Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

169

 

รอ ยากระตุ้น
สศช. แถลงภาวะสังคม 3Q66 พบว่าตัวเลขหนี้ครัวเรือนปรับขึ้นไปที่ 16.2 ล้านล้านบาท คิดเป็น 90.9% ของ GDP ขณะที่คุณภาพสินเชื่อด้อยลงทุกประเภทสินเชื่อ บ่งชี้ถึงความเสี่ยงของการบริโภคภาคครัวเรือน (CONSUMPOTION) ที่อาจชะลอตัวลงในอนาคต และด้วยสถานะดังกล่าว เราเชื่อว่าน่าจะทำให้เห็นมาตรการกระตุ้นออกมาจากภาครัฐ หลังจากที่งบประมาณปี 2567 สามารถเบิกจ่ายได้ในช่งครึ่งหลังของเดือน เม.ย. 67 ทำให้รัฐบาลสามารถใช้เม็ดเงินผ่านมาตรการการคลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม ในอีกมุมหนึ่งก็มีโอกาสที่จะเห็นแรงกระตุ้นผ่านมาตการการเงินอีกส่วนหนึ่ง โดยแรงผลักดันน่าจะมาจากตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.พ.67 ที่จะประกาศในเช้าวันนี้ โดยคาดว่าจะ -0.8%YOY หากเห็นแรงกระตุ้นจากทั้ง 2 ส่วนออกมาในช่วงเดือน เม.ย.67 ก็น่าจะทำให้ตลาดหุ้นตอบสนองในเชิงบวกได้ แต่อย่างไรก็ตามระยะสั้นยังคงต้องอดทนรอแรงขับเคลื่อนจากปัจจัยพื้นฐานยังไม่ชัดเจน โดยอาจต้องรอมาตรการต่างๆออกมากระตุ้นในช่วงเดือน เม.ย. ส่วนวันนี้ประเมินว่า SET INDEX น่าจะอยู่ในกรอบ 1360 –1373 จุด หุ้น TOP PICK เลือก ADVANC, PTTGC และTASCO

 

ตลาดหุ้นสหรัฐฯเริ่มผันผวน ส่วนไทยรอลุ้นตัวเลข CPI เช้านี้
คืนที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลงทุกดัชนีในช่วงติดลบ 0.1% ถึง 0.41% ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากที่นักลงทุนรอถ้อยคำแถลงของประธาน FED ในงานประชุมสภาคองเกรสสหรัฐในวันพุธ และ พฤหัสฯนี้โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ประธาน FED จะยังคงรอดูข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆ ก่อนการกำหนดนโยบายการเงินในระยะถัดไปหลังจากที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ส่วนกรอบเวลาการปรับลดดอกเบี้ย ในมุมมองของFED WATCH TOOL คาด FED มีโอกาสสูงถึง 97%และ 78%ที่จะตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.5% ในการประชุมรอบเดือน มี.ค.67 และ พ.ค.67ตามลำดับ และมีความน่าจะเป็นเกินครึ่ง(53%) ที่อาจเห็นการปรับลดดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.67


ส่วนตลาดหุ้นไทย วานนี้ปรับตัวลง 4.85 จุดปิดที่ระดับ 1362.57 จุดจากความผิดหวังเรื่องก าไรบริษัทจดทะเบียน 4Q66 ที่ออกมาต่ำคาด ซึ่งเช้านี้นักลงทุนรอการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.พ.67 ที่ตลาดคาดไว้ที่ -0.8%YOY(ติดลบ YOY เป็นเดือนที่ 5ติดต่อกัน) ซึ่งอาจสะท้อนได้ว่าเศรษฐกิจไทยเสี่ยงซบเซา และต้องการแรงกระตุ้นจากนโยบายการคลัง และการเงิน ดังนั้นนี่อาจเป็นหนึ่งสิ่งที่เป็นแรงกระตุ้นให้ กนง.ใช้นโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายในระยะถัดไป

ซึ่งหากพิจารณาในมุมของหุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยขาลงอย่าง หุ้นกลุ่ม FIN จะเห็นได้ว่าช่วงการเริ่มต้นลดดอกเบี้ย มักจะเป็นจุดเริ่มต้นการขึ้นรอบใหญ่ของหุ้นกลุ่ม FIN เสมอ ดังนั้นนี่อาจเป็นจังหวะหาโอกาสเข้าเก็งกำไร KTC, AEONTS,TIDLOR, MTC, SAWAD ได้


โดยสรุปภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐฯที่เริ่มผันผวน เนื่องจากรอการก าหนดนโยบายทางการเงินระยะถัดไปของประธาน FED ส่วนไทยรอตัวเลขเงินเฟ้อเช้านี้ ซึ่งหากตัวเลขออกมาตามคาด นั้นจะเป็นจุดบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจไทยเสี่ยงซบเซา และอาจเป็นหนึ่งสิ่งที่เป็นแรงกระตุ้นให้ กนง.ใช้นโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายในระยะถัดไป ซึ่งหุ้นที่คาดได้ประโยชน์ในภาวะดอกเบี้ยขาลง คือ หุ้นกลุ่ม FIN ซึ่งฝ่ายวิจัยฯชื่นชอบ MTC TIDLOR มากสุดในกลุ่มฯ

รอแรงกระตุ้นเศรษฐกิจ เรียกความเชื่อมั่นกลับมา
การกระตุ้นเศรษฐกิจจีนในช่วงปีที่ผ่านมา ถือแม้จะมีการอัดฉีดผ่านนโยบานการเงินมากขึ้น แต่กระตุ้นผ่านนโยบานการคลังยังดูไม่หวือหวา โดยสัดส่วนงบประมาณขาดดุลต่อ GDP สูงกว่าเป้าหมายที่ 3% จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดันให้เศรษฐกิจจีนยังฟื้นตัวกลับมาได้ไม่เต็มที่ นอกจากกนี้ยังส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของจีนอยู่ในระดับต่ ากว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19


ภาพรวมเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวได้ อาจสะท้อนถึงความจำเป็นมาตรกระตุ้นให้มากขึ้นในระยะข้างหน้า เพื่อหนุนให้ GDP GROWTH บรรลุเป้าหมาย ซึ่งในการประชุมสองสภาประจำปี 2567 ได้เริ่มตั้งแต่ 4 – 11 มี.ค. ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้จะเป็นการเริ่มประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) โดยน่าจะมีการประกาศทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในปีหน้า ทั้งนี้ BLOOMBERG ได้คาดการณ์ว่ารัฐบาลจีนจะกำหนดกรอบการเติบโตเศรษฐกิจปีนี้ไว้ราว 5% เท่ากับปีก่อน


ในส่วนของภาพรวมเศรษฐกิจนบ้านเราที่ขยายตัวต่ าในช่วงที่ผ่านมา ยังสะท้อนถึงปัญหาหนี้ครัวเรือน/GDP ที่อยู่ในระดับสูง โดยใน 3Q66 มีสัดส่วนราว 90.9% ซึ่งหนี้จำนำทะเบียนรถยอดพุ่ง 40.2% เป็นหนี้กู้ง่ายดอกเบี้ยสูง บ่งชี้ครัวเรือนขาดสภาพคล่อง อีกทั้งหนี้ NPL ใน 3Q66 ยังขยายตัวสูงถึง 7.9% หากมองไปข้างหน้าทำให้มีความคาดหวังว่าภาครัฐจะเร่งแก้ปัญหา รวมถึงการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่งบประมาณปี 67 ที่ให้เร่งให้เร็วขึ้นในเดือน เม.ย. น่าจะเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนให้กลับมาได้บ้าง


หวังแรงกดจาก FUND FLOW จะเบาลง
ช่วงโค้งสุดท้ายของการรายงานงบ 4Q66 (23 ก.พ. – 1 มี.ค.) ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 8.6 พันล้านบาท พร้อมกับชอร์ตสุทธิ SET50 FUTURES สูงถึง 9.6 หมื่นสัญญา กดดันให้ SET INDEX ที่เคยอยู่เหนือ 1400 จุด ย่อลงมาเรื่อยๆ อยู่ที่ 1367จุด


อย่างไรก็ตามหลังจากการรายงานงบ 4Q66 เสร็จสิ้น วานนี้เริ่มเห็นการกลับมาซื้อสุทธิ SET50 FUTURES ด้วยปริมาณที่สูงถึง 2.8 หมื่นสัญญา และแรงขายหุ้นที่เบาลง -583 ล้านบาท

แรงกดดันจากนักลงทุนต่างชาติน่าจะค่อยๆ เบาลงหลังผ่านมรสุมมามาก และคาดหวัง FUND FLOW จะค่อยๆ ทยอยกลับมาซื้อหุ้นไทยในระยะถัดไป หากแนวโน้มนโยบายการเงินและการคลังทยอยออกมาในเดือน เม.ย. 67 ชัดขึ้น รวมถึงการสร้างเสถียรภาพให้ตลาดหลักทรัพย์จากทางการ รวมถึงการเพิ่มชั่วโมงซื้อขายตอนบ่ายครึ่งชัวโมง ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 67 เป็นต้นไป


บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส

เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม, CISA
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

หุ้นใหญ่ฟื้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองเห็นหุ้นใหญ่หลายตัว ฟื้นตัว เนื้อตัวเต็มไปด้วยแสง สีเขียว ตามตลาดสหรัฐบวก ....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้