สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(13 กุมภาพันธ์2567)------ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) KCE รายงานงบการเงินรวมงวดปี 2566 มีกำไรสุทธิ 1,719 ล้านบาท จากปีก่อนกำไรสุทธิ 2,317 ล้านบาท

ผลประกอบการของบริษัทและบริษัทย่อย ในปี 2566 ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวทำให้ความต้องการสินค้าอิเล็กทรนิกส์ทั่วโลกลดลงอย่างมากในช่วงครึ่งปีแรก และมีการปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยในช่วงไตรมาสที่ 3 แต่ก็ยังไม่กลับมาสู่ภาระปกติ แม้ว่าภาวะการณ์ขาดแคลนชิปและเซมิคอนดักเตอร์ที่ยึดเยื้อในปีก่อนจะดีขึ้นแล้ว แต่อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ก็ต้องปรับตัวกับ สินค้าคงค้างที่สูงมากในสต็อคสินค้าโดยที่ความต้องการสินค้าลดลง อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกและนโยบายการเงินของประเทศ คือ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ที่มีความผันผวนมากโดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 1 บริษัทต้องปรับแผนการบริหารในระหว่างปีเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงต่งๆ โดยเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงการสื่อสารและประสานงานกับคู่ค้า ทั้งลูกค้าและ suppliers เพื่อปรับแผนร่วมกัน ทั้งนี้ยังมีปัยจัยที่ส่งผลบวกมาช่วยบรรเทาความรุนแรงของผลกระทบ คือ ราคาวัตถุดิบหลัก ได้แก่ทองแดงมีการปรับตัวลดลง ส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนี้ ค่าไฟฟ้า ต้นทุนหลักของการผลิต ซึ่งมีการปรับอัตราขึ้นอย่างมากตั้งแต่ปี 2565 ต่อเนื่องมาถึงครึ่งปีแรกของปี 2566 ได้มีการปรับลดอัตราลงในช่วงครึ่งปีหลัง ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นในช่วงครึ่งปีหลังปรับดีขึ้นกว่าในช่วงครึ่งปีแรก

อย่างไรก็ดีในปี 2566 จากสถานการณ์การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกมีหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อยอดขายและตันทุนของสินค้าอย่างมาก บริษัทต้องปรับกลยุทธ์ในการบริหาร การลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและลดตั้นทุนผลิต รวมถึงควบคุมคำใช้จ่ยต่างๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเหมาะสม โดยบริษัทมีผลประกอบการเป็นกำไรสุทธิจำนวน 1,719.6 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 10.5 ของยอดขาย เปรียบเทียบกับผลประกอบการในปี 2565 ที่มีกำไรสุทธิจำนวน 2,317.2 ล้นบาท หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ12.6

จากผลของต้นทุนที่สูงขึ้น ตามที่กล่าวข้างต้น ส่งผลให้ปี 2566 กลุ่มบริษัทรายงานผลกำไรสุทธิรวมจำนวน1,719.6 ล้านบาท ซึ่งลดลงคิดเป็นร้อยละ 25.8 จากปีก่อน โดยมีกำไรจากการดำเนินงานปี 2566 จำนวน 1,569.4 ล้านบาท ที่ลดลงคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 31.2 เทียบกับปี 2565 (ไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ จำนวน153.4 ล้านบาท และค่ใช้จ่ายภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากเงินปันผลในต่างประเทศ 3.2 ล้านบาท) ทั้งนี้กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน(Basic EPS) ของปี 2566 อยู่ที่ 1.45 บาทต่อหุ้น เปรียบเทียบกับ 1.96 บาทต่อหุ้นของปี 2565