News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

29 เม.ย. 2567 09:05:37 139

Market Wrap-Up

SET วันที่ 26 เม.ย.67 ปิด -4.33 จุด อยู่ที่ 1,359.94 จุด มูลค่าการซื้อขาย 40,149 ลบ.ต่างชาติขาย 823 ลบ.สถาบันซื้อ 650 ลบ.พอร์ตโบรกซื้อ 333 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 628 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้น KBANK,BDMS,COCOCO,WHA,AAI และมียอดขายสุทธิ BBL,GULF,CPALL,AOT,LH มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 5,021 ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ KTC-R,SPCG-R,TTB โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 8,976 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 16,962 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 2,038 ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.40%, S&P500 +1.02%, Nasdaq +2.03% ได้แรงหนุนจากกลุ่มบริการสื่อสาร, เทคโนโลยี หลัง Alphabet +10% รับกำไร Q1/67 ดีกว่า, จ่ายเงินปันผล, ซื้อหุ้นคืนมูลค่า $7 หมื่น ล. และ Microsoft +1.8% รับกำไรดีกว่าคาดจากรายได้ AI คลาวด์ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +1.11% ได้แรงหนุนจากธนคาร หลัง ธ.แนตเวสต์ของอังกฤษ +6.1%, อุตสาหกรรม +1.8% และเทคโนโลยี +1.9% ตามกลุ่มเทค ฯ สหรัฐ

Market View

ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.67%, S&P500 +2.67%, Nasdaq +4.23% WoW ได้แรงหนุนจากผลประกอบการ Alphabet, Microsoft ดีกว่าคาด โดยฟื้นตัวหลังรายงาน US GDP Q1/67 +1.6% & คาด +2.4% QoQ และ Core PCE Q1/67 ปรับขึ้นอยู่ที่ 7% & Q4/66 2.0% YoY บ่งชี้เศรษฐกิจชะลอตัวท่ามกลางเงินเฟ้อสูง ซึ่งสอดคล้องกับ US Core PCE มี.ค. +2.8% & คาด +2.6% YoY และ +0.3% MoM ตามคาด ส่งให้ตลาดคาดเฟดจะตึงดอกเบี้ยสูงจนถึง ก.ย. แต่ตลาดให้น้ำหนักต่อกำไรกลุ่มเทค ฯ ดีกว่าคาด สัปดาห์นี้วันพุธ ติดตามการประชุมเฟด ,วันศุกร์ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ เม.ย. คาด 210,000 & มี.ค. 303,000 ราย
ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +1.18% WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มธนาคาร และเทคโนโลยีรายงานกำไร Q1/67 ดีกว่าคาด โดยสัปดาห์นี้ วันอังคารติดตาม GDP ยูโรโซน Q1/67 +0.2% & Q4/66 +0.1% YoY และ CPI ยูโรโซน เม.ย. +2.4% YoY ทรงตัวเมื่อเทียบกับ มี.ค. เพื่อประเมินโอกาสที่ ECB จะลดดอกเบี้ยใน มิ.ย.
MSCI Asia Pacific X Japan +3.0% WoW ฟื้นตัวหลังคลายความกังวลต่อสถานการณ์ในตะวันออกกลาง และหุ้นกลุ่มเทค ฯ ในตลาดเอเชียเหนือปรับขึ้นตามกลุ่มเทค ฯ สหรัฐ ขณะที่ดัชนีนิเกอิ +2.3% WoW หลัง BOJ มีมติคงดอกเบี้ยที่ 1% และ ม.ซื้อพันธบัตรรัฐบาล ซึ่ง BOJ เผยยังไม่สัญญาณการอ่อนค่าของเงินเยน จะกระทบต่อเงินเฟ้อญี่ปุ่น
SET +2.09% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน2 หมื่น ลบ. -27.6% WoW ต่างชาติซื้อ 3.1 พัน ลบ. สถาบันซื้อ 4.7 พัน ลบ. รายย่อยขาย 7.2 พัน ลบ. พอร์ตโบรกขาย 665 ลบ. ฟื้นตัวกลับมายืนเหนือระดับ 1,350 จุดได้ หลังลดความกังวลต่อสงครามในตะวันออกกลาง กอปรได้แรงหนุนจากกลุ่มอิเล็ก ฯ +5.4% ฟื้นตัวตามกลุ่มเทคฯ สหรัฐ, รพ. +5.6% หลัง BH รายงานกำไร Q1/67 ดีกว่าคาด และกลุ่มอาหาร & เครื่องดื่ม +5.5%, ท่องเที่ยว +4.2% ได้แรงหนุนค่าเงินบาทอ่อนค่า & ปัจจัยเชิงฤดูกาล โดยนักลงทุนรอรายงานกำไร บจ. ซึ่งจาก BB.Consensus 117 บริษัทคาดกำไร Q1/67 +41% QoQ, -0.9% YoY สัปดาห์นี้วันพรุ่งนี้ ติดตามรายงานส่งออกไทย มี.ค. คาด -4% & ก.พ. +3.6% YoY และรายงานกำไร Q1/67 ของกลุ่ม ICT เช่น ADVANC,TRUE และอาหารสัตว์เลี้ยง ITC

Daily Strategy

ประเมินดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,550 แนวต้าน 1,365 – 1,370 รอผลการประชุมเฟดและรายงานกำไร บจ. ไทย Q1/67 แนะนำทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT, อาหาร & เครื่องดื่ม GFPT,TU,ITC,AAI,ICHI,SAPEE,OSP
OSP* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 26.50 บาท) แนวโน้มกำไร 1Q67 กลับมาเติบโตแรง QoQ, YoY หนุนจากรายได้ที่เติบโตเป็นผลจากส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดขายต่างประเทศฟื้นตัวขึ้นหลักๆ จากประเทศเมียนมา ประกอบกกับต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ลดลงและประสิทธิภาพในการผลิตดีขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นตาม สำหรับแนวโน้มกำไรในช่วง 2Q67 น่าจะยังดีต่อเนื่อง YoY จากการอัตรากำไรทีดีขั้น แต่คาด QoQ อาจจะลดลงเพราะผ่าน peak season ของเมียนมาร ทั้งนี้ตลาดคาดการณ์กำไรปี 67-68 อยู่ที่ 73 พันล้านบาท +14%YoY และ 2.97 พันล้านบาท +9%YoY
TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 19.50 บาท) ประเมินกำไรปกติ 1Q67 ที่ 979 ลบ.(+21%YoY, -17%QoQ) สามารถกลับมาฟื้นตัวได้เด่น YoY ในส่วนของ operation หลักทั้งรายได้ฝั่ง Petcare และ Ambient Seafood แม้จะมีปัจจัยกดดันจาก 1.1Q66 มีส่วนแบ่งกำไรจาก Red Lobster ราว +134 ลบ. (1Q67 ไม่รับรู้แล้วหลังถอนทุน RL ใน 4Q66) และ GPM ที่โดนกดดัน QoQ จากฝั่ง Ambient และ Frozen ส่วน 2Q67 เบื้องต้นคาด +YoY จากฐานต่ำปีก่อน(2Q66 คู่ค้ายังมี Inventory สูง)/ ไม่ต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากRL(-193 ลบ. ใน 2Q66) และ +QoQ จากออเดอร์ปรับขึ้นตามฤดูกาล รวมถึงจะได้ประโยชน์เต็มที่จากต้นทุนปลาทูน่าอยู่ในโซนต่ำมากกว่าในช่วง 1Q67 ที่ต้นทุนปรับลงตามราคาขายทูน่ากระป๋อง OEM ที่ปรับลงก่อนไม่ทัน

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI มิ.ย. +$0.28 อยู่ที่ $83.85/บาร์เรล Brent มิ.ย. +$0.49อยู่ที่ $89.50/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากความกังวลต่อภาวะอุปทาน หลังอิสราเอลโจมตีทางตะวันออกของเลบานอน

Gold Update(+) Comex Gold มิ.ย. +$4.70 อยู่ที่ $2,347.20 /ออนซ์ ได้แรงหนุนหลัง US Bond Yield 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.66% กอปรกับอุปสงค์ทองคำจากจีนใน Q1/67 +6% YoY

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ขายสุทธิ
-241.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +84.51 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -277.42 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -48.54 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 37.03 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.655 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -22 จุด อยู่ที่ 1,721

(-) BitCoin เช้านี้ -0.59% อยู่ที่ 63,241 ดอลลาร์สหรัฐ

Economic Calendar

ในประเทศ

30 เม.ย. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที5 สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนี

(เม.ย.) ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

01 พ.ค. วันแรงงาน - วันหยุด

ต่างประเทศ

30 เม.ย. CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน (เม.ย.)

EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (เม.ย.)

US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (เม.ย.)

01 พ.ค. CN วันแรงงาน - วันหยุด

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (เม.ย.)

US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)(เม.ย.)

02 พ.ค. CN วันแรงงาน - วันหยุด

US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ FOMC ของสหรัฐ

US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

03 พ.ค. CN วันแรงงาน - วันหยุด

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (เม.ย.)

US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) (เม.ย.)

US อัตราการว่างงาน (เม.ย.)

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*, SJWD*

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio April 2024: GFPT*, SAPPE*, OSP*, ITEL*, ITC*, ICHI*

Analysts

Apichai Raomanachai