Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

318


ดอกเบี้ยลงช้า แต่QTจะมาเร็วขึ้น
GDP Growth สหรัฐฯ งวด 4Q66 ออกมา 3.3% สูงกว่าความคาดหมายซึ่งทำไว้ที่ 2% สะท้อนภาพความแข็งแรงของเศรษฐกิจ และช่วยลดความเสี่ยงต่อการที่จะเกิด Recession ลงไปได้อีกระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามผลที่เกิดขึ้นกับการเดินนโยบายการเงิน ก็น่าจะทำให้Fed พิจารณาคงดอกเบี้ยไว้ที่เพดาน 5.5% นานขึ้นเห็นได้ว่า Fed Watch tool แสดงถึงโอกาสที่จะปรับลดดอกเบี้ยเดือน มี.ค.67ลดลง นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ที่จะเห็นการทำ QT ที่เร็วและแรงมากยิ่งขึ้น ในช่วงเวลาดังกล่าวน่าจะทำให้เกิดแรงกดดันต่อราคาสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งในมุมของตลาดหุ้นบ้านเรา ทำให้โอกาสที่จะเห็น Fund Flow กลับเข้ามาก็น่าจะช้าออกไปอีกสำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามช่วงนี้ เป็นเรี่องความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์โดยล่าสุดNATO ประกาศซ้อมรบครั้งใหญ่ ส่วนในบ้านเราสัปดาห์หน้ารอการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีพรรคก้าวไกล กับการแก้ไข ม.112ปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐานเช้านี้ยังไม่เห็นแรงบวกที่จะขับเคลื่อน SET Index เพิ่มขณะที่สัปดาห์หน้ารอดูผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คาดผันผวนในกรอบ 1370 –1385 จุด หุ้น Top Pick เลือก AP, BEM และ MAJOR

 

เศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งมากกว่าคาด
วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าทำ All Time High ต่อเนื่อง โดยดีดตัวขึ้นราว0.2% - 0.7% หลังภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐใน 4Q66 ค่อนข้างแข็งแกร่งอยู่ที่+3.3%QoQ ซึ่งขยายตัวสูงกว่าตลาดคาดที่ +2.0%QoQ มีแรงหนุนหลักๆ มาจากภาคการบริโภค (+1.9%) ทั้งนี้ ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดูดี ทำให้ความกังวลRecession คลายลง น่าจะช่วยหนุนให้เม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงได้ในระยะหนึ่งหากมองภาพในระยะยาว สิ่งที่ปรากฎตามมาอาจทำให้ Fed ตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงนานขึ้น กดดันการปรับลดดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยลงเรื่อยๆ โดยFed Watch Tool ให้น้ำหนักล่าสุดอยู่ที่ 48% พร้อมกันนี้อาจทำให้ Fed ทำ QT เร็วและแรงมากขึ้น เพื่อดึงเงินออกจากระบบเศรษฐกิจที่ร้อนแรง และลดขนาด BalanceSheet ที่พุ่งสูงในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งอาจเพิ่มระดับความกังวลให้กับตลาดการเงินขณะที่ผลลัพท์ที่ตามมามีโอกาสตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นได้ไม่แรงมากนัก


สรุป เศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดูดีช่วยหนุนให้เม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงสั้นแต่อย่างไรระยะยาวอาจตามมาด้วยการตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงนานขึ้น รวมถึงการทำ QT ที่เร็วและแรงมากขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มระดับความกังวลให้กับตลาดการเงิน ขณะที่ผลลัพท์ที่ตามมามีโอกาสตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นได้จำกัด

ราคาน้ำมันยังคงดีดตัว หลังความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ยืดเยื้อวานนี้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นมาแรง โดยราคาน้ำมันดิบ Brent บวกเกือบ 3% พุ่งทะลุ
$82โดยมีแรงกระตุ้นจาก 2 ส่วนหลัก ได้แก่

1. แรงหนุนจากฝั่ง Demand หลังภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐยังดูแข็งแกร่ง สะท้อนการบริโภคยังสดใส (รายละเอียดดังหัวข้อก่อนหน้า)

2. แรงกดดันจากฝั่ง Supply จากความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อยาวนานและมีโอกาสทวีความรุแรงได้ทุกเมื่อ โดยล่าสุด NATO (North Atlantic
Treaty Organization) เริ่มต้นการฝึกซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 35 ปีตั้งแต่ยุคสงครามเย็น เพื่อมุ่งเน้นการรับมือการโจมตีของรัสเซีย ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามที่สำคัญของ NATO


สรุป ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐยังดูดี รวมถึงแรงกดดันจากฝั่ง Supply จากความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อยาวนาน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบที่ขยับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งดีต่อหุ้นกลุ่มอิงราคาน้ำมันในบ้านเรา อาทิ PTTEP, PTTGC , IVLสแกนหา Sector ที่น่าสะสม แม้ต่างชาติยังขายหุ้นไทยต่อเนื่องต่างชาติยังคงขายหุ้นไทยต่อเนื่องมา 15 วันติดต่อกัน หนุนยอดขายสุทธิสะสมขยับมาอยู่ที่ -2.59 หมื่นล้านบาท (ytd) กดดันให้ SET Index ยังขาดแรงขับเคลื่อนหลักดังนั้นฝ่ายวิจัยฯ จึงทำการสแกนการเคลื่อนไหวของผลตอบแทนเป็นราย Sector เพื่อค้นหาว่า Momentum การลงทุนในช่วงนี้เอนเอียงไปอยู่ในหุ้นกลุ่มไหน

พบว่า ยังมีกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจสะสมอยู่ 2 ส่วน คือ
1. หุ้นที่มี Momentum ขยับตัวขึ้นมาได้เด่นกว่ากลุ่มอื่นๆ ในช่วงนี้ คือ กลุ่มCONS แนะนำ STEC, CK และกลุ่ม TOURISM แนะนำ MINT, ERW รวมถึงAOT ยังได้ Sentiment หนุนจากหวัง อี้ รมว.ต่างประเทศจีนเยือนไทย 26-29ม.ค.นี้ เตรียมลงนามยกเว้นวีซ่าระหว่างกันถาวร
2. หุ้นกลุ่ม Laggard น่าทยอยสะสม คือ กลุ่ม PETRO, PKG แนะนำ IVL,SCGP ราคาหุ้นย่อตัวลงมาลึก แต่คาดหวังการฟื้นกลับตามตลาดหุ้นจีนที่เริ่มพลิกฟื้นกลับมาได้อย่างร้อนแรง +8% ใน 3 วันทำการ พร้อมกับการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนต่อเนื่องหุ้นท่องเที่ยวกลับมาน่าลงทุน ใครเด่นมากเด่นน้อย มาดูกันหลายๆ ปัจจัยหนุนให้หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง ดังนี้

• ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย 3 สัปดาห์แรก ของ ม.ค. 67 รวมกันที่ 2ล้านคน หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 9.6 หมื่นคนต่อวัน เพิ่ม 9% จากค่าเฉลี่ยนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยรายวันงวด 4Q66 ที่ 8.8 หมื่นคนต่อวัน (รวมนักท่องเที่ยวมาไทยงวด 4Q66 ที่ 8.1 ล้านคน : +14% QoQ, +49% YoY)หากเทียบกับ Pre-COVID คิดเป็นการฟื้นตัวสู่ระดับ 80% จากค่าเฉลี่ยรายวันงวด 1Q62 ที่ 1.2 แสนคนต่อวัน

 

• งวด 1Q67 ภาคท่องเที่ยวไทยมีแรงหนุนจากฤดูกาลท่องเที่ยวไทย และเทศกาลตรุษจีน วันที่ 10 ก.พ. 67 ซึ่งเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมออกเดินทางท่องเที่ยว

 

• ลุ้นปัจจัยสนับสนุนจาก วีซ่าฟรี ระหว่างจีนกับไทยในระยะถัดไป หลังหวัง อี้รมว.ต่างประเทศจีนเยือนไทย 26-29 ม.ค.นี้ ลงนามยกเว้นวีซ่าระหว่างกัน
ถาวรโดยรวมฝ่ายวิจัยฯ คาดตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยปี 2567 ที่ 31.5 ล้านคน(+12% YoY) แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่รวมจีนที่ 27.5 ล้านคน (+12% YoY)และนักท่องเที่ยวจีนมาไทย 4 ล้านคน เติบโต 14% จาก ปี 2566 ที่ 3.5 ล้านคน (ระดับปกติปี 2561 –62 เฉลี่ย 11 ล้านคนต่อปี)

สำหรับแนวโน้มกำไรปกติหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวไทย อย่าง AOT, AWC (ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์), CENTEL และ ERW งวด 4Q66 – 1Q67 เติบโตเป็นขั้นบันได QoQ หนุนด้วยตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยข้างต้น ส่วน MINT มองว่า 4Q66 ยังเติบโตQoQ และ YoY หนุนด้วยโรงแรมไทย และแผนการชำระคืนหนี้ เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่าย ก่อนที่ 1Q จะเข้าสู่ Low Season ของ NH Hotel (สัดส่วนราว 50% ของรายได้MINT) ใน EU

โดยฝ่ายวิจัยฯ เรียงลำดับหุ้นเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวที่โดดเด่นในช่วงนี้ จากมากสุดไปน้อยสุดดังนี้

AOT(Outperform : FV@B80) ในฐานะประตูสู่ประเทศไทย รับประโยชน์ตามการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว หนุนทิศทาง ROE ดีขึ้น

MINT(Outperform : FV@B35) จากแผนลดดอกเบี้ยจ่าย ผ่านการชำระคืนหนี้ เสริมแกร่งงบดุลและการขยายตัวของกำไร อีกทั้ง NH Hotel ลุ้น Sentiment บวกจากEvent อย่าง ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปวันที่ 14 มิ.ย. – 14 ก.ค. 67 ที่มีเยอรมนีเป็นเจ้าภาพ และโอลิมปิกที่ปารีสวันที่ 26 ก.ค. –11 ส.ค. 67


ERW(Outperform : FV@B6.7) เพราะแผนการขยายโรงแรม Hop inn ที่มีมาร์จิ้นสูงทั้งในไทยและต่างประเทศ


RESEARCH DIVISION
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส

เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม, CISA
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ไต่เส้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองดูหุ้นไทยไต่เส้น แถว 1370 +/- แบบพยาบามฝ่าด่าน 1380 จุด โดยเช้านี้ พี่ DELTA..

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้