News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

20 ก.พ. 2567 08:43:57 270

Market Wrap-Up

SET วันที่ 19 ก.พ.67 ปิด +1.06 จุด อยู่ที่ 1,387.33 จุด มูลค่าการซื้อขาย 31,776 ลบ.ต่างชาติซื้อ 1,223 ลบ.สถาบันขาย 683 ลบ.พอร์ตโบรกขาย 381 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 2,997 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้น SCC,DELTA,AOT,GULF,ADVANC และมียอดขายสุทธิ BCH,CPF,CPALL,AWC,SPRC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 3,795 ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ JAPAN13,CPF-R,LPN โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 14,341 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 39,456 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 196 ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปิดทำการในวันประธานาธิบดี ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.16% สูงสุดในรอบ 2 ปี ได้แรงหนุนจากกลุ่บริการสุขภาพ +1% หลังแอสตร้าเซนเนก้า +3.2% รับข่าว FDA สหรัฐอนุมัติยารักษามะเร็งปอด ขณะที่กลุ่มทรัพยากรพื้นฐาน -1% ตามราคาทองแดง หลัง ธ.กลางจีนคงดอกเบี้ย MLF 1 ปีที่ 2.5%

Market View

ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปิดในวัน Presidents’ Day หลังหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐปรับลดลง ตอบรับกับ US CPI, PPI ม.ค. สูงกว่าคาด ส่งผลให้เฟดอาจชะลอการลดดอกเบี้ยถึงเดือน มิ.ย. ประเด็นสำคัญวันพรุ่งนี้ติดตาม Fed Minutes ม.ค. เพื่อจับสัญญาณการลดดอกเบี้ย และกำไร Q4/66 ของ Nvidia คาด EPS ที่ $58 และวันพฤหัส PMI ภาคผลิตสหรัฐ เบื้องต้น ก.พ. คาด 50.1 & ม.ค. 50.7 , ภาคบริการ ก.พ. คาด 52.0 & ม.ค. 52.5
ตลาดหุ้นยุโรป +16% สูงสุดในรอบ 2 ปี แต่ดัชนี CAC-40 ฝรั่งเศสปิดทรงตัว หลังรัฐบาลคาด GDP ฝรั่งเศสปีนี้จะขยายตัว +1% เดิมคาด +1.4% เป็นผลจากสงครามยูเครน & กาซา รวมถึงอุปสงค์จากประเทศคู่ค้าชะลอตัว เช่นเดียวกับ DAX เยอรมัน -0.15% หลัง ธ.กลางเยอรมันคาดเศรษฐกิจมีโอกาสถดถอย เนื่องจากการบริโภค, การลงทุน, ส่งออกมีแนวโน้มชะลอตัว โดยวันพฤหัสติดตาม PMI ภาคการผลิต & บริการยูโรโซน ก.พ. คาด 48.5 & ม.ค. 47.9 และวันศุกร์ GDP เยอรมัน Q4/66 คาด -0.3% & Q3/66 -0.1% QoQ
ตลาดหุ้นฝั่งเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +1.56% หลังรายงานยอดเดินทาง & ใช้จ่ายท่องเที่ยวในช่วงตรุษจีนสูงกว่าช่วงก่อน Covid โดยมีการเดินทาง 474 ล.ครั้ง +19% และยอดใช้จ่ายอยู่ที่ 8.3 หมื่น ล.ดอลลาร์ +8% เมื่อกับปี 62 ซึ่งเป็นแนวโน้มบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ขณะที่ดัชนีนิเกอิ & ฮั่งเส็งปรับลดลงตามตลาดหุ้นสหรัฐ
ดัชนี SET วานนี้ +08% ปริมาณการซื้อขาย 31,776 ลบ. ต่างชาติซื้อ 1.2 พัน ลบ. สถาบันขาย 683 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 381 ลบ. ได้แรงหนุนจากกลุ่มเกษตรนำโดย STA ซึ่งแม้ว่ารายงานกำไรปี 66 จะขาดทุน แต่ยังได้ปัจจัยจากเงินปันผล 1.00 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield 5.4% กอปรราคายางพาราในตลาด Tocom ปรับสูงขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มอสังหา ฯ +0.75% ซึ่งเป็นกลุ่มมีจ่ายเงินปันผลสูง ขณะที่กลุ่มปรับลดลง คือ ค้าปลีก, อาหาร, ท่องเทียว หลังสภาพัฒน์เผย GDP ไทย Q4/66 +1.7% ต่ำกว่าคาด 2.5% YoY ส่งผลให้ทั้งปี 66 GDP ไทย +1.9% ต่ำกว่าเดิมคาด +2.5% เป็นผลจากการลงทุน & การบริโภคภาครัฐ และการส่งออกไทยหดตัว โดยคาด GDP ไทยปี 67 จะขยายตัวที่ระดับ 2.7% และเสนอแนะให้ ธปท. ใช้นโยบายด้านการเงินเข้าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น ลดดอกเบี้ย, เสริมสภาพคล่อง

Daily Strategy

ประเมินแนวรับ SET ที่ 1,375 – 1,380 แนวต้าน 1,390 – 1,400 อยู่ระหว่างรอรายงบ Q4/66 กอปรได้แรงหนุนจากการทยอยประกาศจ่ายเงินปันผล แนะนำทยอยซื้อค้าปลีก CPALL,CPN คาดฟื้นตัวตามกำลังซื้อ/ TU ปีนี้ไม่มีผลขาดทุนจาก Red lobster / SIRI, SC มีอัตราจ่ายเงินปันผลสูง
MASTER* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 78.50 บาท) บริษัทรายงานกำไร 9M66 ที่ 253 ล้านบาท +14%YoY แนวโน้มผลประกอบการ 4Q66 มีทิศทางเติบโตทำจุดสูงสุดของปี หนุนจากรายได้ที่เติบโตสูงในช่วง high season ส่งผลให้ U-rate ห้องผ่าตัดใหม่ดีขึ้น ซึ่งส่งผลบวกต่ออัตรากำไรขั้นต้น นอกจากนี้ยังมีการเริมรับรู้กำไรจากการเข้าลงทุนใน WIND Clinic / Rattinan Medical Center / Dr.Chen และ KIN Corp. ส่วนแนวโน้มปี 67 ผู้บริหารตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ +20% หนุนจากการเติบโตต่อเนื่องทั้ง Organic และ Inorganic ด้วยแผนกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) ซึ่งช่วงท้ายปีก่อนมีการเข้าลงทุนในคลินิกเสริมความงามอีกหลายแห่งที่จะเริ่มรับรู้ส่งแบ่งกำไรเข้ามาระหว่างปีทั้ง V Square / Dr. Top Hair, TYP, CMNH 2012, BEQ และยังมองหาดีลเพิ่มเติมโดยใช้แหล่งเงินทุนจากกระแสเงินสดภายในกิจการและเครื่องมือทางการเงิน รวมถึงมีแผนย้ายจาก mai เข้าไปใน SET ช่วงกลางปี 67
BDMS (ซื้อ/ ราคาเป้าหมายปี67 35.00 บาท) เบื้องต้น ประเมินกำไรสุทธิ 4Q66 ที่ 3,480 ลบ. (+11.79%YoY, -10.53%QoQ) ภาพ QoQ ปรับตัวลดลงตามปัจจัยฤดูกาล ส่วน YoY โตได้ดีจากการกลับมาของผู้ป่วยต่างชาติ และมีแรงหนุนจากกลุ่มผู้ป่วยทางเดินหายใจทั้งฝุ่น PM 2.5 /การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ส่วนประเด็นขับเคลื่อนการดำเนินงานในช่วงถัดไปปี67 คาดจะมาจาก 1.จำนวนเตียงที่สูงขึ้นราว 200 เตียง(ร.พ.พญาไทยศรีราชา 100 เตียง/ ร.พ.เด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล 100 เตียง) 2.การปรับเพิ่มโควตาประกันสังคมขึ้นเป็น 1.5 ล้านราย จากเดิม 1 ล้านราย 3.กลุ่มผู้ป่วยต่างชาติตลาดใหม่อย่างซาอุฯ และม.ภาครัฐฯที่อำนวยนักท่องเที่ยว(ฟรีวีซาจีน)

Daily Key Factors

Oil Update(+) สัญญาน้ำมันเช้านี้ WTI เม.ย. +$0.17 อยู่ที่ $78.40/บาร์เรล, Brent เม.ย. +$0.15 อยู่ที่ $83.51/บาร์เรล

Gold Update(-) Spot Gold เช้านี้ -0.05% อยู่ที่ $2,016.91/ออนซ์

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ
+93.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +33.95 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +53.81 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +6.05 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 36.13 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.315 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +19 จุด อยู่ที่ 1,629

(-) BitCoin เช้านี้ -1.19% อยู่ที่ 51,567 ดอลลาร์สหรัฐ

(0) เช้านี้ติดตาม ธ.กลางจีนประกาศดอกเบี้ย LPR อายุ 1ปี , 5 ปี

Economic Calendar

ในประเทศ

19 ก.พ. สภาพัฒน์ แถลงตัวเลข GDP ไตรมาส 4/66

21 ก.พ. รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ฉบับย่อ

29 ก.พ. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์

กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

สัปดาห์ที5 สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

ต่างประเทศ

19 ก.พ. US วันหยุด-วันคล้ายวันเกิดของวอชิงตัน

21 ก.พ. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (ม.ค.)

US รายงานการประชุม FOMC

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (ก.พ.)

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการ (ก.พ.)

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (ม.ค.)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

23 ก.พ. DEU ดัชนีจีดีพี (GDP) ของเยอรมนี (ไตรมาส 4/66)

JP วันหยุด-วันพระราชสมภพจักพรรดิ์ญี่ปุ่น

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตัวรับความหวังเศรษฐกิจจีนเริ่มดีขึ้น ลุ้น Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย

(1)กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, HMPRO*, ILM*, CPN*, CRC, MC*, KAMART*, CBG*, ICHI*, RBF*

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัวจากฐานต่ำปี66 AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, SAPPE*, DELTA, KCE*, EPG*, NYT*, SJWD*

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ เริ่มลดลง BGRIM*, GPSC*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA, SUSCO*

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio February 2024: MENA*, TU, MEGA*, SPA*, SNNP*, INTUCH*

Analysts

Apichai Raomanachai