DMT คำแนะนำ ซื้อ
ราคาปิด 12 บาท ราคาเป้าหมาย 14 บาท
ปี 24F เติบโตต่อ...ให้ปันผลสูง คาด DY ไว้ที่7%

* ปี2023 มีกำไรสุทธิ1.0 พันล้านบาท เพิ่มขึน้ 28%YoY เป็นผลจากรายได้ค่าผ่านทางเพิ่มขึ้น 27%YoY ซึ่งโดยหลักเป็นเพราะปริมาณการจราจรเพิ่ม 25%YoY หลังจากโควิดคลี่คลายและเปิดประเทศ (จาก 85,417 คันต่อวันเป็น106,907 คันต่อวัน) อัตราก าไรขั้นต้น (GPM) ทรงตัวที่ 64% ส่วนค่าใช้จ่าขายและบริหารต่อรายได้ลดลงเป็น 10%จาก 11% ในปี 22 ส่วน EBITDA margin เพิ่มเป็น 76% จาก 73% ในปี 22

* กระแสเงินสดจาการดำเนินงานแข็งแกร่ง ฐานะการเงินแข็งแรง ในปี 23 บริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน 1.53 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 32%YoY มีสัดส่วนหนี้สินที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยต่อทุนต่ำเพียง 0.09 เท่า โดยเป็นหนี้ระยะสั้น 800 ล้านบาท ไม่มีหนี้ระยะยาว ด้าน BVS ณ สิ้นปี 23 อยู่ที่ 7.19 บาทต่อหุ้น

* 2 เดือนแรกปี 24 ปริมาณการจราจรเพิ่มราว 5% จากเฉลี่ย 1Q23 โดยปริมาณการจราจรเดือนม.ค.-ก.พ.24 อยู่ที่ 111,224 และ 115,326 คันต่อวัน และเฉลี่ย 2M24 อยู่ที่ 113,275 คันต่อวัน เพิ่มขึ้น 5.2% จากเฉลี่ยใน 1Q23 ที่107,655 คันต่อวัน

* บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี24F เติบโต 10% โดยคาดการณ์ปริมาณการจราจรเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 116,000แสนคันต่อวัน จากเฉลี่ย 106,907 คันต่อวันในปี 23 ปัจจัยหนุน คือ ภาคท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวและการเดินทางที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้จำนวนผู้ใช้สนามบินดอนเมืองมากขึ้น ซึ่งเป็นอานิสงค์บวกกับรายได้ DMT

*ได้รับผลกระทบจากรถไฟฟ้าสายสีแดงในเส้นที่ซ้อนกับดอนเมืองโทลเวย์ช่วงจตุจักร-รังสิตบ้าง แต่ไม่มากเนื่องจากปริมาณการใช้รถไฟฟ้าสายสีแดงยังต่ำ เพราะหากเดินทางเข้ามากลางเมืองกรุงเทพฯ ต้องต่อหลายทอดและการเดินทางพร้อมครอบครัว โดยเฉพาะมีสัมภาระยังใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก

* มีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่า กว่า 90% ของกำไรสุทธิหลังหักส ารองตามกฎหมาย สำหรับปี 23 บริษัทมีการจ่ายปันผล 4 ครั้ง โดยสำหรับรอบ 4Q23เท่ากับ 0.15 บาท/หุ้น ขึ้น XD 3 พ.ค.24 (ส่วน 3 ครั้งแรกจ่ายครั้งละ 0.35 บาท/หุ้น) รวมทั้งปีจ่ายปันผล 1.20 บาท/หุ้นคิดเป็น 141% ของกำไรสุทธิปี 23 ส่วนปี 24F เราคาดว่าบริษัทจะจ่ายปันผลที่90% ของกำไรสุทธิ โดยคาดการณ์ไว้ที่ 0.84 บาท/หุ้น

* มีแผนเข้าร่วมประมูลงานภาครัฐหลายโครงการ และลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ได้แก่โครงการ M5 (ส่วนต่อขยายโทลเวย์เชื่อมกับมอเตอร์เวย์รังสิต-บางปะอิน), โครงการ M9 (วงแหวนตะวันตก บางขุนเทียน-บางบัวทอง), โครงการM82 (บางขุนเทียน-บ้านแพ้ว) และโครงการ Rest area M6 & M81

*แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 14 บาท อิงกับ P/E ปีนี้ที่ 15 เท่า ทั้งนี้คาดการณ์กำไรสุทธิปี 24Fเติบโต 10% เป็น1.1 พันล้านบาท (EPS : 0.93 บาท/หุ้น) ณ ราคาปัจจุบัน 12 บาทมี P/E ปีนี้ที่ 12.8 เท่า คาดการณ์ Dividend Yieldปีนี้ไว้ที่ 7.0% (คิดจากราคาหุ้น 12 บาท)

* ข้อมูลด้าน ESG บริษัทได้รับ SET ESG Ratings ระดับ A, CG Report 5 ดาว
# ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental : E) ในปี 2023 บริษัทลดก๊าซเรือนกระจกได้ 15% ลดการใช้ไฟฟ้าลง 10%เดินหน้าการใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น ติดตั้งโซลาร์รูฟทอป และใช้รถ EV ในการปฎิบัติงานมากขึ้น สำหรับปี 2024ตั้งเป้าลดก๊าซเรือนกระจก 30% (และลด 40% ภายในปี 2030), ได้รับ Certify ISO 14064, ประหยัดพลังงาน และใช้รถ EV ให้มากขึ้น
# ด้านสังคม (Social : S) ได้มีการฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพใหม่ให้กับชุมชนหลักสี่และดอนเมือง, ทำห้องฟิตเนสสำหรับพนักงาน DMT, จัดงานวันเด็กและแจกของเล่นกว่า 1,700 ชิ้น, แจกของรางวัลให้กับ DMT Members,ส่งเสริมกิจกรรมสีเขียว เช่น การรีไซเคิลผลิตภัณฑ์และการใช้ประโยชน์จากของเสียทางการเกษตร เป็นต้น
# ด้านธรรมาภิบาล (Governance : G) บริษัทได้รับรางวัล TCC BEST AWARDS 2023 และ SustainabilityDisclosure Acknowledgement 2023และในเดือนก.พ.24 ได้รับ Good Labor Practices: GLP

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@th.dbs.com : Tel. 02 857 7829