Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.กรุงศรี พัฒนสิน :CNS Daily Strategy

266

"Selective Plays"

 

KCS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ "ฟื้นตัว" ต้าน 1397/1403 จุด รับ 1385/1380 จุด S&P500 ทำ New High ต่อเนื่อง และแตะ  5000จุดวานนี้ ตอบรับกำไร บจ. ที่ดีกว่าคาด คือ Disney และ Arm Holding ผสานราคาน้ำมันขึ้น 4 วันติด วานนี้ +3.0% หลังสถานการณ์ตะวันออกกลางยังตึงเครียด แต่ระดับราคาน้ำมันดิบ  BRENT ปัจจุบันที่ 81 +/- เหรียญฯ < 90 เหรียญฯ ยังไม่สร้างแรงกดดันต่อวงจรเงินเฟ้อ และเป็นภาพบวกต่อ SET ที่มีสัดส่วนหุ้นอิงน้ำมันราว 20% ของมูลค่าตลาด สถานการณ์ภายใน SET พักตัว ตอบรับมุมมอง BOT ต่อ GDP Growth ปี 2024F ที่ต่ำกว่าเดิม แต่แรงหนุนจากวงจรดอกเบี้ยขาลงจะทยอยเข้ามาในระยะถัดไป ล่าสุดนักเศรษฐศาสตร์ไทย-เทศ เริ่มคาดดอกเบี้ยไทยอาจลง 1-4ครั้ง ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวดูดีกว่ามุมมอง BOT ล่าสุด อาทิ เม็ดเงินจับจ่ายนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2023 ลดลง แต่สุดปี 2024YTD ยอดใช้จ่ายกลุ่มนี้เร่งขึ้นและมากกว่าปี 2019 ไปแล้ว อาจทำให้ GDP ปี 2024 ที่ BOT คาด 2.5-3% มี Upside Risk  คาดกลุ่มภาคบริการ (เม็ดเงินนักท่องเที่ยวฟื้นเร็ว+รัฐฯเตรียมออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ฐานราก) กลุ่มน้ำมัน กลุ่มชิ้นส่วนฯ(งบ Arm Holding ดี) นำตลาด แนะนำ AOT, GPSC, HANA

 

 

Daily outlook: "ฟื้นตัว" ต้าน 1397/1403 จุด รับ1385/1380 จุด

What happened around the world ?

• (*) US Stocks :  ตลาดหุ้นสหรัฐ Dow jones +0.13%, S&P500 +0.06%ทำ new high ต่อเนื่อง 2 วันติด,  Nasdaq +0.24% จาก โดยดัชนี S&P500  กลุ่มที่นำตลาด คือ Energy (นำโดย Exxon +1.7%, Chevron +1.3% หนุนจากราคาน้ำมัน), Real estate, ICT ฯลฯ  โดยหุ้นที่ขึ้นเด่นหลักคือ  ARM holding บริษัทออกแบบชิป +48% รับงบออกมาดีกว่าคาด ฯลฯ กลุ่มที่ Underperform คือ Utilities, Financial ฯลฯ

• (*) China CPI :  เงินเฟ้อทั่วไป CPI จีน เดือน ม.ค. 24 ออกมา -0.8%y-y  ติดลบมากสุดในรอบ 14 ปี และมากกว่าตลาดคาด -0.5%y-y vs prev. -0.3%y-y  ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเดียวกัน  -2.5%y-y ติดลบติดต่อกัน 16 เดือน  KCS ประเมินภาพเงินเฟ้อที่ยังต่ำทำให้ธนาคารกลางจีนมีโอกาสเดินหน้าออกมาตรการะตุ้นทางการเงิน และรัฐบาลมีโอกาสออกมาตรการทางการคลังออกมาเพิ่มเติม  ยังมองบวกเน้นตั้งรับหุ้นจีน แนะนำยอยสะสม SCGP, IVL, PTTGC

• (*)  Fed Speaks :  ประธาน Fed Barkin  สาขา Richmond (Voter) ให้สัมภาษณ์ในโทน Sligthly Dovish เผยเงินเฟ้อที่มีโอกาสผันผวน  และภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงไม่แน่นอนทำให้ Fed อาจจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย  KCS ประเมินเป็นเพียงเสียงส่วนน้อย เพราะตลอดสัปดาห์ทีผ่านมาคณะกรรมการ Fed ส่วนใหญ่ยังเห็นตรงกันในการลดอัตราดอกเบี้ย ย้ำวงจรดอกเบี้ยปลายทาง

• (*) US Econ :  ยอดขอรับสวัสดิการว่างงาน(Initial Jobless claims) +2.18 แสนรายใกล้เคียงคาด สะท้อนภาพภาคแรงงานสหรัฐฯประคองในลักษณะ Soft Landing ได้ (ความเสี่ยง Hard Landing จะเกิดขึ้นผู้ขอรับสวัสดิการครั้งแรกเฉลี่ยจะสูงกว่าระดับ 4.0 แสนตำแหน่ง)

• (*) To monitors  : ฝั่งจีน  9 ก.พ. ติดตามยอดปล่อยกู้ใหม่ของธนาคารพาณิชย์จีน คาดเพิ่มขึ้น 4.68 แสนล้านหยวน vs prev. 1.17 แสนล้านหยวน   ฝั่งสหรัฐสัปดาห์หน้า คือ  13 ก.พ.ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ (CPI) ม.ค. ตลาดคาด 0.2%m-m prev. 0.3% และ 2.9%y-y ชะลอจาก 3.4% ในเดือนก่อน และ Core CPI  คาด +0.3%m-m ใกล้เคียงกับ Top rank economist

•  (*) US Bond & Dollar : ระยะสั้นปรับขึ้นต่ออายุ 10ปี ปรับขึ้น  5 bps อยู่ที่ 4.03% เช่นเดียวกับ 2 ปี พลิกปรับชึ้น 5  bps อยู่ที่ 4.46% เป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นประกันชีวิตและกลุ่มธนาคารในวันนี้ ขณะที่ Dollar Index แกว่งตัวบริเวณ 104.1+/- จุด

•  (*/+) Oil : Brent +3.06%d-d ปิดที่ US$ 81.63/barrel , West Texas  3.01%d-d ปิดที่ US$ 76.38/barrel รับข่าว 1.) อิสราเอลปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงของกลุ่มฮามาสทำให้ตลาดกังวลสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงขึ้นกระทบอุปทานน้ำมัน  2) ทางการสหรัฐได้สังหารผู้บังการกลุ่มติดอาวุธในอิรัก ที่กรุงแบกแดดทำให้ตลาดกังวลสงครามจะขยายวง    มองจิตวิทยาบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำ มองเป็นกลุ่มนำตลาดหุ้นไทยวันนี้ และบวกต่อ  PTT, PTTEP  

•  (*/+) Bitcoin ราคาบิทคอย +2.59%d-d ปิดที่ 45331.73 USD (ทำ New high ในรอบ 1 เดือน) มองเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นที่เชื่อมโยง Crypto อาทิ JTS, ZIGA, BROOK, TTA

 

 

What happened in Thailand ?

•  (*/+) SET: SET Index พักตัว -0.65% กลับมาปิด 1388.06 จุด กลุ่มถ่วง คือ กลุ่มสื่อสาร (ADVANC, INTUCH) มองถ่วงจากกำไรระยะสั้นชะลอลง จากค่าใช้จ่ายหลังควบรวม 3BB สูงกว่าตลาดคาด กลุ่มค้าปลีก (CPAXT, CPALL) มองจิตวิทยาลบความเห็น ปปช. ที่ระบุความเสี่ยงหากรัฐฯเดินหน้านโยบาย Digital Wallet ต่อตามแผนใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ยืม และมุมมอง BOT เห็นสัญญาณนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อหัวจับจ่ายน้อยลงกว่าค่าเฉลี่ยในปี 2023 กลุ่มหนุน คือ กลุ่มโรงแรม (CENTEL, MINT) ตามภาพบวก BOT ยังมองภาคบริการ โดยเฉพาะท่องเที่ยวแข็งแกร่ง ปรับเพิ่มคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวขึ้น กลุ่มแพ็คเกจจิ้ง (SCGP) หุ้นอยู่ในโซนลงทุน+ธุรกิจมีสัญญาณผ่านจุดต่ำสุด

• (*/-) Flow : เงินทุนต่างชาติไหลเข้า ขายหุ้น -53.9 ล้านเหรียญฯ  ซื้อพันธบัตร +18.9 ล้านเหรียญฯ  TFEX สถานะ Net Short -12,886  สัญญา เงินบาทอ่อนค่า 35.9 +/-บาท

• (+) TH Tourism & GDP (BOT) Upside: KCS ทำการรวบรวมยอดใช้จ่ายต่อนักท่องเที่ยว YTD ปี 2024 พบว่ากลับมาเร่งขึ้นสู่ 4.85 หมื่นบาทต่อคน สูงกว่าช่วง Pre-COVID ปี 2019 ที่ 4.79 หมื่นบาท และปี 2023 ซึ่งอยู่ที่ 4.5 หมื่นล้านบาท (ข้อมูลดังตารางสรุป) ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นที่ BOT ให้ความกังวลจนเป็นส่วนหนึ่งของการปรับมุมมอง GDP ปี 2024F ต่ำลงวานนี้ ร่วมกับ การเปลี่ยนแปลงสินค้าคงคลังลดลง และ ปรับภาคส่งออกให้อนุรักษ์นิยมมากขึ้น สัญญาณที่ดีขึ้นดังกล่าว เราประเมินมีโอกาสสร้าง Upside ต่อ GDP ปี 2024F ที่ BOT ประเมินได้ในระยะถัดไป ประเมิน SET มีโอกาสตอบรับในเชิงบวก หลังวานนี้กังวลในส่วน GDP ที่ BOT ปรับลง และหุ้นที่ปรับฐานจากประเด็นดังกล่าว อาทิ AOT,  AAV, ERW, MINT, SAFE, GFC, CPALL, CPAXT, CRC มีโอกาสฟื้นตัว เน้น AOT, MINT, GFC, CPALL, CPAXT, CRC

• (*/+) TH Bond Yield: นักลงทุนต่างชาติวันนี้ กลับมาซื้อพันธบัตร 679 ล้านบาท ถ่วง TH Bond Yield อายุ 10ปี ปรับลงแรง -8 bps สู่ 2.54% หลังจาก BOT ส่งสัญญาณ Dovish อ่อนๆ ในการประชุมล่าสุด เราประเมินเป็นภาพบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง Bond Yield ไทยที่ปรับตัวลงเราประเมินอิงข้อมูลความสัมพันธ์ Bond Yield และ SET ตั้งแต่ปี 2005 พบว่า ทุกๆ Yield -10 bps จะบวกต่อตลาดราว 25 +/- จุดเน้น  กลุ่ม Consumer Finance กลุ่มอิงการบริโภค เน้น CPALL, CPAXT, CRC, HMPRO ท่องเที่ยว เน้น AOT, AAV, MINT หุ้นได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาลง TRUE, GPSC

• (*/+) Property Stimulus: กระทรวงการคลังกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาแพ็คเกจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกระตุ้นภาคอสังหาฯ หนุนประชาชนเข้าถึงบ้านราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท โดยคาดให้สิทธิ์ผลประโยชน์ภาษี (BOI) ผู้พัฒนาอสังหาฯ รายย่อยที่พัฒนาโครงการขนาดดังกล่าว  KCS มองผลบวกต่อหุ้นกลุ่มอสังหาในในตลาดจำกัด แต่มองบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวมและหุ้นกลุ่ม Home Improvement อาทิ  DOHOME, GLOBAL, HMPRO เน้น DOHOME, HMPRO

 

Daily Strategy : AOT, GPSC, HANA

ระยะสั้น วันนี้มองภาพตลาด "ฟื้นตัว" S&P ยังทำ New High ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 หนุนจากรายงานงบ Disney และ Arm Holding เด่น โดยฝั่ง Arm Holding และค่าเงินบาทอ่อนค่าระยะสั้นมองหนุนกลุ่มชิ้นส่วนฯวันนี้เด่น นอกจากนี้ มาจากราคาน้ำมันเร่งขึ้น จากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง  โดยรวมหนุนอีกกลุ่มหลักใน SET คือ น้ำมัน นอกจากนี้ หุ้นอิงเม็ดเงินจับจ่ายนักท่องเที่ยวทีปรับฐานตามความกังวล BOT มีลุ้นฟื้นตัว หลังยอดจับจ่ายต่อหัว YTD2024 ฟื้นตัวเร็ว และสูงกว่าปี 2019 แล้ว โดยรวมมองหุ้นนำวันนี้ กลุ่มน้ำมัน เน้น PTTEP, TOP กลุ่มชิ้นส่วน เน้น DELTA, HANA กลุ่มอิงภาคบริการ เน้น AOT, MINT, CPALL, CPAXT, SPA และกลุ่มได้ประโยชน์มาตรการอสังหา เน้น DOHOME

 

    หุ้น China Plays ที่เริ่มเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแรงขึ้นและเริ่มเห็นการฟื้นตัวภายใน (IVL, DOHOME, AOT, MINT, AAV, SPA, SAFE, GFC, CPALL, CPAXT)
    หุ้นได้ประโยชน์ภาคผลิตโลกเริ่มฟื้น (KCE, HANA, IVL, SCGP, SJWD, MENA, WICE)
    หุ้นภาคบริการได้ประโยชน์มาตรการภาครัฐฯ บริโภค ท่องเที่ยว (CPALL, CPAXT, HMPRO, AOT, AAV, MINT, SPA, GFC, SAFE, TKN)
    กลุ่มได้ประโยชน์ที่วงจรดอกเบี้ยพลิกเป็นขาลงนับจากปี 2024 (GULF, GPSC,  CPALL, TRUE, MINT, ERW, CK, BBIK, INSET, PLANB)
    กลุ่ม Dividend Plays (AP, SAWAD, TIDLOR, WHA, INTUCH, ADVANC, MC, SC, SIRI)
    กลุ่มที่คาดกำไร 4Q23F เด่นหรือ 4Q23F เป็นจุดต่ำสุด (CPAXT, DOHOME, CPALL, SJWD, AOT,  TU, PLANB, SNNP)
    กลุ่มได้ประโยชน์จากการเข้าสู่ฤดูร้อน (ICHI, CPALL, CPAXT, AOT, AAV, MINT)

 

• FEB24 Best Picks: AOT, AAV, CPALL, GPSC, IVL, MINT

• 1Q24/2024 Stock Picks : GPSC, IVL, PTTGC, CPALL, AOT, AMATA, SCGP, SCC, MINT  Mid-Small Cap Play : SJWD, DOHOME, BE8, SPA, PLANB

Tactical & Investment Idea
    
 • Strategy Update : Summer Play

Fact : กรมอุตุนิยมวิทยาเปิดเผยว่า ไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อนในปี 2024 ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 4 เดือน ก.พ. 24 โดยคาดหมายว่าอุณหภูมิจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติและปี 2023 ราว 1 องศา ทีมกลยุทธ์ KCS ประเมินเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากอากาศร้อน อาทิ กลุ่มเครื่องดื่ม กลุ่มค้าปลีก กลุ่มห้างสรรพสินค้า กลุ่มโรงแรม

Key Ideas : อิงผลการศึกษา 8 ปีย้อนหลัง หากซื้อก่อนเข้าสู่หน้าร้อน 1 เดือน หุ้นกลุ่มโรงแรม เครื่องดื่ม กลุ่มค้าปลีก มักให้ผลตอบแทนเด่น เฉลี่ย +2.5%  +2.2% และ +1.6% vs SET +0.5%

ทั้งนี้ หากซื้อวันที่เข้าสู่ฤดูร้อน และขายหลังจากนั้น 1 เดือน หุ้นโรงแรม เครื่องดื่ม และค้าปลีกจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเด่น +3.5% +3.9% และ 1.9% vs SET +1.5%

Strategy : การลงทุนที่ดีที่สุดในการลงทุนก่อนเข้าสู่หน้าร้อน คือ แนะนำซื้อหุ้นในธีม Summer Play  ก่อน 1 เดือน และถือจนเข้าสู่หน้าร้อน คาดจะได้รับผลตอบแทนเป็นบวกสูงที่สุด โดยอิงภาพทางพื้นฐานปี 2024F ประกอบ เราแนะนำ เครื่องดื่ม เน้น ICHI ค้าปลีก เน้น CPALL CPAXT ท่องเที่ยว+โรงแรม เน้น AOT AAV MINT

• Strategy Update : 4Q23F Earnings Play

Fact : เข้าสู่ช่วงรายงานผลประกอบการ 4Q23F  ของหุ้นในกลุ่ม Real Sector หลังจากล่าสุดกลุ่มธนาคารรายงานงบออกมาแล้ว 9 บริษัท กำไรอยู่ที่ระดับ 5.37 หมื่นล้านบาท +27.51%y-y แต่ -11 %q-q มองนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะมีการรายงบหุ้น อิงคาดการณ์ BB Consensus อีกราว  209 บริษัทคาดกำไรรวมที่  1.76 แสนล้านบาท  +69.51%y-y, -9.35%q-q

Strategy : แนะนำลงทุนหุ้นในกลุ่ม Real Sector ที่กำลังจะประกาศงบโดยมีแนวโน้ม งบ 4Q23F เด่น โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มที่คาดจะรายงานงบเติบโตได้ทั้ง y-y, q-q หรือ ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยภาพสะท้อน คือ การเริ่มฟื้นตัว q-q หรือกลุ่มที่กำไรจะเร่งขึ้นในช่วงถัดไป มี Upside จากประมาณการปัจจุบัน  แนะนำ CPAXT(TP @ 34), DOHOME (TP@ 12.8), CPALL (TP@76), SJWD(TP@ 18.7), AOT(TP@ 73.25),      TU(TP@ 17.5), PLANB(TP@10.2), SNNP(TP@21.3)

• Strategy Update : Chinese New Year 2024 Play

Fact : ใกล้เข้าสู่เทศกาลตรุษจีนปี 2024 (วันขึ้นปีใหม่ของจีน)  ในทางจิตวิทยาบวกในส่วนความคึกคักการจับจ่ายเนื้อสัตว์, อาหารและผลไม้ โดยเป็นเทศกาลหยุดยาวของผู้ที่มีเชื้อสายจีน (จีน, ไต้หวัน, ฮ่องกง) ออกไปท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ คาดจะเป็นปัจจัยหนุนการใช้บริการทั้งทางด่วน, ปั๊มน้ำมัน, ห้างสรรพสินค้า, สายการบิน, โรงแรม รวมถึงการซื้อสินค้า อาทิ เสื้อผ้า ฯ ปี 2024F การกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประเมินปีนี้ระหว่าง 8 – 16 ก.พ. 24 จะมีเม็ดเงินสะพัดราว  3.4 หมื่นล้านบาท +29%y-y (0.3%ของ Real GDP ไทย 2022) และคาดต่างชาติเดินทางเที่ยวไทยราว 1 ล้านคน (นำโดย จีน, ฮ่องกง, ไต้หวัน)  นอกจากนี้ ปี 2024 ยังเป็นปีที่มีความพิเศษ คือ ปีมังกร ซึ่งนำมาสู่ความต้องการมีบุตรที่เพิ่มสูงขึ้นมากเป็นพิเศษ

 Key Ideas :

KCS ประเมินกระแสการเก็งกำไรหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเทศกาลตรุษจีน ปี 2024 มีความน่าสนใจ อิง โดย KCS ได้ทำการศึกษาสถิติผลตอบแทนหุ้นไทยในช่วงตรุษจีนย้อนหลัง 5 ปี (ปี 2019-2023) พบว่า ก่อนเทศกาลตรุษจีน 1 และ 2 สัปดาห์ SET Index +0.85% และ +0.89% ตามลำดับ โดย Sector ที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลปรับขึ้นในทางเดียวกัน และกลุ่มมากที่สุดคือ โรงแรม +3.3% และ +4.15% ตามด้วย กลุ่มเกษตร +1.95% และ +0.21% และ กลุ่มอาหาร +0.98%, และ +1.04%

Strategy: กลยุทธ์การลงทุน  KCS  แนะนำเก็งหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเทศกาลตรุษจีน  เน้นกลุ่มธุรกิจค้าเนื้อสัตว์ อาทิ CPF (TP@20.0), GFPT (TP@13.4) กลุ่มท่องเที่ยวและสนามบิน อาทิ MINT(TP@40.0), AOT(TP@73.25)  นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มบริการทางการแพทย์กลุ่มที่มีบุตรยาก อาทิ GFC (TP-Con@14.0) SAFE (TP-Con@25.0)

• Strategy Update: Tourism (China Driven) Play

Fact :  รายงานนักท่องเที่ยวรายสัปดาห์ สัปดาห์ที่ 2 ของปี 2024  เติบโต +14.7%w-w สู่ 6.94 แสนคน เป็นภาพฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม นำโดยจีน +27.8%w-w สู่ระดับ 1.04 แสนคน รองลงมา คือ มาเลเซีย เกาหลีใต้ และอินเดีย

Key Ideas :

o〽️ระดับนักท่องเที่ยวจีนดังกล่าวสูงกว่าช่วงพีคท่องเที่ยวปลายปี 2023 (ค่าเฉลี่ยรายสัปดาห์ ธ.ค. อยู่ที่ 9.6 หมื่นคน) และสูงใกล้เคียงสัปดาห์ Golden Week ปี 2023 ที่ 1.06 แสนคน และมีโมเมนตัมที่ดีต่อเนื่องอย่างน้อยถึงช่วงเทศกาลตรุษจีน ต้น ก.พ.

 

o〽️ทิศทางนักท่องเที่ยวฟื้นตัวเป็น Uptrend ต่อเนื่องตั้งแต่ พ.ย. 23

 

o〽️การฟื้นตัวของนักท่องเทียวจีนมีความสำคัญ เพราะเป็นชาติที่ทำให้นักท่องเที่ยวปี 2023 ไม่สดใสตามที่ตลาดคาด โดยสัดส่วนนักท่องเที่ยวจีน 11M23 ต่อนักท่องเที่ยวรวม ต่ำราว12% vs ระดับปี 2019 ที่ 28% ขณะที่สัปดาห์ล่าสุดขยับขึ้นมาที่ 15% ของภาพรวม ผสาน ภาพเศรษฐกิจจีนค่อยๆฟื้นตัว และมาตรการฟรีวีซ่าจีนที่รัฐฯให้ถาวร

 

o〽️แม้นักท่องเที่ยว 2 สัปดาห์แรกของ ม.ค. 24 จะอยู่ราว 1.3 ล้านคน แต่เราเชื่อว่าสัปดาห์ที่เหลือของเดือน จะเร่งขึ้น จาก i) จีนกำลังเข้าสู่เทศกาลหยุยาว ii) ความตึงเครียดระหว่างอินเดีย และมัลดีฟท์ ยังประเมินนักท่องเที่ยว ม.ค. 24 ที่ 3.0 +/- ล้านคน

 

o〽️จากการศึกษาย้อนหลังของเราในปี 2016-19 ท่องเที่ยวอยู่ในภาวะปกติ พบว่าสัดส่วนนักท่องเที่ยว ม.ค. / นักท่องเที่ยวทั้งปี จะอยู่ราว 9.3-9.0% ขณะที่ปี 2023 ที่ช่วงที่เหลือของปี นักท่องเที่ยวเร่งขึ้นจากการเปิดเมือง สัดส่วนจะอยู่ราว 7.7% หากอิงสถานการณ์ปี 2024 ที่คาดว่านักท่องเที่ยวจะมีภาพเร่งช่วงที่เหลือของปีคล้ายปี 2023  ฯลฯ

 

ณภัค ภัทรสุปรีดิ์

: เรียบเรียง โทร : 02-276-5976 อีเมล์ : reporter@hooninside.com ที่มา : สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ไต่เส้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองดูหุ้นไทยไต่เส้น แถว 1370 +/- แบบพยาบามฝ่าด่าน 1380 จุด โดยเช้านี้ พี่ DELTA..

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้