Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

179

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 28 ธ.ค.66 ปิด +42 จุด อยู่ที่ 1,415.85 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,793 ลบ.ต่างชาติซื้อ 3,971 ลบ.สถาบันซื้อ 52 ลบ.พอร์ตโบรกขาย 139 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 2,529 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้น SCB,KBANK,BBL,BDMS,KTB และมียอดขายสุทธิ AOT,KCE,TLI,OSP,GULF มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 4,058 ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ OSP-R,ADVANC-R,GUNKUL-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 14,041 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 243,096 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 2,602 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.05%, S&P500 -0.28%, Nasdaq -0.56% ถูกแรงขายทำกำไรในวันทำการสุดท้ายของปี โดยดัชนีหุ้นสหรัฐปรับขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 9 ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอสังหา, สินค้าอุปโภคบริโภค และบริการสุขภาพ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.20% ปรับขึ้นติดต่อกัน 7 สัปดาห์ ได้แรงหนุนจากกลุ่มสื่อสาร, ธนาคาร    

 Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐปี 66 ที่ผ่านมา DJIA +7%, S&P500 +24.2%, Nasdaq +44.5% YTD ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี, บริการการสื่อสาร และสินค้าฟุ่มเฟือย หลังการประชุมเฟด 13 ธ.ค. ที่ผ่านมา เจอโรม พาวเวล ส่งสัญญาณยุติการปรับขึ้นดอกเบี้ย และคาดมีโอกาสลดดอกเบี้ย 0.75% ในปี 67 ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐคาดจะชะลอตัวแบบ Soft Landing ซึ่งเฟด GDP สหรัฐปี 67 +1.4%, เงินเฟ้อปี 67 คาดลดลงอยู่ที่ 2.4% และอัตราว่างงานอยู่ที่ 4.1% ส่งผลให้ CME Fed Watch คาดเฟดมีโอกาส 73.8% จะเริ่มลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 20 มี.ค. 67 และตลอดปี 67 คาดมีโอกาสลดดอกเบี้ย 6 ครั้ง รวม 1.50% ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่ม Growth ของสหรัฐ ส่วนตลาดหุ้นยุโรป Stoxx 600 +12.6% YTD ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี, ค้าปลีก หลัง CPI ยูโรโซน พ.ย.ลดลงอยู่ที่ 2.4% ใกล้ระดับเป้าหมายที่ 2% ดังนั้นตลาดจึงคาด ECB มีโอกาส 80% อาจเริ่มลดดอกเบี้ยในการประชุม มี.ค. 67 เช่นกัน ฝั่งเอเชีย MSCI Asia Pacific Index +8.7% YTD ได้แรงหนุนจากดัชนีนิเกอิปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 33 ปี จากนโยบายผ่อนการเงินแบบพิเศษ ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -4.5% YTD เป็นผลจากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช้า กอปรกับมีปัญหาหนี้ภาคอสังหา ฯ และ ม.ด้านการคลังจากรัฐบาลจีนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ปัจจัยต่างประเทศสัปดาห์นี้ ติดตาม PMI ภาคผลิต & บริการ ธ.ค. ของภูมิภาคต่าง ๆ , วันพฤหัส ADP จ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ ธ.ค. , ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และวันศุกร์ CPI ยูโรโซน ธ.ค. คาด 3.0% & พ.ย. 2.4% YoY, จ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ธ.ค. คาด 163,000 & พ.ย. 199,000 ราย สำหรับดัชนี SET ปี 66 -15.1% YTD ต่างชาติขาย 1.92 แสน ลบ. รายย่อยซื้อ 1.16 แสน ลบ. สถาบันซื้อ 8.1 หมื่น ลบ. โดย Fund Flow ไหลออกหลัง ธ.กลางหลักเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ปัจจัยในประเทศ GDP ไทยปี 66 คาด +2.4% YoY เป็นผลจากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้า, ส่งออกชะลอตัว กอปรนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นจากกรณีหุ้น STARK, MORE รวมถึงกรณี Naked Short โดยปี 67 นี้คาดดัชนี SET ได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจไทยคาด +3.2% YoY และธนาคารหลักๆ เริ่มลดดอกเบี้ย กอปร BB.Consensus คาด EPS ตลาดหุ้นไทยปีนี้ +16%

Daily Strategy

  • ประเมินดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,405 – 1,410 แนวต้าน 1,420 – 1,425 รอประเมิน Fund Flow ต่างชาติ แนะนำทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT,CRC,COM7 ได้ประโยชน์จาก ม.Easy E-Receipt / เก็งกำไร XPG,BROOK,TTA (BitCoin เช้านี้ +5.9%)
  • SAPPE* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 94.00 บาท) แนวโน้ม 4Q66 คาดกำไรโตได้ YoY แต่ลดลง QoQ ตามฤดูกาลที่เป็น Low Season อย่างไรก็ตามมองข้ามไปปีหน้าโดยเฉพาะใน 2Q-3Q ทีเป็น Seasonal ของธุรกิจและมีการขึ้นไลน์ผลิตใหม่ โดยผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 67 เติบโต 20-25%YoY และแตะ 1 หมื่นล้านบาทในปี 69 จากการขยายไลน์ผลิตและแผนออกสินค้าใหม่ ส่วนตลาดส่งออก (สัดส่วนรายได้ 75%) ยังเป็นตัวขับเคลื่อนหลักทั้งในยุโรปและเอเชีย ประกอบกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตรวมถึงต้นทุนบรรจุภัณฑ์ที่เริ่มลดลงจะช่วยบรรเทาผลกระทบต้นทุนน้ำตาลที่ล็อกราคาไว้ในช่วงที่ราคาสูง ทั้งนี้ตลาดคาดการณ์กำไรปี 66 ที 1 พันล้านบาท +69%YoY และปี 67 ที่
  • TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมายปี67 17.80 บาท) กำไรสุทธิงวด 3Q66 อยู่ที่ 1,206 ลบ.-52.34%YoY, +17.23%QoQ เห็นการฟื้นตัวได้ต่อเนื่องชัดเจน QoQ ได้แรงหนุนจาก ยอดขายธุรกิจ PetcareและValue-added +19%QoQ และ 2.ต้นทุนราคาปลาทูน่าที่อ่อนตัวลงจากระดับ 2,000 usd/ton สำหรับการดำเนินงานในช่วง 4Q66 เราคาดหวังว่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ต่อ โดยนอกจากประเด็นการกลับมาสั่งซื้อสินค้าของลูกค้าแล้ว(เดิม inventory คู่ค้าอยู่ในระดับสูง) ปัจจัยหนุนการฟื้นตัวยังจะมาจาก 1.ต้นทุนปลาทูน่าที่เห็นการอ่อนตัวลงมาอย่างต่อเนื่องโดยราคา skip jack tuna ในเดือน 11 อยู่ที่ 1,500 usd/ton และ 2.การเปิดตลาดใหม่ๆของธุรกิจ Petcare โดยเฉพาะในจีน ปัจจุบัน เราคาดกำไรสุทธิปี66 และ ปี67 ของ TU ที่  4,588 ลบ.(-35.72%YoY) และ 6,318ลบ.(+37.70%YoY)

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

น้ำขึ้นให้รีบตัก By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดบวก หุ้นขึ้น วันนี้ น้ำขึ้นให้รีบตัก หรือเทขายกำไรไว้ก่อน ด้วยพรุ่งนี้ ตลาดเรา ...........

งบท่องเที่ยว By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง วันนี้ ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ยังคงแกว่งตัว ในกรอบแคบๆ ส่วนการเก็งกำไรนั้น หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้