SET รีบาวน์
กลยุทธ์สะสมหุ้นลงแรง + พื้นฐานดี

Market Strategy
SET Index คาดรีบาวน์ตามกรอบ 1325-1350 จุด แรงกดดันจากความกังวลต่อสงครามระหว่างอิสราเอล-อิหร่านที่ลดลง จากท่าทีของอิหร่านยังไม่ได้มีสัญญาณตอบโต้กลับจากเหตุการณ์ระเบิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สะท้อนได้จากความเห็นรมว. ต่างประเทศอิหร่านที่กล่าวว่าปัจจุบันยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าการโจมตีมาจากอิสราเอล
สถานการณ์ข้างต้นทำให้ราคาน้ำมันดิบBrent ปัจจุบันอยู่ที่ 87 เหรียญฯ ต่ำกว่าระดับสูงสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 90.7 เหรียญฯ  เชื่อว่าดีต่อสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะตลาดหุ้นบ้านเรามีโอกาสฟื้นหลังวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับลงแรงจาก Panic Sell -2.1% แรงกว่า MSCI Asia Ex Japan ปรับลง -1.8% ในมุม Valuation อยู่ในจุดที่น่าสะสมระยะยาว หลัง SET Index ลงมาซื้อขายบน PER67E 14.1 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี -1 S.D. ที่ 14.4 เท่า และ PBV ที่ 1.27 เท่า ใกล้ช่วง Covid-19 ที่ PBV ที่ 1.25 เท่า
ปัจจัยในประเทศการรายงานงบ 1Q67 ของหุ้นกลุ่ม ธ.พ. ที่เราศึกษา (BBL SCB KTB TTB KKP TISCO ไม่รวม KBANK ที่จะรายงานวันนี้) ทำกำไรสุทธิรวมกัน 4.15 หมื่นล้านดีกว่าเราคาด 5% และใกล้คียงตลาดคาด จึงยังไม่เพิ่มความเสี่ยงต่อการปรับลดประมาณการกำไรบริษัทฯ ส่วนสัปดาห์นี้ให้น้ำหนักไปที่การรายงานงบของหุ้นในกลุ่ม Real Sector อาทิ SCGP SCC PTTEP  กลยุทธ์แนะนำซื้อหุ้นลงแรง + พื้นฐานดี

Market Summary
SET Index ปรับลง 2.13% จากความกังวลต่อความตึงเครียด ระหว่างอิหร่านและอิสราเอล กดดันตลาดปรับลงยกแผง โดยกลุ่มที่ปรับลงแรง กลุ่มขนส่ง -3.44% AAV -5%  AOT -3.8% โรงไฟฟ้า GPSC -6% BGRIM -4.5% ต่อความกังวลต้นทุนเชื้อเพลิงขึ้นและ Bond Yield ที่ทรงตัวสูง กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ -4%  ส่วนกลุ่มที่แข็งกว่าตลาด คือกลุ่ม Defensive  อย่าง ร.พ. ปรับลง -0.6%

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ MINT KTB
MINT
ย่อมา น่าสะสม

Fitch Rating ปรับอันดับเครดิตเรทติ้งของ NH Hotel ขึ้น สะท้อนถึงมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของธุรกิจ ทิศทางดอกเบี้ยฯ ของยุโรปที่มีแนวโน้มปรับลดในช่วง มิ.ย. เรามองเป็นผลดีต่อต้นทุนทางการเงินของ MINT ที่ลดลง อีกทั้งได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าจะทำให้รายได้สกุลเงินต่างประเทศที่แปลงกลับเป็นเงินบาทมาได้มากขึ้น
คาดกำไร 67E คาดขยายตัว 113% จากการฟื้นตัวภาคท่องเที่ยวทั้งยุโรปและไทย  ขณะที่ราคาหุ้นปรับลงแรง 4.6%WTD จากความตึงเครียดในตะวันออกลาง ซึ่งล่าสุดอิหร่านส่งสัญญาณไม่มีการตอบโต้กลับ เราจึงเชื่อว่าราคาหุ้นมีโอกาสดีดตัวกลับขึ้นไป
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 36.00 บาท


KTB
กำไรดีกว่าคาด
กำไร 1Q67 อยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท  ขยายตัว 10%YoY และ 81%QoQ ดีกว่าเราและตลาดคาด 6-8% จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากหนี้สูญรับคืน โดยกำไร 1Q67 คิดเป็นสัดส่วน 28% ของกำไรทั้งปี 2567
ด้านคุณภาพสินทรัพย์ควบคุมได้ดีสะท้อนจาก NPL ลดลงจากไตรมาสก่อน 9 bpsอยู่ที่ 3.77% ด้าน Credit Cost อยู่ที่ 1.24% ลดลงจากไตรมาสก่อนที่อยู่ระดับ 2.01% โดย Coverage Ratio ยังอยู่ในระดับสูง 175%
ราคาหุ้นซื้อขายบน PBV ที่ 0.52 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ขณะที่ทิศทางกำไรทั้งปีเราคาดเติบโต  7.4% โดยมี Dividend Yield สูง 6.1% ระยะสั้นความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยฯ ที่ลดลงจะดีต่อ KTB ที่แรงกดดันจาก NIM น้อยลงตาม
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์  21.00 บาท

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ