านบาท (+59% YoY /-8% QoQ) ซึ่งเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ การปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY มาจากการฟื้นตัวของการชำระหนี้ รวมถึงการเลื่อนการชำระหนี้ของลูกหนี้รายใหญ่จากปีที่แล้ว

สำหรับ 1Q24 การเรียกเก็บเงินสดรวมอยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท (+10% YoY /-10% QoQ) ต่ำกว่าเป้าหมายรายไตรมาสที่ทางบริษัทตั้งไว้อย่างก้าวกระโดดที่ 4.9 พันล้านบาท โดยการเรียกเก็บเงินสดจาก NPA อยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท (+9% YoY /-15% QoQ) ขณะที่การเรียกเก็บเงินสดจาก NPL รวมอยู่ที่ 2.2 พันล้านบาท (+10% YoY /-6% QoQ) โดยการเรียกเก็บเงินสดของ BAM น่าจะดีขึ้นใกล้เคียงกับเป้าหมายหากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวในช่วง 2H24

การรับซื้อ NPL บนพื้นฐานต้นทุนอยู่ที่ 1.2 พันล้านบาทสำหรับ 1Q24 เทียบกับ 1.5 พันล้านบาทใน 4Q23 อย่างไรก็ตาม เรายังคาดว่าจะมีการรับซื้อเพิ่มเติมในช่วงปลายปีนี้ พร้อมกับการเติบโตของอุปทานในตลาด NPL หลังจากมาตรการช่วยเหลือของธนาคารแห่งประเทศไทยสิ้นสุดลง สถานการณ์นี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผลกำไรระยะกลางของ BAM แม้ว่าความเสี่ยงบางประการจะสูงขึ้นด้วย
ค่าใช้จ่ายดำเนินงานอยู่ที่ 680 ล้านบาท ทรงตัว YoY แต่ลดลง 18% QoQ โดยค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรลดลงทั้ง YoY และ QoQ นอกจากนี้ บริษัทยังกล่าวถึงการเพิ่มขึ้นของค่าเผื่อการด้อยค่าของอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายจากการลดลงของมูลค่าประเมินใหม่

คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ BAM โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 12.00 บาท
เรามีความคาดหวังว่าจะเห็นการปรับตัวดีขึ้นทั้งในส่วนของผลกำไรและการเรียกเก็บเงินสดรวม หลังจากที่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มจะฟื้นตัวในช่วงปลายปีนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐในภาคอสังหาริมทรัพย์ และการคาดการณ์ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยอาจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญของ BAM อย่างไรก็ตาม การลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงสิ้นปีนี้ ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อ BAM เนื่องจากส่งผลต่อส่วนใหญ่ของพอร์ตสินทรัพย์ของบริษัท ทั้งนี้ เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ BAM โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 12.00 บาท จากการประเมินแบบ DDM