ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook

สรุปภาพตลาดวานนี้ ตลาดดิ่งเหวทำ Low ผิดคาด จากแรงกดดันหุ้นใหญ่ทั้ง DELTA AOT คอมเมิร์ช CPALL CPAXT โรงไฟฟ้า GULF EA กลุ่มเจฯ JMART JMT SINGER SGC โรงกลั่น-ปั้ม BSRC SUSCO และอื่นๆ SCC AWC CPF รวมทั้งมีแรงขายหุ้นกลาง-เล็กด้วย เช่น CSS MASTER KLINIQ NETBAY GFC SAFE ส่วนหุ้นบวกสวนธนาคารรีบาวน์ KTB KBANK BBL และ INTUCH TFFIF เป็นต้น

แนวโน้มตลาดวันนี้ ผิดคาด...ปล่อยจอยก่อน
เมื่อแรงขายแบบผิดปกติกับหุ้นรายตัว ไม่ได้เกิดขึ้นชั่วคราวอย่างที่คิด ตลาดหุ้นไทยยังเล่นกับโมเมนตั้มขาลงไม่เลิก ดังนั้นกลยุทธ์วันนี้ เรายอมปล่อยจอย หยุดเล่นหุ้นชั่วคราว (ยิ่งซื้อ ยิ่งโดน จึงขอปล่อยจอย แล้วรอดูจังหวะใหม่)

ส่วนสาเหตุที่สื่อต่างๆ พากันหาเหตุ เช่น จีดีพี ไทยปี 2566 ขยายตัว 1.8% ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาด 2% ต่ำกว่าแบงก์ชาติคาด 2.4% ซึ่งระหว่างทางแบงก์ชาติปรับลงมาเรื่อยๆจาก 3.6%

เราเห็นว่า “ตลาดมองแค่ 2% อยู่ก่อนแล้ว ต่ำกว่าที่ แบงก์ชาติประเมินล่าสุด 2.4% ซึ่งเรามองว่า ตลาดน่าจะปรับลดความหวังไว้ไปแล้วระดับหนึ่ง จึงไม่น่าจะใช่เหตุผลทั้งหมดที่จะมารีบเร่ง ขายหุ้นไทยตอนนี้ เพราะแค่ตัวเลขเศรษฐกิจปีที่แล้ว”

ไม่ว่าจะเหตุผลใดๆ สุดท้ายหุ้นไทยยังคงตกลงต่อเนื่อง และผิดไปจากที่เราคาด ตั้งแต่ครั้งก่อน ที่เราบอกว่าหุ้นไทยจะไม่มี January effect เราจึงขอหยุดการ เรียกซื้อหุ้นเล่นรอบ และกลับมาหลบในหุ้น Defensive ตามที่เคยแนะการ Balance พอร์ต ด้วยหุ้น Low beta และถือเงินสดตุนไว้รอ วันที่ตลาดเริ่มเกิดสัญญาณให้เลือกหุ้นเล่นได้อีกครั้ง...

กลยุทธ์การลงทุน
ปรับโหมดกลับไปสู่รูปแบบ Defensive low beta ตุนเงินสด

วิเคราะห์ทางเทคนิค SET test low! ทดสอบจุดต่ำสุดที่เคยทำไว้ที่ 1,354 จุด (วันที่ 13 เดือนธ.ค. 2566) หลุดโซนรับที่ให้ไว้ที่ 1,360 ...สู้ไม่ไหว! แนะจับตา RSI กำลังเคลื่อนเข้าสู่เขต oversold…..มีโอกาสเด้งสั้นๆ อย่างไรก็ตามโครงสร้างดัชนีอ่อนแอ ขาดพลัง เสี่ยงลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 3 ปี แผนป้องกันความเสี่ยง หากราคาหุ้นปรับตัวลงต่ำกว่าโซนรับ จุดคัท แนะขายปิดความเสี่ยงออกไปก่อน Note: หุ้นตระกูล JMART ร่วง! เสี่ยงหลุด low แนะระมัดระวัง ส่วน KTB ดีดเด้งได้ตามแผน

What to watch
ITD ผู้ถือหุ้นกู้ อนุมัติการเลื่อนจ่ายหนี้ที่ครบกำหนด 4 รุ่น จาก 5 รุ่น ยังเหลืออีก 1 รุ่น จะประชุม 30 ม.ค.เดือนนี้
เข้าสู่ช่วง Black out ของเฟด ก่อนการประชุม 30-31 มค.นี้ ดังนั้นจะไม่มี เฟด สาขาใดออกมาให้ความเห็นเชิงนโยบายอีก แบบสัปดาห์ก่อนที่ออกมา เบรกความคาดหวัง เรื่องลดดอกเบี้ยของ ตลาด กดดันบรรยากาศลงทุน
นักเศรษฐศาสตร์ของเรายังคงคาดการลดดอกเบี้ยของเฟด น่าจะเริ่มเห็นช่วงครึ่งหลังปีนี้ หลังเศรษฐกิจสหรัฐ เริ่มเข้าสู่ โหมด Technical recession ตั้งแต่ไตรมาส 3 และ 4 โดยจะเห็น GDP สหรัฐฯ ติดลบ -1.1% และ -1.9% q-q
หากนโยบายแจกเงินหมื่น ติดขัดไม่สามารถทำได้ เราเห็นว่าจะกระทบต่อ ความเชื่อมั่นในนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลจำกัด
โบรกต่างชาติ แมคควอรี่ ปรับลดราคาเป้าหมาย AOT ลงเหลือ 54 บาท แนะนำ Underperform (ปรับลง 25%) และปรับราคาเป้าหมาย KBANK BBL KTB ลง ปรับราคาเป้าหมายขึ้นมี TTB ERW MINT
บลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำหนดนโยบายของจีนกำลังประเมินการใช้มาตรการมูลค่า 2 ล้านล้านหยวน (2.78 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อฟื้นฟูตลาดหุ้น โดยเม็ดเงินเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากบัญชีในต่างประเทศของบริษัทรัฐบาลจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกองทุนสร้างเสถียรภาพที่มีเป้าหมายเพื่อเข้าซื้อหุ้นในตลาดหุ้นจีนผ่านทางโครงการ Hong Kong Exchange Link
นอกจากนี้ แหล่งข่าวระบุว่า จีนได้จัดตั้งกองทุนในประเทศมูลค่าอย่างน้อย 3 แสนล้านหยวนเพื่อลงทุนในตลาดหุ้นจีนผ่านทางบริษัทไชน่า ซิเคียวริตีส์ ไฟแนนซ์ คอร์ป หรือ บริษัทเซนทรัล หุยจิน อินเวสต์เมนต์
ทั้งนี้ แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า รัฐบาลจีนกำลังพิจารณาทางเลือกอื่น ๆ และอาจจะประกาศใช้มาตรการบางอย่างโดยเร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้ หากได้รับการอนุมัติจากผู้นำระดับสูง

หุ้นแนะนำวันนี้
Wait and see

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน