•    KEX : ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์

การเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นรายใหญ่น่าจะส่งผลดีต่อ KEX
ในระหว่างการประชุมนักวิเคราะห์ครั้งล่าสุดของ KEX ผู้บริหารได้อธิบายว่าการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นรายใหญ่จาก KLN เป็น SFTH (SF International Holding [ประเทศไทย] ซึ่งเป็นบริษัทในเครือทางอ้อมของ S.F. Holding) มีผลเชิงบวกอย่างไร เมื่อพิจารณาจากความเชี่ยวชาญของ SF ในธุรกิจขนส่งด่วนซึ่งคล้ายกับธุรกิจของ KEX มากกว่าธุรกิจของ KLN สิ่งนี้จะนำมาซึ่งโซลูชั่นห่วงโซ่อุปทานที่หลากหลายมากขึ้น ตั้งแต่โลจิสติกส์แบบครบวงจรไปจนถึงการส่งต่อ และขนส่งสินค้าระหว่างประเทศแบบด่วน อีกทั้งได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่จะดำเนินต่อไป

ตั้งเป้าเพิ่มปริมาณพัสดุ 10-12% ในปีนี้
ผลการดำเนินงานที่น่าผิดหวังของ KEX ในปี 2023 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปริมาณพัสดุที่ลดลง 30% อันเป็นผลมาจากการแข่งขันที่รุนแรง และความผันผวนของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ปีนี้บริษัทตั้งเป้าเพิ่มปริมาณพัสดุ 10-12% โดยตั้งเป้าเพิ่มลูกค้าที่ให้ผลตอบแทนสูง ได้แก่ ผู้ส่งสินค้าที่เป็นรายบุคคล, SMEs, บริษัทขนาดใหญ่, เกษตรกรในท้องถิ่น, ชาวประมง และช่างฝีมือ, ผู้จัดงาน และผู้ร่วมงาน ฯลฯ เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งรายได้โดยยังคงรักษาส่วนแบ่งตลาดในอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์ม

ยังคงประมาณการเดิม; คาดว่า KEX จะยังคงขาดทุนจนถึงปี 2025F
เรายังคงประมาณการของเรา โดยคาดว่า KEX จะยังคงขาดทุนจนถึงปี 2025F เทียบกับความคาดหวังของบริษัทว่าจะถึงจุดคุ้มทุน EBIT ภายใน 4Q24F และกลับมามีกำไรสุทธิในปี 2025F เรามองกลยุทธ์ของบริษัทในแง่ดีในการมุ่งเน้นไปที่ลูกค้าระดับกลางถึงระดับสูง และลูกค้าอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มรายได้ต่อการฝากขายในขณะที่ดำเนินโครงการลดต้นทุน อย่างไรก็ตาม ประสิทธิผลของแผนและอัตราการปรับปรุงรายได้ที่เกิดขึ้นจริงยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด

คงคำแนะนำ “ขาย” สำหรับ KEX โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 4.80 บาท
มูลค่าที่เหมาะสมของเราที่ 4.80 บาท ยังคงยืนหยัดอยู่ ซึ่งอิงตามวิธี DCF ซึ่งมีการประเมินมูลค่าในปี 2024F ซึ่งการคาดการณ์ของเราอิงจาก WACC 9.5%, CoE 9.5%, Rf 3.2%, พรีเมียมความเสี่ยงด้านตลาด 6.4% และอัตราการเติบโตของธุรกิจ 1% ทั้งนี้ เรามองว่า tender off ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นโอกาสในการขาย ซึ่งความเสี่ยงที่สำคัญคือ การแข่งขันที่รุนแรง และกำลังซื้อที่ลดลง

Market Insight
     E- mail :tiscoresearch@tisco.co.th