สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (8 พฤษภาคม 2567)-------กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จัดอบรมหลักสูตร Family Business Thailand เสริมทักษะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เรียนรู้เทคนิคและวิธีสืบทอดธุรกิจครอบครัวให้ราบรื่น รับช่วงต่อกิจการอย่างมั่นคง เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตอย่างยั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่น

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ธุรกิจครอบครัวหรือ Family Business มีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และยังมีส่วนผลักดันให้ตลาดเศรษฐกิจของประเทศเติบโต  การยกระดับกระบวนการทำงาน พัฒนาจริยธรรม รวมทั้งทักษะในการประกอบธุรกิจทั้งในด้านการบริหารจัดการองค์กร และสมาชิกภายในครอบครัวอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยสร้างจุดแข็ง และสร้างความได้เปรียบจากคู่แข่ง หากต้องการให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโต ผู้บริหารต้องรู้เท่าทันสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในโลกปัจจุบัน

การวางแผนสืบทอดธุรกิจ และการเปลี่ยนผ่านในธุรกิจครอบครัวจึงมีความสำคัญต่อความอยู่รอดและเติบโตในระยะยาว การกำหนดกติกาบางอย่างให้ชัดเจน จึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการกำหนดทิศทางของธุรกิจครอบครัว รวมถึงการจัดลำดับความสำคัญของเป้าหมายระยะสั้น การลงทุนด้านนวัตกรรม และการเพิ่มทักษะจำเป็นให้กับพนักงาน จะเป็นแนวทางสร้างการเติบโตและผลกำไรอย่างยั่งยืน

ในวันนี้ได้มอบหมายให้ หม่อมหลวงภู่ทอง ทองใหญ่ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นประธานเปิดการอบรมหลักสูตร Family Business Thailand ระหว่างวันที่ 8-9 พฤษภาคม 2567 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยมีธุรกิจครอบครัวที่สนใจเข้าร่วมกว่า 200 ธุรกิจ เพื่อพัฒนาศักยภาพ สร้างโอกาส และต่อยอดผู้ประกอบธุรกิจครอบครัวให้มีความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจครอบครัว รู้ถึงจุดแข็งจุดอ่อนของธุรกิจ การพัฒนาธรรมนูญครอบครัว และแนวทางวิธีการรับมือกับเทคโนโลยีและ AI ที่มีการเปลี่ยนแปลง พร้อมการสร้างกลยุทธ์ในการเติบโตของธุรกิจครอบครัว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของธุรกิจ โดยเชิญวิทยากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการธุรกิจครอบครัวจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย อาทิ ดร.รวิดา วิริยะกิจจา คณบดีคณะบริหารธุรกิจ ดร.สิริรัฐ บุญรักษา อาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจ รศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล คณบดีคณะวิทยพัฒน์ และดร.ชนาธิป เลขะกุล ผู้ช่วยคณบดีคณะวิทยพัฒน์ มาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางการบริหารแบบ Family factor หรือปัจจัยของครอบครัว  ที่ต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการสื่อสารระหว่างสมาชิกในครอบครัว และยึดมั่นในธรรมนูญครอบครัว การปรับตัวให้ก้าวทันเทคโนโลยี รวมไปถึงวางโครงสร้างในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ให้ชัด และมีช่องทางการสื่อสารที่ต่อเนื่องและเป็นระบบ เพื่อขยายศักยภาพความมั่นคงให้กับกิจการครอบครัวและสามารถส่งต่อไปยังรุ่นหลังได้อีกยาวนาน

อธิบดีกล่าวทิ้งท้ายว่า ธุรกิจครอบครัวไม่มีสูตรสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ แต่การดำเนินธุรกิจด้วยความเชื่อใจ และความไว้ใจจะเป็นกลยุทธ์สำหรับความสำเร็จและความยั่งยืนของธุรกิจครอบครัวในอนาคต รวมถึงการนำเทคโนโลยีดิจิทัลช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และนำทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนทำให้ธุรกิจมุ่งสู่เป้าหมายและสร้างความเติบโตอย่างมั่นคง ส่งต่อธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนพัฒนาเครือข่ายธุรกิจบริการ กองธุรกิจบริการ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์  โทรศัพท์หมายเลข 0 2547 5985 สายด่วน 1570 และ www.dbd.go.th