Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.กรุงศรี พัฒนสิน : KCS Daily Strategy

325



"China Plays"

 

KCS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ "ฟื้นตัว" ต้าน 1379/1385 จุด รับ 1358/1352 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พักตัว จากปัจจัยลบเฉพาะตัวของ Intel กดราคาต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ หลังให้ Outlook ธุรกิจต่ำกว่าตลาดคาดหวัง(สินค้า IT อื่นๆ ไม่ได้เติบโตเร่งตามกลุ่ม AI) ขณะที่ปัจจัยด้านเศรษฐกิจยังดี ภาพเงินเฟ้อพื้นฐาน PCE ธ.ค. 23 ชะลอลง +2.9%y-y ดีกว่าคาด ทำให้ตลาดคาด Fed จะปรับลดดอกเบี้ยลง 5-6 ครั้งในปี 2024 แต่ราคาน้ำมันที่แกว่งขึ้นต่อเนื่อง BRENT อยู่ที่ 83.5 เหรียญฯ จุดสูงสุดตั้งแต่ พ.ย. 23 หากผ่าน 87-90 เหรียญฯจะเริ่มสร้างความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อและวงจรดอกเบี้ย ระยะสั้นปัจจัยดังกล่าวเป็นภาพบวกต่อ SET ที่มีสัดส่วนหุ้นน้ำมันสูง ขณะที่ยังมีจิตวิทยาบวกจีนเพิ่มมาตรการหนุนตลาดหุ้นต่อเนื่อง ผสานภาพภายในที่สัญญาณฟื้นตัวเร่งฝั่งท่องเที่ยว และด้านส่งออกบวก y-y ต่อเนื่อง 5 เดือน มอง SET วันนี้ฟื้นตัว หุ้นนำ คือ กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มเชื่อมโยงจีน กลุ่มน้ำมัน วันนี้แนะนำ AOT, IVL, ERW

Daily outlook: "ฟื้นตัว" ต้าน 1379/1385 จุด รับ1358/1352 จุด

What happened around the world ?

• (*) US Stocks : ตลาดหุ้นสหรัฐชะลอการขึ้น Dow jones +0.16%, S&P500 -0.07% Nasdaq -0.36% โดยดัชนี S&P500 โดยกลุ่มที่นำตลาด คือ Energy, Health Care, Consumer Discretionary ส่วนกลุ่มที่ Underperform หลักๆคือ IT, real estate (หลักๆมาจาก Intel -12% ต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ หลังให้ Outlook ธุรกิจอ่อนตัวกว่าตลาดคาด ส่วนกลุ่มที่ขึ้นหลักๆคือ American Express +7.1% รับงบดีกว่าคาด)

• (*) US Econ : 1) เงินเฟ้อ PCE ธ.ค. 23 +2.6%y-y inline ที่ตลาดคาด หมวดที่ยังปรับขึ้นหลักๆมีเพียง Energy 2)เงินเฟ้อพื้นฐาน Core PCE +2.93% y-y ชะลอตัวลงจากเดือน พ.ย. ที่ 3.2% และดีกว่าที่คาด แต่หากพิจารณา m-m +0.2% Inline ฟื้นตัวจากหมวด Services 3) Personal Income +0.26%m-m ขยายตัวขึ้นจากค้าจ้างที่ปรับเพิ่มขึ้น 4)Personal Spending +0.71%m-m สูงกว่าหลักๆมาจากการใช้จ่ายด้าน ยานยนต์

• (*) US Interest rate : ตลาดคาดโอกาสการลดดอกเบี้ยสหรัฐปีนี้อิง CME Fed Watch tools คือลด 6 ครั้งตามเดิม แต่เลื่อนโอกาสการลดดอกเบี้ยครั้งแรก คือ รอบ พ.ค.24 (จากเดิมคาดคือ รอบ มี.ค.24) และปรับลดติดต่อทุกรอบในการประชุม Fed รอบที่เหลือของปีรอบละ 25 bps โดยอัตราดอกเบี้ยสิ้นปี 24 จะอยู่ที่ 3.75-4.0%

•(*/+) China : กระทรวงพาณิชย์จีนวันศุกร์ นำโดยนายหวัง เหวินเทา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จีนประกาศให้ปี 2024 เป็น "ปีแห่งการส่งเสริมการบริโภค" และเน้นย้ำ

ถึงความจำเป็นในการฟื้นฟูการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเข้าประเทศให้มากขึ้นผ่านทาง FDI เพิ่มขึ้น Bloomberg คาดการณ์อาจจะเห็นมาตรการ 1.) กระตุ้นให้ประชาชนเปลี่ยนรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ 2.) เพิ่มสิทธิ การผ่อนคลายภาระภาษี และการอำนวยความสะดวกให้บริษัทต่างชาติขอวีซ่าได้ง่ายขึ้น ผสานข่าวบวก สัปดาห์ที่แล้วรายงานเม็ดเงินนักลงทุนต่างชาติฯลฯ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ เข้าซื้อกองทุนหุ้นจีนเป็นการไหลเข้าที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2015 และข่าวทางการจีนประกาศตั้งแต่วันนี้ (29 ม.ค.) ห้าม Short Selling หุ้นในกลุ่มที่คัดเลือก และห้ามไม่ให้นักลงทุนที่เป็น Strategic investor นำหุ้นไปให้ยืม Short โดยรวม KCS ประเมินเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นที่เชื่อมโยงจีนอาทิ IVL, PTTGC, SCGP

• (*) Geopolitical risks: คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้(JCS) ระบุว่า ทางเกาหลีใต้ตรวจพบขีปนาวุธร่อนหลายลูกที่ถูกยิงนอกเมืองชินโป เมืองท่าของเกาหลีเหนือ KCS ประเมินเป็นจิตวิทยา 1.) Catalyst หนุนราคาน้ำมันดิบจากความกังวล Supply disruption 2.เพิ่มกระแสการย้ายฐานการผลิตในประเทศที่ไม่มีความขัดแย้ง อาทิ ไทย มองบวกต่อหุ้นกลุ่มนิคม เน้น AMATA, WHA

• (*) To monitors : ฝั่งสหรัฐ 30 ม.ค. ติดตามความเชื่อมั่นผู้บริโภค Conf ม.ค. ตลาดคาด 112.5 จุด prev. 110.7 1 ก.พ. PMI ภาคผลิต (ISM) ตลาดคาด 47.5 จุด vs prev. 47.4 , 1 ก.พ. ติดตามประชุม Fed ทั้ง MUFG และตลาดคาดคงดอกเบี้ยที่ 5.02-5.5% , 2 ก.พ. ติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตร ม.ค. คาด 1.85 แสนตำแหน่ง vs prev. 216 แสนตำแหน่ง และอัตราการว่างงาน ม.ค. คาดคงที่ระดับ 3.7% ทรงตัวจาก prev. ฝั่งจีน 31 ม.ค. ติดตาม PMI ภาคผลิตและภาคบริการ ม.ค. รายงานโดยทางการ ไม่มีคาด vs prev. 49 และ 50.4 จุด, 1 ก.พ. ติดตาม Caixin PMI ภาคผลิตไม่มีคาด งวดก่อน 50.8 จุด

• (*) US Bond & Dollar : แนวโน้มระยะสั้นพลิกปรับขึ้น อายุ 10 ปี ปรับขึ้น +1 bps อยู่ที่ 4.15% เช่นเดียวกับ 2 ปี ปรับขึ้น +6 bps อยู่ที่ 4.34% ขณะที่ Dollar Index แกว่งตัวออกข้าง 103.2+/- จุด

• (*/+) Oil : ราคาน้ำมันดิบระยะสั้นเป็นขาขึ้นและทำ New High ตั้งแต่ พ.ย.23 Brent +1.4%d-d ปิดที่ US$ 83.55 /barrel, West Texas + 0.8%d-d ปิดที่ US$ 78.01 /barrel แรงหนุนระยะสั้น คือเรื่องเดิม อาทิ มุมมองเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง จีนรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้น และ Geopolitical จิตวิทยาบวกต่อหุ้นพลังงานต้นน้ำ PTTEP, PTT, TOP

What happened in Thailand ?

• (*) SET: SET Index ปรับลงต่อ -0.58% ปิดที่ 1368 จุด กลุ่มหนุน คือ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (SCC) มองหนุนจากภาพธุรกิจผ่านจุดต่ำสุด และฟื้นตัวในปี 2024 กลุ่มรับเหมา (CK) หนุนการลงทุนภาครัฐที่มีสัญญาณกลับมาทยอยเร่งขึ้น 2H24 และมีโครงการใหญ่ Landbridge ที่รัฐบาลกำลังเร่งผลักดันกับนักลงทุนต่างประเทศ อาทิ UAE เยอรมันนอยู่ กลุ่มถ่วง คือ กลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT) ภาพการฟื้นตัวบริโภคฟื้นตัวยังค่อยเป็นค่อยไป กลุ่มธนาคาร (BBL, KBANK) ถูกลดสภานะต่อเนื่อง ตั้งแต่รายงานกำไร 4Q23 ต่ำกว่าคาด

• (*) Flow : เงินทุนต่างชาติไหลออก ขายหุ้น -77.6 ล้านเหรียญฯ ซื้อพันธบัตร +49 ล้านเหรียญฯ TFEX สถานะ Net Long 7,385 สัญญา เงินบาทแข็งค่าเล็กน้อยสู่ 35.6 +/-บาท

• (+) TH Export: ยอดส่งออก ธ.ค. 23 เติบโต +4.7%y-y ต่ำกว่าตลาดคาดเล็กน้อย และใกล้เคียง prev. +4.9%y-y แต่บวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ส่วนยอดนำเข้า ธ.ค. 23 พลิก -3.4%y-y (ตลาดคาดขยายตัว +7.4%y-y) หนุนดุลการค้า ธ.ค. 23 เป็นบวก +973 ล้านเหรียญฯ

ทั้งนี้ KCS ตั้งข้อสังเกต ดังนี้ 1) ยอดส่งออก ธ.ค. 23 สินค้าเด่น คือ ยางพารา +13.2%y-y (vs ทั้งปี -29.2%y-y) อาหารสัตว์เลี้ยง +8.5%y-y (vs ทั้งปี -13.4%) ไก่แปรรูป +0.9%y-y (vs ทั้งปี -6.5%) น้ำตาลทราย +43.2%y-y (vs ทั้งปี +10%) เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ +25.3%y-y(vs ทั้งปี -0.7%) ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ +22.2%y-y (vs ทั้งปี +11.3%) จิตวิทยาบวกต่อ STA, NER, AAI, ITC, CPF, GFPT, KSL, VNG 2) ยอดนำเข้าปลายปีที่ติดลบหนุนความเชื่อเศรษฐกิจไทย 4Q23 ที่โตต่ำจะมาจากการเปลี่ยนแปลงสินค้าคงคลัง(Change Inventory) (*Note ต้นสัปดาห์กระแสข่าว GDP ไทยปี 2023 เติบโตต่ำ +1.8% ซึ่งจะส่งผลให้ GDP งวด 4Q23 อยู่ที่เพียง +1.4%y-y) ซึ่งเรามองความคาดหวังเชิงลบดังกล่าวสะท้อนใน SET ไปแล้ว และ 3) ดุลการค้าเดือน ธ.ค. ที่เกินดุลประเมินเป็นจิตวิทยาบวกต่อ Fund Flow โดยเชื่อว่าตลาดมองดุลบัญชีเดินสะพัดที่จะรายงานสัปดาห์นี้จะเป็นมีโอกาสเป็นบวก อิงภาพนักท่องเที่ยว ธ.ค. 23 สูง 3.2 ล้านคน vs ธ.ค. 22 ที่ 2.2 มองบวกต่อ SET Index

• (*/+) Household Debt: ผลลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบเข้าสู่วันที่ 58 ประชาชนลงทะเบียนแล้ว 1.35 แสนราย เจ้าหนี้ 1.02 แสนราย มูลหนี้ 9.16 พันล้านบาท ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 8,672 ราย มูลหนี้ไกล่เหลี่ยสำเร็จ 1.55 พันล้านบาท หลังไกล่เกลี่ยเหลือ 917 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนที่มูลหนี้ร่วมโครงการรวม 8.69 พันล้านบาท ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 5,914 ราย มูลหนี้ไกล่เหลี่ยสำเร็จ 1.17 ล้านบาท หลังไกล่เกลี่ยเหลือ 640 ล้านบาท) จิตวิทยาบวกต่อกลุ่มเช่าซื้อ เน้น MTC

• (+) TH Tourism: กระทรวงต่างประเทศของไทย และ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ร่วมลงนาม "ความตกลงยกเว้นวีซ่าไทย – จีน" มีผล 1 มี.ค. 24 บวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มที่มีฐานลูกค้าจีนสูง AOT, MINT, AAV, SPA, TKN, MASTER, GFC, SAFE ขณะที่เป็นทิศทางบวกช่วยต่อยอดโมนเมนตัมภาคท่องเที่ยวปัจจุบันที่กำลังฟื้นเร่ง โดยสัญญาณล่าสุด คือ ล่าสุดพนักงานโรงแรมหลายแห่งในประเทศไทย กลับมาได้รับค่า Service Charge สูงสุดเป็นประวัติการณ์ อิงหุ้นโรงแรมไทย แต่ละแห่งมีสัดส่วนรายได้จากภูเก็ต ดังนี้ ERW (7.3%) CENTEL (2.9%) SHR (8.9%) MINT (2.2%) เน้นลงทุน AOT, AAV, MINT, SPA, GFC

• (+) FDI: บ. ตรีเพชร อีซูซูเซลส์ เปิดเผยว่า ISUZU ยังคงยึดประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ ประกาศลงทุนเพิ่มอีก 3.2 หมื่นล้านบาท ภายใน 5 ปีมองจิตวิทยาบวกต่อหุ้นกลุ่มนิคม อาทิ WHA, AMATA และหุ้นยานยนต์ไทยที่มี ISUZU เป็นลูกค้าหลัก หลักๆ คือ AH (33% ของรายได้) SAT (11% ของรายได้)

• (*) To Monitor: 30 ม.ค. รายงานกำไร 4Q23F หุ้นใหญ่ คือ PTTEP เราคาดกำไร 1.7 หมื่นล้านบาท +10%y-y, -5%q-q และ 31 ม.ค. รายงานยอดดุลบัญชีเดินสะพัด ธ.ค. 23 และศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดีล้มล้างการปกครองคุณพิธา & พรรคก้าวไกล เสนอนโยบายยกเลือกมาตรา 112

 

Daily Strategy : AOT, IVL, ERW

ระยะสั้น วันนี้มองภาพตลาด "ฟื้นตัว" มองจิตวิทยาลงทุนหุ้นฝั่ง Asia เป็นบวก หลังจีนออกมาตรการหนุนตลาดหุ้นเข้มข้นต่อเนื่อง ขณะที่ภายในจุดดี คือ เริ่มมีภาพฟื้นตัวภาคท่องเที่ยวเร่งตัว บ่งชี้ความคึกคักล่าสุดที่โรงแรม จ.ภูเก็ต ขณะที่ต่อยอดด้วยมาตรการฟรี วีซ่าถาวรระหว่างจีน – ไทยที่ลงนามเรียบร้อยแล้ว ผสาน ราคาน้ำมันที่กลับมาฟื้นตัวดีขึ้น ล่าสุด BRENT ปิด 83.5 เหรียญฯ ยังไม่แตะกรอบ 85-90 เหรียญฯ และค้างยาวนานจนสร้างความเสี่ยงวงจรดอกเบี้ย มอง SET ฟื้นตัว หุ้นนำ คือ กลุ่มเชื่อมโยงจีน กลุ่มท่องเที่ยว (โดยเฉพาะกลุ่มที่มีลูกค้าจีนสูงๆ) กลุ่มน้ำมัน

 

หุ้นได้รับประโยชน์มาตรการฟรี วีซ่าจีน รัสเซีย ไต้หวัน อินเดีย (CPALL, CPAXT, ADVANC, ERW, MASTER, SAFE, GFC, SPA)
หุ้นกลุ่มเก็งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่ Digital Wallet+E-Refund, เร่ง FDI และ สร้าง S Curve จาก Soft Power (CPALL, CPAXT, DOHOME, ADVANC, WHA, AMATA)
หุ้น China Plays ที่เริ่มเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแรงขึ้นและเริ่มเห็นการฟื้นตัวภายใน (IVL, DOHOME, GLOBAL, AOT, ERW)
หุ้นได้ประโยชน์ภาคผลิตโลกเริ่มฟื้น (KCE, IVL, SCGP, SJWD, MENA, WICE)
กลุ่มได้ประโยชน์ที่วงจรดอกเบี้ยพลิกเป็นขาลงนับจากปี 2024 (GULF, GPSC ,SAWAD, CPALL, TRUE, MINT, ERW, CK)
กลุ่ม Dividend Plays (AP, SAWAD, TIDLOR, WHA, INTUCH, ADVANC, MC, SC, SIRI)
กลุ่มที่มี Upside จากการพัฒนานโยบายการแพทย์รัฐฯ (AOT, BDMS, BH, BCH, SMD)
• JAN24 Best Picks: CPALL, HMPRO, GPSC, IVL, MINT, MTC, SIRI

• 1Q24/2024 Stock Picks : GPSC, MTC, IVL, PTTGC, CPALL, AOT, AMATA, SCGP, SCC, MINT Mid-Small Cap Play : SJWD, DOHOME, BE8, SPA, PLANB

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

หาฐาน By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็นกระดานหุ้นไทย ทั้ง SET และ ราคาหุ้น กำลังหาฐาน หาจุดสมดุล เพื่อเล่นและเทรดในกรอบเล็กๆ....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้