News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

4 มี.ค. 2567 08:59:19 301

Market Wrap-Up

SET วันที่ 1 มี.ค.67 ปิด -3.25 จุด อยู่ที่ 1,367.42 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,556 ลบ.ต่างชาติขาย 831 ลบ.สถาบันซื้อ 1,034 ลบ.พอร์ตโบรกขาย 742 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 1,150 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้น TRUE,IVL,SCB,BBL,BDMS และมียอดขายสุทธิ KBANK,AOT,OSP,BANPU,PTTEP มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 5,598 ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ JAPAN13,AWC-R,AEONTS-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 18,764 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 115,243 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 2,237 ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.23%, S&P500 +0.80%, Nasdaq +1.14% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +1.78%, ดัชนีเซมิคอนดักเตอร์ตลาดฟิลาเดลเฟีย +4.3% นำโดย Nvidia, AMD ขณะที่ ม.มิชิแกนเผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ ก.พ. ชะลอตัวอยู่ที่ 9 &คาด 79.6 ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.6% นำโดยกลุ่มอสังหา, เทคโนโลยี และพลังงาน

Market View

DJIA -0.11%, S&P500 +0.95%, Nasdaq +1.74% WoW โดย S&P500, Nasdaq ทำจุดสูงสุด ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย Nvidia +4.4% WoW มีมูลค่าตลาดสูงกว่า 2 ลล.ดอลลาร์ จากอุปสงค์ชิป Ai อยู่ระดับสูง ขณะที่ US PCE ม.ค. ชะลออยู่ที่ 4% & ธ.ค. 2.6% YoY ปรับขึ้นน้อยสุดรอบ 3 ปี ส่งผลให้ CME Fed Watch ชี้โอกาส 63.3% เฟดจะลดดอกเบี้ยใน มิ.ย. สัปดาห์นี้ 6 – 7 มี.ค. เจอโรม พาวเวล จะแถลงนโยบายเศรษฐกิจ & การเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรส และ 8 มี.ค. รายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร ก.พ. คาด 200,000 & ม.ค. 353,000 ราย และอัตราว่างงาน ก.พ. คาดทรงตัวอยู่ที่ 3.7%
Stoxx600 +0.06% WoW ขณะที่ดัชนี DAX เยอรมันทำจุดสูงสุดใหม่ ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี & พลังงาน ขณะที่รายงาน CPI ยูโรโซน ก.พ. ชะลอตัวอยู่ที่ 6% & ม.ค. 2.8% แต่สูงกว่าคาดที่ 2.5% YoY สัปดาห์นี้ติดตามการประชุม ECB วันที่ 7 มี.ค. ซึ่ง Goldman Sachs คาด ECB จะลดดอกเบี้ยใน มิ.ย. จากเดิมคาด เม.ย.
MSCI Asia Pacific Index -0.26 % WoW ระหว่างรอ US PCE ม.ค. และ CPI ยูโรโซน ก.พ. ก่อนการประชุม ECB วันที่ 7 มี.ค. , FED วันที่ 20 มี.ค. ขณะที่รายงาน PMI รวมภาคผลิต & บริการจีน ก.พ. ทรงตัวอยู่ที่ 9 ได้แรงหนุนจากภาคบริการจีนฟื้นตัวดีในช่วงตรุษจีน โดยวันอังคารเริ่มการประชุมสภาประชาชนจีนครั้งที่ 14 เพื่อติดตาม ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจีน
SET -2.2% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 85 หมื่น ลบ. +23.5% WoW ต่างชาติขาย 6.7 พัน ลบ. รายย่อยซื้อ 6.4 พัน ลบ. สถาบันซื้อ 417 ลบ. กลุ่มที่ปรับลดลง คือ อิเล็ก ฯ -7.7% หลังกำไร Q4/66 ของ DELTA,HANA ต่ำกว่าคาด, กลุ่มบรรจุภัณฑ์ -5.0% จากอุปสงค์จากจีนยังฟื้นตัวช้า และโรงไฟฟ้า -4.3% ถูกกดดันจาก US Bond Yield คาดยังทรงตัวระดับสูงจนถึง มิ.ย. นี้ ขณะที่กลุ่มปรับขึ้น คือ ขนส่ง, ท่องเที่ยวหลังจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก.พ. คาดอยู่ระดับ 3 ล.คน ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และเริ่มเปิดฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีนใน มี.ค. โดยภาพรวมดัชนี SET ถูกกดดันจากกำไร บจ. Q4/66 -37.5% QoQ เป็นผลจากการตั้งสำรองด้อยค่าของ บจ.ใหญ่ เช่น TU,EGCO,IVL,TRUE กอปรกับ Fund Flow ต่างชาติสัปดาห์ก่อนขายสุทธิ -358.3 ล.ดอลลาร์ หลังตลาดคาดเฟดเลื่อนการเริ่มดอกเบี้ยออกไปในการประชุม มิ.ย. วันนี้ติดตาม CPI ไทย ก.พ. คาด -0.8% & ม.ค. -1.11% YoY เพื่อประเมินโอกาสลดดอกเบี้ยของ กนง.

Daily Strategy

ประเมินดัชนี SET เคลื่อนในกรอบแนวรับ 1,350 – 1,360 แนวต้าน 1,380 รอรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐในวันศุกร์ เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ แนะนำทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT,CRC/ ขนส่ง AOT,AAV,BA/ เครื่องดื่ม ICHI,SAPPE,TACC
TACC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 7.45 บาท) งวด 4Q66 รายงานกำไรสุทธิ 59 ล้านบาท +13%QoQ, +33%YoY หากตัดรายการด้วยค่าเงินลงทุน กำไรปกติดีกว่าที่ตลาดคาด ส่วนภาพรวมในปี 66 บริษัทมีรายได้รวม 7 พันล้านบาท +12%YoY และมีกำไรสุทธิ 207 ล้านบาท -12%YoY ทั้งนี้ในปี 67 คาดกำไรปกติจะฟื้นตัว โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ +10%YoY หนุนจากการเติบโตตาม 7-Eleven ทั้งในและต่างประเทศ การออกสินค้าใหม่ตามฤดูกาล และขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้ง B2B และ B2C ขณะที่ส่วนแบ่งขาดทุนจาก TCI (ธุรกิจกัญชง) จะหมดไปหลังทำรายการขายเสร็จ ซึ่งปกติมีผลขาดทุนอยู่ปีละ 10 ล้านบาท จากแนวโน้มที่ผ่านช่วงแย่ไปแล้ว รวมถึงการตัดขายธุรกิจไม่ทำกำไรออกไป จะทำให้ฐานะทางการเงินดีขึ้น ตลาดคาดกำไรปี 67-68 ที่ 231 ล้านบาท +12%YoY และ 253 ล้านบาท +10%YoY
GFPT* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 13.90 บาท) กำไรสุทธิ 4Q66 อยู่ที่ 410 ลบ. +29%QoQ -9%YoY โดยการดำเนินงานหลัก YoY(ทั้งราคาไก่ลง ตัวเลขส่งออกลง) ยังหดตัว เเต่ภาพ QoQ เเม้ 4Q66 ราคาไก่ไทยจะปรับตัวลดลง แต่มีปัจจัยบวกจากตัวเลขส่งออกที่สูงขึ้นทั้งตัวรายได้ไก่ดิบ และส่วนแบ่งกำไร จาก ไก่ปรุงสุกของ McKey ส่วนแนวโน้ม 1Q67 เบื้องต้นคาดยังมีแรงหนุนจากการส่งออกที่จะดีขึ้นโดยเฉพาะการส่งออกไปยุโรปจากกความขัดแย้งในทะเลแดง ทั้งนี้ตลาดคาดว่าในปี67 และ68 กำไรสุทธิของ GFPT* จะอยู่ที่ระดับ 1,506 ลบ.(+9.41%YoY) และ 1,661 ลบ.(+10.32%YoY) ตามลำดับ

Market Wrap-Up

SET วันที่ 1 มี.ค.67 ปิด -3.25 จุด อยู่ที่ 1,367.42 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,556 ลบ.ต่างชาติขาย 831 ลบ.สถาบันซื้อ 1,034 ลบ.พอร์ตโบรกขาย 742 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 1,150 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้น TRUE,IVL,SCB,BBL,BDMS และมียอดขายสุทธิ KBANK,AOT,OSP,BANPU,PTTEP มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 5,598 ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ JAPAN13,AWC-R,AEONTS-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 18,764 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 115,243 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 2,237 ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.23%, S&P500 +0.80%, Nasdaq +1.14% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +1.78%, ดัชนีเซมิคอนดักเตอร์ตลาดฟิลาเดลเฟีย +4.3% นำโดย Nvidia, AMD ขณะที่ ม.มิชิแกนเผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ ก.พ. ชะลอตัวอยู่ที่ 9 &คาด 79.6 ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.6% นำโดยกลุ่มอสังหา, เทคโนโลยี และพลังงาน

Market View

DJIA -0.11%, S&P500 +0.95%, Nasdaq +1.74% WoW โดย S&P500, Nasdaq ทำจุดสูงสุด ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย Nvidia +4.4% WoW มีมูลค่าตลาดสูงกว่า 2 ลล.ดอลลาร์ จากอุปสงค์ชิป Ai อยู่ระดับสูง ขณะที่ US PCE ม.ค. ชะลออยู่ที่ 4% & ธ.ค. 2.6% YoY ปรับขึ้นน้อยสุดรอบ 3 ปี ส่งผลให้ CME Fed Watch ชี้โอกาส 63.3% เฟดจะลดดอกเบี้ยใน มิ.ย. สัปดาห์นี้ 6 – 7 มี.ค. เจอโรม พาวเวล จะแถลงนโยบายเศรษฐกิจ & การเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรส และ 8 มี.ค. รายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร ก.พ. คาด 200,000 & ม.ค. 353,000 ราย และอัตราว่างงาน ก.พ. คาดทรงตัวอยู่ที่ 3.7%
Stoxx600 +0.06% WoW ขณะที่ดัชนี DAX เยอรมันทำจุดสูงสุดใหม่ ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี & พลังงาน ขณะที่รายงาน CPI ยูโรโซน ก.พ. ชะลอตัวอยู่ที่ 6% & ม.ค. 2.8% แต่สูงกว่าคาดที่ 2.5% YoY สัปดาห์นี้ติดตามการประชุม ECB วันที่ 7 มี.ค. ซึ่ง Goldman Sachs คาด ECB จะลดดอกเบี้ยใน มิ.ย. จากเดิมคาด เม.ย.
MSCI Asia Pacific Index -0.26 % WoW ระหว่างรอ US PCE ม.ค. และ CPI ยูโรโซน ก.พ. ก่อนการประชุม ECB วันที่ 7 มี.ค. , FED วันที่ 20 มี.ค. ขณะที่รายงาน PMI รวมภาคผลิต & บริการจีน ก.พ. ทรงตัวอยู่ที่ 9 ได้แรงหนุนจากภาคบริการจีนฟื้นตัวดีในช่วงตรุษจีน โดยวันอังคารเริ่มการประชุมสภาประชาชนจีนครั้งที่ 14 เพื่อติดตาม ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจีน
SET -2.2% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 85 หมื่น ลบ. +23.5% WoW ต่างชาติขาย 6.7 พัน ลบ. รายย่อยซื้อ 6.4 พัน ลบ. สถาบันซื้อ 417 ลบ. กลุ่มที่ปรับลดลง คือ อิเล็ก ฯ -7.7% หลังกำไร Q4/66 ของ DELTA,HANA ต่ำกว่าคาด, กลุ่มบรรจุภัณฑ์ -5.0% จากอุปสงค์จากจีนยังฟื้นตัวช้า และโรงไฟฟ้า -4.3% ถูกกดดันจาก US Bond Yield คาดยังทรงตัวระดับสูงจนถึง มิ.ย. นี้ ขณะที่กลุ่มปรับขึ้น คือ ขนส่ง, ท่องเที่ยวหลังจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก.พ. คาดอยู่ระดับ 3 ล.คน ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และเริ่มเปิดฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีนใน มี.ค. โดยภาพรวมดัชนี SET ถูกกดดันจากกำไร บจ. Q4/66 -37.5% QoQ เป็นผลจากการตั้งสำรองด้อยค่าของ บจ.ใหญ่ เช่น TU,EGCO,IVL,TRUE กอปรกับ Fund Flow ต่างชาติสัปดาห์ก่อนขายสุทธิ -358.3 ล.ดอลลาร์ หลังตลาดคาดเฟดเลื่อนการเริ่มดอกเบี้ยออกไปในการประชุม มิ.ย. วันนี้ติดตาม CPI ไทย ก.พ. คาด -0.8% & ม.ค. -1.11% YoY เพื่อประเมินโอกาสลดดอกเบี้ยของ กนง.

Daily Strategy

ประเมินดัชนี SET เคลื่อนในกรอบแนวรับ 1,350 – 1,360 แนวต้าน 1,380 รอรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐในวันศุกร์ เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ แนะนำทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT,CRC/ ขนส่ง AOT,AAV,BA/ เครื่องดื่ม ICHI,SAPPE,TACC
TACC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 7.45 บาท) งวด 4Q66 รายงานกำไรสุทธิ 59 ล้านบาท +13%QoQ, +33%YoY หากตัดรายการด้วยค่าเงินลงทุน กำไรปกติดีกว่าที่ตลาดคาด ส่วนภาพรวมในปี 66 บริษัทมีรายได้รวม 7 พันล้านบาท +12%YoY และมีกำไรสุทธิ 207 ล้านบาท -12%YoY ทั้งนี้ในปี 67 คาดกำไรปกติจะฟื้นตัว โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ +10%YoY หนุนจากการเติบโตตาม 7-Eleven ทั้งในและต่างประเทศ การออกสินค้าใหม่ตามฤดูกาล และขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้ง B2B และ B2C ขณะที่ส่วนแบ่งขาดทุนจาก TCI (ธุรกิจกัญชง) จะหมดไปหลังทำรายการขายเสร็จ ซึ่งปกติมีผลขาดทุนอยู่ปีละ 10 ล้านบาท จากแนวโน้มที่ผ่านช่วงแย่ไปแล้ว รวมถึงการตัดขายธุรกิจไม่ทำกำไรออกไป จะทำให้ฐานะทางการเงินดีขึ้น ตลาดคาดกำไรปี 67-68 ที่ 231 ล้านบาท +12%YoY และ 253 ล้านบาท +10%YoY
GFPT* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 13.90 บาท) กำไรสุทธิ 4Q66 อยู่ที่ 410 ลบ. +29%QoQ -9%YoY โดยการดำเนินงานหลัก YoY(ทั้งราคาไก่ลง ตัวเลขส่งออกลง) ยังหดตัว เเต่ภาพ QoQ เเม้ 4Q66 ราคาไก่ไทยจะปรับตัวลดลง แต่มีปัจจัยบวกจากตัวเลขส่งออกที่สูงขึ้นทั้งตัวรายได้ไก่ดิบ และส่วนแบ่งกำไร จาก ไก่ปรุงสุกของ McKey ส่วนแนวโน้ม 1Q67 เบื้องต้นคาดยังมีแรงหนุนจากการส่งออกที่จะดีขึ้นโดยเฉพาะการส่งออกไปยุโรปจากกความขัดแย้งในทะเลแดง ทั้งนี้ตลาดคาดว่าในปี67 และ68 กำไรสุทธิของ GFPT* จะอยู่ที่ระดับ 1,506 ลบ.(+9.41%YoY) และ 1,661 ลบ.(+10.32%YoY) ตามลำดับ

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตัวรับความหวังเศรษฐกิจจีนเริ่มดีขึ้น ลุ้น Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย

(1)กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, HMPRO*, ILM*, CPN*, CRC, MC*, KAMART*, CBG*, ICHI*, RBF*

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัวจากฐานต่ำปี66 AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, SAPPE*, DELTA, KCE*, EPG*, NYT*, SJWD*

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ เริ่มลดลง BGRIM*, GPSC*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA, SUSCO*

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio March 2024: GFPT*, BDMS, BSRC*, CPALL, AAV*

Analysts

Apichai Raomanachai