ITC เผยงบรวม Q2/66 มีกำไรสุทธิ 444.87 ลบ. ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,339.54 ลบ. หลังคำสั่งซื้อสินค้าหดตัว-ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น

บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC เปิดเผยว่ายอดขายไตรมาส 2 ปี 2566 อยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท หลักๆ มาจากการปรับตัวลดลงจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งในปีที่แล้ว เนื่องด้วยการปรับลดปริมาณสินค้าคงเหลือของลูกค้าในสหรัฐอเมริกาและยุโรปและสัดส่วนการขายสินค้าพรีเมียมลดลง แม้ว่าจะมีความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงสูงก็ตาม โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 18.4% และกำไรสุทธิ 0.4 พันล้านบาท

บริษัทฯ มีรายได้จากการขายในช่วงไตรมาส 2/2566 ที่ 3,242.7 ล้านบาท (ลดลง 39.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน) ด้วยสาเหตุหลักๆ จากการปรับตัวลดลงจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งในปีที่แล้วอันเป็นผลมาจากปรับลดปริมาณสินค้าคงเหลือของลูกค้าในสหรัฐอเมริกาและยุโรป แรงกดดันด้านเงินเฟ้อและรายได้จากค่าระวางสินค้าที่ลดลง แม้ว่าจะมีความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงสูง หากไม่รวมอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ยอดขายลดลง 40.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนและลดลง 9.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเกิดจากปริมาณขายที่ลดลง (9.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า)

บริษัทฯ มีรายได้จากการขายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 ที่ 6,829.5 ล้านบาท (ลดลง 29.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน) เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและอัตราเงินเฟ้อที่สูงเป็นผลให้การใช้จ่ายของลูกค้าลดลงและรายได้จากค่าระวางสินค้าลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์และโครงการใหม่ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 และยังคงมุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้า

กำไรสุทธิไตรมาส 2/2566 อยู่ที่ 444.9 ล้านบาท (ลดลง 67.0% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า) สาเหตุหลักมาจากคำสั่งซื้อที่ลดลงอันเป็นผลมาจากการปรับลดปริมาณสินค้าคงเหลือของลูกค้า แรงกดดันด้านต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นและสัดส่วนการขายสินค้าพรีเมียมที่ลดลง ซึ่งบางส่วนถูกหักกลบด้วยรายได้อื่นและเครดิตภาษีเงินได้ที่สูงขึ้น กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากบริษัทฯ เริ่มดำเนินการโครงการลดต้นทุนในช่วงไตรมาส 2 ประกอบกับรายได้อื่นและเครดิตภาษีเงินได้ที่สูงขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 13.7% (ลดลงจาก 25.0% ในไตรมาส 2/2565 แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 11.9% ของไตรมาส 1/2566)

กำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 อยู่ที่ 870.0 ล้านบาท (ลดลง 61.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน) สาหตุหลักมาจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ส่งผลให้การใช้จ่ายของลูกค้าลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์และโครงการใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 และยังคงมุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้า ทำให้อัตรากำไรสุทธิในครึ่งปีแรกนี้อยู่ที่ 12.7%