News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

6 มี.ค. 2567 08:49:34 214

Market Wrap-Up

SET วันที่ 5 มี.ค.67 ปิด -3.33 จุด อยู่ที่ 1,359.26 จุด มูลค่าการซื้อขาย 39,683 ลบ.ต่างชาติขาย 2,918 ลบ.สถาบันซื้อ 904 ลบ.พอร์ตโบรกซื้อ 26 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 2,287 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้น DELTA,TISCO,CPALL,HANA,CBG และมียอดขายสุทธิ LH,ADVANC,BDMS,KBANK,KTB มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 5,503 ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ AWC-R,BBL,QH-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 6,659 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 93,567 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 808 ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -1.04%, S&P500 -1.02%, Nasdaq -1.65% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี -1.2%, สินค้าฟุ่มเฟือย -1.3% ขณะที่พลังงาน +0.7%, สินค้าอุปโภค +0.3% ส่วนรายงานคำสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงาน ม.ค. -3.6% & ธ.ค. -0.3% MoM ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.23% จากแรงขายกลุ่มทรัพยากร, สินค้าหรูหรา หลังจีนยังไม่ออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีปรับลดลงตามตลาดสหรัฐ

Market View

ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยีที่ Outperform ปีนี้ +6.1% YTD จากอุปสงค์ชิป AI โดยนักลงทุนเลือกลดความเสี่ยงก่อน เจอโรม พาวเวล จะแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสในวันนี้ – พรุ่งนี้ และวันศุกร์รายยงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร ก.พ. คาด 190,000 & ม.ค. 353,000 ราย และอัตราว่างงาน ก.พ. คาดทรงตัวอยู่ที่ 7% เพื่อประเมินโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุม 12 มิ.ย. ซึ่ง CME Fed Watch คาดมีโอกาสเกิดขึ้น 59.3%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มเหมืองแร่, สินค้าหรูหรา หลังนายก ฯ จีนเผยยังไม่ใข้ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในปีนี้ ขณะที่ PPI ยูโรโซน ม.ค. -8.6% & คาด -8.1% YoY ช่วยหนุนโอกาส ECB จะลดดอกเบี้ยในปีนี้ โดยค่ำวันพรุ่งนี้ติดตามการประชุม ECB คาดยังคงดอกเบี้ยเงินฝากที่ 4 % และประเมินโอกาสจะเริ่มลดดอกเบี้นใน มิ.ย. หรือไม่
ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ทรงตัวรอถ้อยแถลงของพาวเวล และตัวเลขจ้างงานสหรัฐ ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.28% หลังการประชุมสภาประชาชนจีนเผยเป้าหมาย GDP จีนปีนี้คาด 5%, ขาดดุลงบประมาณ 3% ต่อ GDP, วงเงินซื้อพันธบัตรท้องถิ่น 3.9 ลล.หยวน และคาด CPI จีนปีนี้ +3%, อัตราว่างงานในเขตเมืองทรงตัว 5.5% โดยยังไม่มี ม.กระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่
ดัชนี SET วานนี้ -0.24% ปริมาณการซื้อขาย 3.96 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 2,918 ลบ. สถาบันซื้อ 904 ลบ. รายย่อยซื้อ 1,987 ลบ. โดยกลุ่มปรับลดลง คือ อิเล็ก ฯ -1.89% โดย DELTA -2.24% เนื่องจากราคาหุ้นค่อนข้างสูงเทรดที่ P/E 44.3 เท่า ขณะที่กลุ่มวัสดุก่อสร้าง -0.84% หลังจีนยังไม่ออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ส่วนกลุ่มช่วยหนุนดัชนี คือ ค้าปลีก, ท่องเที่ยว และ รพ. หลัง ททท.เผยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ม.ค.- ก.พ. รวมอยู่ที่ 6.38 ล.คน +50% YoY ส่วน ก.พาณิชย์เผย CPI ไทย ก.พ. -0.77% & คาด -0.8% YoY ลดลงเป็นเดือนที่ 5 เป็นผลจากราคาอาหารสดลดลง และ ม.ช่วยเหลือภาครัฐด้านพลังงาน โดยคาดเงินเฟ้อไทยจะยังชะลอตัวจนถึง เม.ย. และ Q1/67 คาดเงินเฟ้อที่ -0.7% ถึง -0.8% บ่งชี้โอกาส กนง.มีโอกาสลดดอกเบี้ยในครึ่งปีหลัง หาก ธ.กลางหลัก ๆ เริ่มลดดอกเบี้ย

Daily Strategy

ประเมินดัชนี SET เคลื่อนในกรอบแนวรับ 1,340 – 1,350 แนวต้าน 1,370 รอรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐในวันศุกร์ เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ แนะนำทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีกCPALL,CPAXT / ท่องเที่ยว AOT,AAV,MINT / รพ. BDMS,BH / เครื่องดื่ม ICHI,SAPPE,TACC/ เก็งกำไร LANNA, SJWD มีสัญญาณบวกทางเทคนิค
SAPPE* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 101.00 บาท) ผู้บริหารคาดรายได้ใน 1Q67 เติบโตได้ราว 20-25%YoY หนุนจากรายได้ลูกค้าตะวันออกกลางเนื่องจากเข้าสู่ช่วงรอมฎอน ส่วนการเติบโตในปี 2567 โดยผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 67 เติบโต 20-25%YoY จากการขยายไลน์ผลิตและแผนออกสินค้าใหม่ ซึ่งตลาดส่งออก (สัดส่วนรายได้ 75%) ยังเป็นตัวขับเคลื่อนหลักทั้งในยุโรปและอเมริกา ประกอบกับการเพิ่มประสิทธิภาพ ณ สิ้น 1Q67 จะเริ่มดำเนินการสายการผลิตใหม่ เพิ่มกำลังการผลิตอีกประมาณ 25% หรือ 44,000 ตันต่อปี ทั้งนี้ตลาดคาดการณ์กำไรปี 67 ที 26 พันล้านบาท +18%YoY และปี 68 ที่ 1.43 พันล้านบาท +13%YoY
BDMS (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย 35.00 บาท) BDMS วางเป้า 3 ปี รายได้เติบโตที่ CAGR +10% จำนวนเตียงที่ 9,300 เตียงในปี2027(จาก 23 ที่ 8,600 เตียง) Rate ที่ 75% และ EBITDA Margin ที่ 25% โดยในปี24 นี้ คาดจำนวนเตียงจะเพิ่มขึ้นราว 213 เตียง(ร.พ.พญาไทยศรีราชา 2/ ร.พ.เด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล) คาดรายได้ +10-12%YoY (สูงกว่าประมาณการของเราที่ +8.5%YoY ) วางเป้าผู้ประกันตนSSO ปีนี้ที่ 9แสนราย และปีหน้า 1ล้านราย (โควต้า 1.5 ล้านราย) สำหรับแนวโน้มระยะสั้น รายได้(1ม.ค.-21ก.พ.67) ยัง +11%YoY ฝั่งไทยได้แรงหนุนจากกลุ่มผู้ป่วยทางเดินหายใจและเด็ก ส่วนฝั่งต่างชาติได้แรงหนุนจากจีน ทั้งนี้ ปัจจุบัน เราวางกำไรสุทธิปี24 และ ปี25 ที่ 15,824 ลบ.( +10.08%YoY) และ 16,983 ลบ.(+7.32%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI เม.ย. -$0.59 อยู่ที่ $78.15/บาร์เรล Brent พ.ค. -$0.76 อยู่ที่ $82.04/บาร์เรล กังวลอุปสงค์จากจีนฟื้นตัวช้า หลังนายก ฯ จีนเผยยังไม่ใช้ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ส่วน API รายงาสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 423,000 บาร์เรล น้อยกว่าคาดที่ 2.6 ล.บาร์เรล

Gold Update(+) Comex Gold เม.ย.+$15.60 อยู่ที่ $2,141.90 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.03% อยู่ที่ 103.799 และคาดหวังเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยในการประชุม มิ.ย. นี้

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ
-124.57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -81.51 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -48.57 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +5.51 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 35.84 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.163 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -6 จุด อยู่ที่ 2,291

(-) BitCoin เช้านี้ -6.57% อยู่ที่ 63,621 ดอลลาร์สหรัฐ

Economic Calendar

ในประเทศ

04 มี.ค. สศช.แถลง "รายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสสี่และภาพรวมปี 2566"

05 มี.ค. สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนี

เศรษฐกิจการค้า

สภาผู้ส่งออก แถลงสถานการณ์การส่งออก

สัปดาห์ที2 ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)

หอการค้าไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

ต่างประเทศ

05 มี.ค. US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (ก.พ.)

06 มี.ค. US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)(ก.พ.)

US คำแถลงการณ์ของพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ

US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs (ม.ค.)

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

07 มี.ค. EU การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย (มี.ค.)

EU การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของธนาคารกลางแห่งยุโรป

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

08 มี.ค. US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) (ก.พ.)

US การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (ก.พ.)

US อัตราการว่างงาน (ก.พ.)

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตัวรับความหวังเศรษฐกิจจีนเริ่มดีขึ้น ลุ้น Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย

(1)กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, HMPRO*, ILM*, CPN*, CRC, MC*, KAMART*, CBG*, ICHI*, RBF*

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัวจากฐานต่ำปี66 AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, SAPPE*, DELTA, KCE*, EPG*, NYT*, SJWD*

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ เริ่มลดลง BGRIM*, GPSC*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA, SUSCO*

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio March 2024: GFPT*, BDMS, BSRC*, CPALL, AAV*

Analysts

Apichai Raomanachai