Today’s NEWS FEED

News Feed

ITC เผยไตรมาสแรกปี67 กวาดกำไร 821 ล้านบาท เติบโต 93% YoY หลังความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงกลับสู่ระดับปกติ

306

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (2 พฤษภาคม 2567)-------บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC รายงานผลการดำเนินธุรกิจประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2567 มีรายได้จากยอดขายรวมที่ 4,029 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12 เปอร์เซ็นต์ และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 821 ล้านบาท เติบโต 93 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และยังเพิ่มขึ้น 7 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงที่กลับมาสู่ระดับปกติ การเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าพรีเมียม การปรับราคาขาย และปริมาณคำสั่งซื้อจากลูกค้าแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลก ส่งผลให้ไอ-เทลมียอดขายเพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาคเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพร่วมกับกลยุทธ์การปรับราคาสินค้า ซึ่งถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้การดำเนินธุรกิจมีอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิอยู่ในระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปีที่ผ่านมาที่ 26 เปอร์เซ็นต์ และ 20 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ

 

นายพิชิตชัย วงศ์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “หลังจากก้าวผ่านความท้าทายในปี 2566 ในที่สุดการดำเนินธุรกิจของไอ-เทล สามารถกลับมามีกำไรและยอดขายที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีความพร้อมที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกเพื่อผลักดันการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ในปี 2567 โดยบริษัทฯ ยังคงยึดมั่นการดำเนินธุรกิจด้วยแนวคิดการให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงเป็นศูนย์กลาง (Pet Centric) และต่อยอดธุรกิจด้วยการคว้าโอกาสสำคัญต่างๆ จากภาคอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงที่คาดว่าจะเติบโตในทิศทางบวกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเวลานี้เป็นต้นไป”

 

“อีกทั้ง ไอ-เทลได้เดินหน้ากลยุทธ์เพื่อเร่งการเติบโตของธุรกิจร่วมกับกลุ่มลูกค้าปัจจุบันควบคู่ไปกับการเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้น โดยในไตรมาสที่ 1 ได้เริ่มต้นข้อตกลงทางธุรกิจเพื่อการผลิตสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงให้แก่แบรนด์ค้าปลีกชั้นนำในสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเริ่มมีคำสั่งซื้อและส่งมอบสินค้าล็อตแรกในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้”

 

สำหรับไตรมาสแรกของปี 2567 ไอ-เทลมีสัดส่วนของยอดขายแบ่งตามภูมิภาคดังนี้ สหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 45 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมด ในขณะที่เอเชียและโอเชียเนียอยู่ที่ 36 เปอร์เซ็นต์และยุโรปอยู่ที่ 19 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้ง สามารถแบ่งสัดส่วนของยอดขายตามประเภทของสินค้าอาหารหลัก 3 ประเภท ได้แก่ อาหารแมว 75 เปอร์เซ็นต์ อาหารสุนัข 13 เปอร์เซ็นต์ ขนมทานเล่นของสัตว์เลี้ยง 10 เปอร์เซ็นต์ และธุรกิจอื่นๆ อีกราว 2 เปอร์เซ็นต์

 

ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญต่อการตอบรับเทรนด์การดูแลสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกคนสำคัญในครอบครัว หรือ “Pet Humanization” ที่มาพร้อมกับการบริโภคสินค้าพรีเมียมที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของไอ-เทลในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมคุณค่าทางโภชนาการที่ผ่านเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย รวมถึงการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพจากแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐานและให้ความสำคัญกับความยั่งยืน เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่ม Pet Parents ทั่วโลกที่ต้องการดูแลและส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับสัตว์เลี้ยงของพวกเขา โดยบริษัทฯ ได้พัฒนาและออกผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 500 รายการ ในไตรมาสที่ผ่านมา เพื่อรองรับความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาค

 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจด้วยการลงทุนราว 1.3 พันล้านบาท เพื่อติดตั้งระบบการจัดเก็บและเบิกจ่ายสินค้าอัตโนมัติ (Automated Storage & Retrieval System - ASRS) ที่โรงงานในจังหวัดสงขลา โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2568 เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนในระยะยาว

 

ท้ายที่สุดนี้ ไอ-เทล ยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาความยั่งยืนที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ SeaChange® 2030 โดยได้เริ่มการติดตั้งระบบการปรับปรุงคุณภาพน้ำด้วยการกรองแบบ Ultrafiltration and Reverse Osmosis (UFRO) ที่โรงงานในจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นโรงงานต้นแบบในจำนวน 5 โรงของกลุ่มไทยยูเนี่ยนในการนำร่องด้านกระบวนการผลิตที่เป็นเลิศ (best-in-class manufacturing) โดยคาดว่าการติดตั้งจะแล้วเสร็จภายในปี 2568 เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการลดการปล่อยน้ำเสียเป็นศูนย์ (zero water discharge) ให้สำเร็จภายในปี 2573

 

“ผมเชื่อมั่นว่าไอ-เทลจะสามารถสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและมีผลงานที่ยอดเยี่ยมในปี 2567 เพื่อตอกย้ำศักยภาพของเราในการเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำของโลกที่พร้อมส่งมอบคุณค่าเชิงบวกสู่สังคมและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อก้าวไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนไปพร้อมกันในระยะยาว” นายพิชิตชัยกล่าวทิ้งท้าย

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ต่างชาติ ลุยซื้อหุ้นไทย By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม เห็นนักลงทุนต่างชาติ กลับมาซื้อหุ้นไทย วานนี้ จัดไป เกือบ 3,600 ล้านบาท ส่วนในประเทศ พร้อมใจขายอย่าง...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้